จิตใจของเรา เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดเพียงเครื่องมือเดียว ในการบรรลุผลการปฏิบัติงานทุกประเภท ซึ่งเป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ว่า สมองควบคุมร่างกาย
จิตเป็นนาย
Elite Minds
พลตรี มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
7 กรกฎาคม 2565
บทความเรื่อง จิตเป็นนาย (Elite Minds) ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง Elite Minds: How Winners Think Differently to Create a Competitive Edge and Maximize Success ประพันธ์โดย Dr. Stan Beecham จัดพิมพ์โดย McGraw-Hill Education © 2016
ผู้ที่สนใจเอกสารนี้ในรูปแบบ PowerPoint สามารถ download ได้ที่ Elite Minds.pptx (slideshare.net)
เกี่ยวกับผู้ประพันธ์
-
Dr. Stan Beecham เป็นนักจิตวิทยาการกีฬาและที่ปรึกษาด้านภาวะผู้นำ เขาอาศัยอยู่ในเมือง Roswell รัฐ Georgia เขาเป็นวิทยากร และเป็นผู้อำนวยการและสมาชิกผู้ก่อตั้งของ Leadership Resource Center ในเมือง Atlanta รัฐ Georgia
- ทุกวันนี้ เขาทำงานกับนักกีฬาระดับมหาวิทยาลัย โอลิมปิก และนักกีฬาอาชีพ จากกีฬาหลายประเภท ทำให้เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจิตใจของนักกีฬาชั้นแนวหน้า ที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่โชคดี
-
Beecham นำภูมิปัญญาของเขามาสู่โลกธุรกิจ ที่เขาพัฒนาและสร้างโปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำ สำหรับองค์กรต่าง ๆ
เกริ่นนำ
- จิตใจของเรา เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดเพียงเครื่องมือเดียว ในการบรรลุผลการปฏิบัติงานทุกประเภท ซึ่งเป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ว่า สมองควบคุมร่างกาย
- จิตใจของเราจึงมีหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่างที่ร่างกายทำ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เหมือนกับซอฟต์แวร์ควบคุมคอมพิวเตอร์
- การฝึกจิตเพื่อให้มีพลังและมีส่วนร่วมในการบรรลุความสำเร็จแทนที่จะเป็นสิ่งกีดขวาง เป็นสิ่งสำคัญในทุกกิจกรรม ด้วยเหตุนี้ Elite Minds จึงพูดถึงการเสริมสร้างสมองให้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ที่คุณต้องก้าวไปข้างหน้าในชีวิต แทนที่จะปล่อยให้มันเป็นอุปสรรคในเส้นทางของคุณ
คำสาปของความสมบูรณ์แบบ
- นักกีฬาชั้นแนวหน้าส่วนใหญ่ ตั้งแต่นักกอล์ฟไปจนถึงนักยิมนาสติก มักจะมีสมาธิจดจ่อ มีระเบียบวินัย และมีความสมบูรณ์แบบ ความเชื่อของพวกเขาคือ ความปรารถนาที่จะ "สมบูรณ์แบบ" ซึ่งจะทำให้พวกเขาดีขึ้น น่าเสียดายที่สิ่งนี้ไม่เป็นความจริงเสมอไป บ่อยครั้ง ความปรารถนาที่จะสมบูรณ์แบบเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
- เมื่อเราพยายามที่จะสมบูรณ์แบบ (การไม่ทำผิดพลาดใดๆ) ซึ่งในความจริงแล้ว ความสำเร็จคือการตอบสนองต่อความผิดพลาดของคุณ คนที่มีแนวโน้มเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบ มักตอบสนองต่อความทุกข์ยากหรือความพ่ายแพ้ได้ไม่ดี เพราะความเชื่อของพวกเขาคือ ถ้าฉันทำถูกต้อง จะไม่มีการล้มเหลว”
