ฝนตกพรำๆ ทำให้คิดถึงต้นไม้ที่เพาะชำไว้นานแล้ว ลำต้นแข็งแรงได้เวลานำลงดินในบริเวณโรงเรียน ส่วนที่เหลือจะให้นักเรียนนำไปปลูกที่บ้าน
ชื่อต้น”เหลืองปรีดิยาธร” ที่คุ้นเคย เพราะมองเห็นลำต้นแม่เกือบสิบต้น ที่ปลูกอยู่ตามแนวรั้วเก่าหน้าโรงเรียน แต่ละต้นล้วนสูงใหญ่ ด้วยฝีมือการปลูกของภารโรง เมื่อ ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา
ทุกปี เมื่อฝักร่วงหล่น เมล็ดจะงอกต้นใหม่ให้นักเรียนได้ขุดมาใส่กระถาง วันนี้นับได้หลายสิบต้น ผมเลือกต้นสวยๆออกมาจัดวางเตรียมไว้ ๑๒ ต้น
ทบทวนวันเวลาที่ผ่านเลย ไม่เคยนิ่งเฉยเรื่องราวของการปลูกต้นไม้ตลอด ๑๖ ปีที่ผ่านมา ต้นเหลืองปรีดิยาธรข้างหน้าโรงเรียน คือต้นแบบที่โดนใจ ให้สีสันและสร้างแรงบันดาลใจมิใช่น้อย
เมื่อคิดได้ว่าคนรุ่นเก่าก่อนปลูกไว้ ให้ความร่มเย็นเป็นสุข ดังนั้นยังเหลือเวลาอีก ๑ ปีก่อนเกษียณก็ควรจะปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึกบ้าง เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน ถิ่นที่ได้รับราชการ
ผมเลือกบริเวณริมสระน้ำ ใกล้กับแนวรั้วที่สร้างใหม่ ปลูกเป็นแถวแนวเดียวกับต้นแม่ ฤดูฝนแบบนี้ มีทีท่าว่าจะรอดทุกต้น คงใช้เวลาเพียง ๓ ปีเท่านั้น ลำต้นก็จะสูงเลยรั้วอย่างแน่นอน
เสร็จภารกิจจากโรงเรียน ก็ได้เวลาไปโคกหนองนา สวนป่าที่ฝันเห็นอยู่ทุกค่ำคืน และวางแผนต่อเนื่องว่าจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน วันนี้จะนำกอบัวออกจากบ่อปลาเป็นบางส่วน
บ่อปลาขนาดใหญ่ นำกอบัวออกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้อาหารปลาได้สะดวกมากขึ้น ส่วนบ่อเล็กมีบัวไม่มาก แต่ต้องเอาบัวออกให้หมด เพื่อจะได้มองเห็นปลาสลิดและปลาตะเพียนว่าเจริญเติบโตมากน้อยแค่ไหน
พอมีเวลาเหลือก็เดินดูดงไผ่ที่รอดมาได้จากน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ส่วนไม้ยืนต้นอื่นๆ สังเกตพบว่าสูงใหญ่ตามๆกันไป มองดูคล้ายกับสวนป่าเข้าไปทุกที
มองให้ดีก็เหมือนศูนย์การเรียนรู้อยู่บ้างเป็นบางส่วน เพียงแต่กิจกรรมด้านเกษตรอินทรีย์ยังมีไม่มาก แต่ก็สร้างบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกบันเทิงเริงรมย์ให้อยากเดินเล่นไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะสะพานข้ามคลอง ที่ทำให้เดินข้ามไปข้ามมาอย่างสะดวก เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ปลอดภัย มองเห็นแต่ไกล สร้างมูลค่าเพิ่มแก่โคกหนองนา มากี่ครั้งก็ตาม ก็ต้องมาหยุดยืนอยู่บนสะพานแห่งนี้ เพื่อชื่นชมบัวที่กำลังเบ่งบาน
งานวันหยุดราชการก็มีเท่านี้เอง ได้ทั้งงานโรงเรียน และสรรค์สร้างงานที่โคกหนองนา ต้องทำงานให้คืบหน้า เพื่อจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ตัวเอง จะไม่ทำตัวคว้างเคว้งและเปลี่ยวเหงา ตลอดจนจะต้องไม่เศร้าหมองต่อเรื่องราวใดๆ ทำใจให้เบิกบานทุกวันกับงานอันเป็นที่รักแบบนี้
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๔ กันยายน ๒๕๖๕
ไม่มีความเห็น