ในช่วงรอยต่อ ตอนลูกชายกำลังจะขึ้นม.4 มีเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกผิดหวังจากเรื่องโรงเรียนที่เขาคาดหวัง และยังผิดหวังอีกครั้งจากการสอบเข้าโรงเรียนเก่าที่เขาคาดหวังไว้ ได้รับความผิดหวังจากตัวเองอีกดอก
ไม่รู้ลูกรู้สึกขอบคุณความผิดหวังที่ผ่านมานี้มั้ย(ได้ชวนคิด ชวนคุย แต่ในส่วนของความรู้สึกขอบคุณไม่แน่ใจนัก) แต่ฉันรู้สึกขอบคุณ เพราะความผิดหวังนั้น นำมาซึ่ง การตั้งความหวังใหม่ ทำให้ลูกได้เรียนรู้ ออกจากพื้นที่ปลอดภัย ไปลองเสี่ยง พาตัวเองออกมาใช้ชีวิตมากขึ้น เปิดรับโอกาสและตั้งใจเรียนรู้ชีวิตอย่างมีชีวามากกว่าแต่ก่อน
เขาได้รับความภูมิใจ จากการที่เขาพยายามทำและสุดท้ายก็ได้รับผลสมดังหวัง กับความหวังใหม่(สมกับเหตุที่ได้กระทำมาดีพอ)
อาจเป็นโชคชะตาก็ได้
ที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนย้ายโรงเรียนใหม่
โรงเรียนที่ไกลบ้านมากขึ้น สังคมใหม่ เพื่อนใหม่ ครูใหม่ สถานที่ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ การได้ฝึกใช้ชีวิตในวิถีใหม่ๆ
จากการเฝ้ามองของแม่คนนี้
ลูกดูมีพลังชีวิตที่ดีกว่าเก่ามาก
มีความมั่นคงภายในมากขึ้น
ดูสนุกกับชีวิตการไปโรงเรียนมากขึ้น
อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในตลอด
ชีวิตการเป็นนักเรียนที่ผ่านมา
อยากไปโรงเรียน ทั้งๆที่ตารางเรียนแน่นยาวนานกว่าที่เดิมมาก
กลับมามีเรื่องเล่าแทบทุกวัน เวลาเล่าเรื่องก็เห็นความสนุก ความมีชีวิตชีวา
รู้สึกถึงพลังชีวิตของเขาที่เปลี่ยนไป
ขอบคุณค่ะ ที่ให้ทำให้พวกเราได้ผิดหวัง และชื่นชมลูกชายที่สามารถเรียนรู้เรื่องความผิดหวังและเปลี่ยนเป็นพลังที่ดีได้
เรื่องราวนี้ก็แค่ส่วนหนึ่งของชีวิตเนาะ
ยังไม่ใช่บทสรุป ว่าจะมีชีวิตที่ดีเลิศ มีความสุขตลอดไป ชีวิตยังอีกยาวไกล
ให้ได้เรียนรู้ไปตลอดเส้นทาง
ทุกครั้งตั้งแต่ฉันมองเป็นแล้ว มองย้อนกลับไปดู พบว่า ทุกเรื่องราวในชีวิต คือ ของขวัญ แม้บางครั้งของขวัญเปลือกของมันจะสยองขวัญ สั่นหัวใจมากไปก็ตาม
หากเราวางใจ ว่า "นี่คือของขวัญ" เปิดใจ เปิดรับ ค่อยๆ เรียนรู้ เราจะพบของขวัญที่แสนวิเศษอยู่ในนั้นค่ะ
ขอให้เห็น...ของขวัญนะคะ
=========
ปล. อันที่จริงตลอดเวลาที่หายไปจากพื้นที่ตรงนี้ ก็ยังคงเขียนบ่นความเรื่อยๆ มาค่ะ แค่ไม่ได้แวบเอามาลง
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่า ที่เต็มไปด้วยความหมายเห็นของขวัญแสนวิเศษ.แต่นานๆมาทีพอนะครับ