- การไม่เข้าใจว่า ความล้มเหลวว่าเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแห่งความสำเร็จ จะนำไปสู่ความล้มเหลวที่มากขึ้น บางทีวิธีที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดในการบรรลุความสำเร็จคือ ล้ม 100 ครั้ง ลุกขึ้น 101 ครั้ง
ยอมรับทั้งดีและไม่ดี
- เราต้องยอมรับว่า บ่อยครั้งเรามีวันที่ไม่ดี ความสามารถในการยอมรับความผันผวนของเรื่องเหล่านี้ ช่วยให้นักกีฬายังคงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการฝึกฝนและรักษาเป้าหมายให้สูงไว้
- วิธีที่คุณทำงานในช่วงวันที่ดีไม่ได้กำหนดลักษณะนิสัยของคุณ แต่วิธีที่คุณทำงานในวันที่เลวร้ายนั่นคือการทดสอบที่แท้จริง เพื่อให้คุณบรรลุศักยภาพ คุณต้องรู้ว่า คุณตอบสนองต่อผลงานที่ไม่ดีอย่างไร นี่เป็นข้อมูลสำคัญที่คุณจะก้าวไปข้างหน้าได้
- ถ้าความสมบูรณ์แบบไม่ใช่เป้าหมาย แล้วมันคืออะไร? ง่ายมาก ทำให้ดีที่สุด แค่นั้นแหละ
- ทุกๆวัน จงตั้งใจทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้กับสิ่งที่คุณมีในวันนั้น ข้อควรจำคือ เป้าหมายไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ พยายามอย่างเต็มที่ และฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากความล้มเหลว
อะไรคือความสมบูรณ์แบบ
-
Beecham เชื่อว่า ระดับความสำเร็จที่คุณบรรลุและวิธีดำเนินการของคุณนั้นมาจากจิตใจ 100%
- จิตใจมีหน้าที่ดูแลร่างกาย (สมอง = ซอฟต์แวร์ ร่างกาย = ฮาร์ดแวร์) เรามักเข้าใจผิดว่า ให้เรามุ่งเน้นที่ความสามารถและประสบการณ์ ซึ่งยังไม่เพียงพอ
- จิตใจของคุณเป็นทรัพย์สินหรือเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของคุณ? ความจริงคือ พวกเราเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจถึงสิ่งที่เราเชื่ออย่างแท้จริง เกี่ยวกับตนเองและโลกรอบตัวเรา 'สิ่งที่คุณเชื่อเกี่ยวกับตัวเองและโลกของคุณ เป็นปัจจัยหลักในสิ่งที่คุณทำ และท้ายที่สุดคุณจะทำมันได้ดีเพียงใด'
- การเรียนรู้โดยไม่รู้ตัว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนำไปสู่นิสัยที่ไม่รู้ตัวของเรา
ความมั่นใจ
- ความมั่นใจ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการอธิบายระบบความเชื่อของเรา
- ความมั่นใจเป็นความคิดหรือความรู้สึก? คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นความรู้สึก แต่เมื่อคุณมีสติสัมปชัญญะ จะรู้ว่ามันคือความคิด
- เพื่อเพิ่มความมั่นใจ คุณต้องทำงานในระดับที่มีสติ ด้วยความมั่นใจในสิ่งที่คิด
- และเมื่อคุณตระหนักว่าคุณมีความเชื่อเชิงลบและผิดๆ เกี่ยวกับตัวเอง คุณสามารถแทนที่สิ่งเหล่านี้ด้วยมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น
- เมื่อผู้คนหานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ มักจะเป็นเพราะพวกเขาต้องการที่จะรู้สึกแตกต่าง และมีความจำเป็นต้องพูดถึงความคิดที่อยู่เบื้องลึกในใจ
การตั้งเป้าหมาย
- ความสำคัญของ ความตั้งใจ (intentions) คือ ทำไมมาก่อนอะไรและอย่างไร (Why before what and how) เป้าหมายเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรและอย่างไร แต่ความตั้งใจระบุว่าทำไม?
