ปี ๒๕๖๔ เรางดเพราะวิกฤติโควิด ปี ๒๕๖๕ เรานัดทำบุญที่วัดหัวถนน วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๕
แต่ลูกหลานหลายคนไปไม่ได้ เพราะติดงาน ลูกผม ๔ คนไปไม่ได้เลย ผมไปกับภรรยาโดยมีคนช่วยขับรถให้ อาการของภรรยาบอกสัญญาณว่าปีนี้อาจเป็นปีสุดท้ายที่เธอไปร่วมได้ และสะกิดผมว่า ผมอาจต้องลงทุนซื้อรถที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้คนนั่งรถเข็นขึ้นลงรถได้สะดวก เพื่อพาภรรยาไปไหนๆ ด้วยกันได้
งานแรก ค่ำวันที่ ๗ ตุลาคม ที่ร้านครัวพริกสด ต. ท่ายาง ช่วยให้ผมได้สังเกตว่า วงจรชีวิตมนุษย์หมุนไปเรื่อยๆ มีหลานๆ ที่เป็นเด็กรุ่นใหม่เพิ่มจำนวนขึ้น เติบโตขึ้น และรุ่นอาวุโสก็โรยราลงไป คนที่สุขภาพอ่อนแอที่สุดคือภรรยาของผม ปีที่แล้วเราก็ไปกินร้านนี้ คราวนี้รู้สึกว่ารสชาติอาหารด้อยลง
เด็กๆ ได้มาชุมนุมกันจำนวนมาก วิ่งเล่นกันสนุกสนาน
งานที่สอง คืองานสวดทำบุญ และเลี้ยงพระเพล ตามด้วยการเลี้ยงญาติมิตร ที่วัดหัวถนน วัดเจ้าประจำของพวกเรา เริ่มจาก ๑๐ น. วันที่ ๘ ตุลาคม และเลิกราวๆ ๑๓ น. ลักษณะงานก็คล้ายๆ ปีก่อนๆ แต่อาหารเปลี่ยนไปตามปี ปีนี้เป็นโต๊ะจีน
ข้อแตกต่างมากที่สุดอยู่ที่น้องคนที่ ๒ นายวิชิต พานิช อายุ ๗๓ ปี ผู้เคยมีน้ำหนัก ๑๐๐ กก. สูง ๑๘๐ ซม. และเป็นคนขี้โรค บัดนี้น้ำหนัก ๘๐ และผ่าตัดไส้เลื่อนลูกเท่ากำปั้นออกไป กลายเป็นคนประเปรียว และสุขภาพดี
งานที่สาม เย็นวันที่ ๘ ตุลาคม งานเลี้ยงครอบครัวพี่น้อง ที่ร้านครัวริมเล บ้านปากหาด หมู่ที่ ๓ ตำบลท่ายาง อ. เมือง ชุมพร โดยนัดไปกันตั้งแต่ห้าโมงเย็นเพื่อชมวิวริมทะเลที่งดงามให้ความสดชื่น รวมทั้งได้รู้จักภูมิศาสตร์ชายทะเลชุมพรส่วนนี้ ที่หากเลยแหลมคอกวางขึ้นไปทางเหนือจะเป็นหาดทุ่งวัวแล่นที่มีชื่อเสียง บริเวณนี้ถือเป็นย่านอาหารทะเลในบรรยากาศริมทะเลที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพรในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และร้านนี้อาหารอร่อย และราคาไม่แพง พวกหลานๆ อายุน้อยๆ กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยสนุกสนาน
งานทั้งหมดนั้น พี่น้อง ๖ คนลงขันคนละ ๑ หมื่นบาท
วิจารณ์ พานิช
๙ ต.ค. ๖๕
1 หกหนุ่ม (น้อย)
2 หกหนุ่ม หกสะใภ้
3 หกสาว (น้อย)
4 อ่าวปากหาด มองเห็นแหลมคอกวาง
5 ถ่ายไปทางปากน้ำชุมพร
6 บรรพบุรุษสายชุมพร
7 บรรพบุรุษสายไชยา
8 บรรพบุรุษสายแม่
9 บอนดำ
10 กระเช้าสีดา
ท่านพุทธทาส ก็เป็นญาติสายอาจารย์ด้วย สาธุค่ะ