“อัตราการเสียชีวิตของวัยทำงานเสียชีวิตจาก “อุบัติเหตุ มะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด…สูง”
ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติประเทศไทย มีวัยแรงงาน 37.61 ล้านคน หากคนกลุ่มนี้มีสุขภาพดี จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ แต่จากสภาพแวดล้อมในการทำงาน การดำเนินชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้คนวัยทำงาน ขาดการออกกำลังกาย มีความเครียดสูง พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข เผยวัยทำงานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มะเร็ง และโรคหัวใจและหลอดเลือด สูง รวมทั้งมีปัญหาความเครียดจากป่วยโรคเรื้อรัง หนี้สิน และวัยทำงานเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว และถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศอีกด้วย
จากสถิติและข้อมูลดังกล่าวที่ได้กล่าวไปข้างต้นแสดงให้เห็นถึงการสร้างเสริมและส่งเสริมสุขภาพของคนในวัยทำงาน หรือการจัดการต่อความเครียดหรือปัญหาของคนในวัยทำงานที่อาจโดนมองข้ามไป
โดยจากการฟังบรรยายในหัวข้อ Work life balance สามารถถอดบทเรียนได้ ดังนี้
และจากการฟังบรรยายในหัวข้อ พยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ สามารถถอดบทเรียนได้ ดังนี้
จากทั้งสองเรื่องทำให้ได้เห็นทั้งปัญหาและแนวทางการป้องกันสามารถนำความรู้จากทั้งสองเรื่องมา Integrative กันได้ จากมุมมองของดิฉัน นักศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัย มหิดล มองว่า ปัญหาการทำงานหรือการเรียน หรือการทำอะไรที่มากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การดำเนินชีวิต ก็จะมีกระบวนการแก้ไขปัญหาหรือการจัดการความเครียด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือการดำเนินชีวิตมากนัก เช่น เรียนรู้ถึงกระบวนการจัดการความเครียด ปัญหาที่เข้ามา balance สิ่งต่าง ๆ ให้เหมาะสมตามความพึงพอใจของตนเองอย่างไม่ส่งผลต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หากมองในมุมนโยบายหรือรัฐบาลก็ควรที่จะมีนโยบาย เช่น อาจะเริ่มต้นจากชุมชนที่่อาศัยอยู่โดยเรียนรู้จาก พยาบาลชุมชน หรืออสม. ที่มีบทบาทและถือเป็นจุดเล็กๆที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่ เป็นด่านหหน้าที่จะกระจายความรู้ คงไว้ซึ่งความรู้ในชุมชน เพื่อส่งเสริมและป้องกันปัญหาดังกล่าวให้แก่วัยทำงานที่ถือเป็นประชากรส่วนมากในประเทศอีกด้วย นอกจากนี้นักกิจกรรมบำบัดรวมถึงสหวิชาชีพต่าง ๆ ก็สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยส่งเสริมหรือป้องกันปัญหานี้ได้ นักกิจกรรมบำบัดอาจเข้ามามีส่วนช่วยในการให้คำปรึกษาหรือช่วยปรับ routine ได้ในบางส่วน และในกระบวนการทางกิจกรรมบำบัดนั้นสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงจากการปฏิบัตินกระบวนการทางกิจกรรมบำบัด ดังนี้
Hazard risk —-> Avoid
Hazard risk : หากเกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างอาจทำให้ผู้รับบริการเกิดโรค หรือเป็นความเสี่ยงขั้นรุนแรงต่อการเกิดโรค ที่นักกิจกรรมบำบัดจะต้องรับมือกับต่อผู้รับบริการ ซึ่งก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้นก็สามารถป้องกันความเสี่ยงนี้ได้โดยการ หลีกเลี่ยง สิ่งที่จะเกิดขึ้น (Avoid) เช่น ป้องกันหรือส่งเสริมการทำกิจกรรมที่มีความหมาย ช่วยปรับ routine ให้สมดุลมากขึ้น รวมถึงให้คำปรึกษาต่าง ๆ
Operational risk —-> Modify
Operational risk : เป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางกิจกรรมบำบัด ที่อาจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในการทำกระบวนการทางกิจกรรมบำบัด ก็จะต้องดูความเหมาะสมและมีการปรับเปลี่ยนเพื่อลดความเสี่ยงในกระบวนการทางเทคโนโลยีนี้ให้เพื่อตรงตามความต้องการและบริบทของผู้รับบริการ (Modify)
Strategic risk —-> Retain, Exploit
Strategic risk : เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎระเบียบ สภาพแวดล้อม สังคมที่ขัดขวางหรือทำให้เกิดปัญหาที่ผู้รับบริการกำลังเผชิญกับปัญหาการทำงานนี้ ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวจะแก้ไขได้ยาก โดยจะต้องการป้องกันความเสี่ยงด้านนี้ที่จะเกิดขึ้น และเพื่อคงไว้เพื่อความที่เป็นประโยชน์แก่ผู้รับบริการในการทำงาน และเริ่มต้นด้วยการฝึก ปรับเปลี่ยนจากตัวผู้รับบริการเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่ขัดขวางมากยิ่งขึ้น (Retain to Exploit)
สุดท้ายนี้จากการฟังบรรยายและได้ถอดบทเรียนมานี้สามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตตนเอง คือ ทำให้ได้ย้อนมองตัวเองว่าทำงานหนักไปหรือเรียนหนักเกินไปไหม ควรที่จะมีการปรับเปลี่ยนหรือป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นไม่ให้เป็นผลกระทบในวงกว้างต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิต นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้กับวิชาชีพทางพยาบาลที่เรียกว่า พยาบาลชุมชน ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก ได้ฟังประสบการณ์จากการเล่าถึง วิชาชีพพยาบาลชุมชนที่ได้แพร่กระจายไปจนเป็นที่รู้จัก ก็มีความอยากที่จะนำมาใช้กับวิชาชีพกิจกรรมบำบัดของตนเองให้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้เห็นถึงหน้าที่ในการปฏิบัติงานของพยาบาลมากยิ่งขึ้นก็ทำให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพ ที่จะมีการทำงานที่ไม่ซ้อนทับกัน นอกจากนี้การส่งเสริมรวมถึงผลกระทบของปัญหาการทำงานการใช้ชีวิตต่าง ๆ ก็ยังสามารถนำมาใช้วิเคราะห์หรือเป็นความรู้ในโครงงานที่จะจัดทำขึ้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการป้องกันและส่งเสริม รวมถึงสาเหตุของปัญหาในผู้สูงอายุที่อาจเป็นผลมาจากวัยทำงาน และชัดมากคือการทำงานด้วยสหวิชาชีพที่จะทำให้เห็นภาพการจัดทำโครงการมากยิ่งขึ้น ดิฉันจะนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้และต่อยอดในวิชาชีพกิจกรรมบำบัด และนำความรู้ที่ได้มาเป็นความรู้เพื่อปรับประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้คนรอบข้างอย่างสูงที่สุด
Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. วัยแรงงานเสียชีวิตจาก ‘อุบัติเหตุ มะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด’ สูง [เข้าถึงเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2016/04/12092
College of Occupational Therapists of Ontario. 2563. “Managing Risks in Occupational Therapy Practice” [เข้าถึงเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.coto.org/docs/default-source/prep-modules/2020-prep-managing-risks-in-occupational-therapy-practice-(english).pdf?sfvrsn=f2ac6756_2
6423008 พัชรพร ผ่องผล
ไม่มีความเห็น