- ปัญหาของการตั้งเป้าหมายส่วนใหญ่คือ เราตั้งไว้อย่างปลอดภัยเกินไป เริ่มต้นเขียนเป้าหมายของคุณว่าคุณทำได้ 100% ต่อมาเขียนใหม่เป็น 90,80,70%? คุณกลัวมากไปหรือเปล่าที่จะมีอะดรีนาลีน (ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อตื่นเต้น) ทำให้ตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 60% 'นั่นคือเป้าหมายของคุณหรือ?’
- ถ้ามันไม่ได้ทำให้คุณกลัว มันก็ไม่คุ้มที่จะเป็นเป้าหมาย และต้องฆ่าแผน B ด้วย ถ้าแผน B ของคุณคือการวางแผนของคุณเผื่อจะล้มเหลว 'ฆ่าแผน B ไม่อย่างนั้นมันจะฆ่าคุณ’ (ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ตอนที่พระเจ้าตากสินมหาราช ยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี ก่อนกู้เอกราช – ผู้แปล)
ความเชื่อที่ผิดในเรื่องต้องทำให้ได้ 110%
- มีความสัมพันธ์กันระหว่าง ความพยายามและผลงาน แต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงบวกเสมอไป เราจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความพยายามทางกายและความพยายามทางจิตใจ
- ในสภาวะที่ลื่นไหล (จิตใจที่สงบนิ่ง) แทบจะไม่รู้สึกว่าต้องมีความพยายามทางกาย
- และการมีความพยายามทำให้มักนึกถึงการต่อต้าน แต่บ่อยครั้ง สิ่งที่ดีที่สุดของเราคือ การยอมรับสภาพความเป็นจริงมากกว่าการต่อต้าน
- ให้ถามทุกวันว่า ฉันได้ทำให้ดีที่สุดและเป็นการก้าวไปสู่เป้าหมายของฉันแล้วหรือยัง
ความคาดหวัง
- เกี่ยวกับการตั้งความคาดหวัง 'ทุกคนต้องการเหรียญรางวัล แต่เฉพาะผู้ที่เชื่อจริงๆ ว่าพวกเขาจะได้รับเหรียญเท่านั้นที่มีโอกาส การอยากได้เหรียญเป็นความปรารถนาอย่างมีสติ ความคาดหวังว่าจะได้เหรียญนั้นเป็นจิตใต้สำนึก’ ไม่ใช่เพียงมีโชค แต่เป็นความคาดหวังของคุณที่กำหนดความสำเร็จ
- 'ความคาดหวังเป็นตัวกำหนดผลงาน ทุกคนต้องการชนะ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ตั้งความหวังว่าจะชนะ'
ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าการแสดงเดี่ยว ให้สร้างทีม
- รับสมัครและเลือกคนที่เหมาะสม
- พัฒนามิตรภาพที่แข็งแกร่ง (ความไว้วางใจ และความสัมพันธ์)
- สร้างระบบค่านิยมที่ใช้ร่วมกัน
- ต่อสู้ไปด้วยกัน ไม่ทำร้ายกันเอง
- ปลูกฝังการเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง
- กำหนดเป้าหมายของทีมให้ชัดเจน
3 องค์ประกอบหลักในการสร้างผลงาน ความเชื่อ ความคิด และพฤติกรรม
- เมื่อสามสิ่งเหล่านี้มีความสอดคล้องกัน ผลงานจะออกมาสูง
-
ความเชื่อ เป็นสิ่งสำคัญว่ามาจากไหน
-
ความคิด คือมีสติสัมปชัญญะ มักจะเป็นผลพลอยได้ของความเชื่อ (การเปลี่ยนความคิดง่ายกว่าเปลี่ยนความเชื่อ ความพยายามส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่จุดนี้ สุดท้ายแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนความเชื่อโดยไม่รู้ตัว ผ่านความคิดที่มีสติสัมปชัญญะได้)
-
พฤติกรรม สิ่งที่เราทำ
- เมื่อมีการเปลี่ยนสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหล่านี้แล้ว คุณจะรู้สึกไม่สบายใจ
ความคิดหลัก
- เป็นไปตามชื่อหนังสือ ที่ Beecham บอกเราว่า จิตใจ (MINDS) นั้น สร้างความแตกต่างในการทำงานในระดับสูงได้อย่างยั่งยืน คือสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มความสำเร็จได้สูงสุด ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญได้แก่
- เรื่องที่คุณเข้าใจผิด (คุณยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิด)
- คำสาปของความสมบูรณ์แบบ (จำไว้ว่าอาจมีการเล่นที่ไม่ดีบ้าง)
- ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "แข่งขัน" ("ต่อสู้กัน" ไม่ใช่ต่อต้าน)
- คำว่า "ประกวด" (เป็นไปตามสัญญา!)
- คู่ต่อสู้สูงสุดของคุณ (ความกลัว!!)
- และ คำถามสุดท้าย จะไปต่อหรือไม่ไป (คำตอบคือ ไป!!!)
สามบทเรียนจากหนังสือเล่มนี้
- 1. โอกาสที่คุณจะทุกข์จากการมองตนเองที่ผิดพลาดนั้น มีค่อนข้างสูง (The chances of you suffering from a mistaken identity are quite high)
- 2. วันที่เลวร้ายและความยากลำบากในเส้นทางสู่ความสำเร็จ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่คุณต้องยอมรับ (Bad days and hardship on the way to success are a part of the process that you must accept)
- 3. กำจัดความกลัวและใช้ศักยภาพสูงสุดของคุณ ในก้าวไปสู่ความฝันของคุณ (Kill fear and embrace your highest potential by taking that jump towards your dreams)
บทเรียนที่ 1 การบรรลุศักยภาพของคุณอาจล่าช้า เนื่องจากการระบุตัวตนที่ผิดพลาดของคุณ
- จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณยังไม่ได้พบตัวตนของตัวเองที่ดีที่สุด? โอกาสคือจะไม่มีใครอื่นพบ! เมื่อติดตามสมมติฐานนี้ไปต่อ อาจดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้จักคุณจริงๆ รวมทั้งตัวคุณเองด้วย อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเกินไปนัก
- การไม่ใช้ชีวิตอย่างมีศักยภาพสูงสุด เป็นการสิ้นเปลืองความสามารถและอาจทำให้คุณรู้สึกอนาถ
- นั่นเป็นเพราะคุณยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณ เราเป็นมากกว่าที่เราคิด ในฐานะมนุษย์ เรามีเป้าหมายที่จะทำให้สำเร็จ ภารกิจที่ต้องทำ และมีความเก่งเพื่อการใช้ประโยชน์
- อย่างไรก็ตาม เราทุกคนต่างถูกพามายังโลกนี้เพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ โดยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร หรือแม้แต่ไม่รู้ว่าปลายทางสุดท้ายคืออะไร สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ จนกว่าเราจะไปถึงขั้นนั้น เรายังไม่เข้าใจพลังของจิตสำนึก
- ความคิดของคุณคือคุณ และนั่นเป็นพลังพิเศษเพียงอย่างเดียวที่คุณต้องการ เพื่อเอาชนะอุปสรรคและความยากลำบาก แล้วจึงจะบรรลุศักยภาพของคุณ นี่เป็นก้าวแรก จากนั้น การเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็งเพื่อมองโลกอย่างมีจุดมุ่งหมาย เป็นภารกิจที่คุณต้องทำให้สำเร็จ
- การบรรลุเป้าหมายทั้งหมด เป็นผลโดยตรงจากการกระทำของจิตใจที่มีต่อร่างกายของคุณ
- เมื่อถึงขั้นนั้น คุณจะพบตัวตนที่แท้จริงของคุณในที่สุด สิ่งที่ต่ำกว่าตัวตนที่ดีที่สุดของคุณคือการมองตัวตนของตนเองที่ผิดพลาด และคุณต้องดำเนินชีวิตตามแนวคิดนี้ จึงจะประสบความสำเร็จได้
บทเรียนที่ 2 เวลาที่ท้าทาย เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสู่ความสำเร็จ
- แนวโน้มของความพอใจแต่สิ่งดีเลิศและความวิตกกังวลเรื่องต้องมีผลงานสูงกำลังครอบงำโลก และมันทำให้ผู้คนเสียสติไปอย่างน่าเสียดาย ความสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้คนคิดว่าไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาทำได้ดีพอ (ตราบเท่าที่พวกเขาประสบความล้มเหลวและมีวันที่เลวร้าย) เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด!
- วันที่ไม่ดีเหล่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ไม่มีบุคคลใดที่ประสบความสำเร็จไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่ได้พบกับความยากลำบากระหว่างทาง แม้ว่าคุณจะบรรลุเป้าหมายแล้ว คุณก็ยังมีวันที่แย่ มันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังทำอะไรผิด แต่มันเป็นเพียงกฎสากลของชีวิต
- เรากำลังพูดถึงวันที่เลวร้ายสักกี่วัน? ชีวิตของทุกคนแตกต่างกัน และเราทุกคนต้องเผชิญกับปีศาจของตัวเอง แต่จากการศึกษาเกี่ยวกับนักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลกระบุว่า พวกเขายังมีวันที่แย่ๆ อยู่สามถึงหกวันต่อเดือน
- สิ่งที่ดีที่สุดที่จะตอบสนองเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ไม่ต้องทำอะไร! ยอมรับความล้มเหลวว่าเป็นบทเรียน และความยากลำบากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
- ปลดปล่อยตัวเองจากคำสาปแห่งความสมบูรณ์แบบ!
บทเรียนที่ 3 ความยิ่งใหญ่เข้ามาในชีวิตของคุณ เมื่อคุณเรียนรู้วิธีกำจัดความกลัว
- ความกลัวเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดในการบรรลุความฝันของเรา ในชีวิตจริง คนอื่นมักบอกเราให้เป็นคนมีเหตุผล อยู่กับความจริง และระมัดระวัง คำแนะนำประเภทนี้ป้องกันไม่ให้เราทำสิ่งที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่ ไม่มีใครทำอะไรให้น่าจดจำได้เพราะความกลัว
- และแนวความคิดนี้กลับไปสู่ปรัชญาโบราณ อริสโตเติลเชื่อว่า ผู้ที่สำเร็จคือผู้ที่เอาชนะความกลัวได้ในชีวิต อันที่จริงเขากล่าวว่าความกล้าหาญคือคุณธรรมที่จะมีชีวิตอยู่ และด้วยความกล้าหาญในความพยายามและไล่ตามเป้าหมายเท่านั้น คุณก็จะไปถึงสถานภาพของความสุข เป็นสภาวะแห่งความสุขอย่างบริสุทธิ์ใจ ความสำเร็จ และการเติมเต็มในตนเอง
- ดังนั้น อีกก้าวหนึ่งของความเข้มแข็งทางจิตใจคือ การเอาชนะความกลัวและไล่ตามความฝัน แม้ว่าจะทำให้คุณอยู่ในสภาวะอึดอัดก็ตาม
- ช่วยตัวเองโดยมองหาแรงจูงใจภายนอก ตื่นเต้นกับการเดินทางข้างหน้า และทำทุกอย่างที่ทำให้คุณกลัว ทั้งที่สัญชาตญาณบอกคุณเป็นอย่างอื่น
สรุป
- Elite Minds พูดถึงความสำคัญของการฝึกจิตใจ ช่วยคุณหยุดทำร้ายตนเอง โดยใช้ความเข้มแข็งทางจิตใจเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การเอาชนะความกลัว การกระทำทุกอย่างที่คุณต้องการ การบรรลุจุดประสงค์ที่สูงขึ้น และการยอมรับความล้มเหลว ล้วนเป็นประเด็นหลักที่หนังสือเล่มนี้กล่าวถึง
- การอ่านหนังสืออันน่าทึ่งนี้ จะสอนแนวคิดอันมีค่าแก่คุณ ตั้งแต่ปรัชญาโบราณไปจนถึงการศึกษาสมัยใหม่ เกี่ยวกับความสำคัญของการฝึกจิตใจ และการเปิดรับแนวคิดแห่งชัยชนะ ในการเดินทางสู่ความสำเร็จ
*************************