เช้าวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ตรงกับวันพระ วันธรรมสวนะ และวันอัฏฐมีบูชา (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B2) จึงตั้งใจว่าจะไปวัด ถวายทาน ฟังธรรมสักหน่อย ... ฟังธรรมตามกาล เป็นมงคลอย่างหนึ่ง
ไม่ได้ตระเตรียมอะไรมากนัก คิดขึ้นได้ว่ามีขนมข้าวเกรียบงา แบบญวณจากหนองคาย จึงใส่ตะกร้าไปวัดถวายคณะสงฆ์ ... ประจวบเหมาะกับลูกชายบวชพระใหม่เมื่อวาน ติดภารกิจนอกพื้นที่ไม่ได้ไปร่วมอนุโมทนาบุญในพิธีบวช ก็ถือโอกาสนี้ไปกราบพระ อนุโมทนาบุญบวชในโอกาสเดียวกันด้วย
หลังถวายภัตตาหาร พ่อแม่ครูอาจารย์ได้เมตตาแสดงธรรม ยาวสักหน่อย แต่ก็พอจับใจความเพียงบางส่วน ที่พอจะมีสติ ณ ขณะนั้น...
Learning by doing ผู้ปฏิบัติเท่านั้นจึงจะเป็นผู้รู้ ผู้รู้จึงรู้ได้เฉพาะตน และการฝึกตนโดยมีตนเป็นที่พึ่ง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ตนต้องพึ่งพาตนเองก่อน จึงค่อยพึ่งพาผู้อื่น
มาวัดก็มาให้เห็นธรรม อันหมายถึงธรรมชาติ มนุษย์เป็นสัตว์ที่สามารถฝึกตนได้ ธรรมชาติเป็นเช่นนั้น มาวัด ก็มาให้เห็นธรรม เห็นธรรมชาติ ให้ธรรมชาติสอนตน เห้ฯผู้อื่น เห็นตน และเห็นผู้อื่นว่าดีไม่ดีอย่างไร ก็เลือกเอาสิ่งดีไปปฏิบัติ เห็นสิ่งไม่ดีก็ละวาง ก็ให้เห็นธรรมชาติแห่งมนุษย์ แล้วก็น้อมเข้ามาใส่ตัว เอาสิ่งดีมาปฏิบัติ
การไปวัด ถวายทาน ฟังธรรม จึงอิ่มเอิบใจ ได้พิจารณาตนให้มีสติ แม้เพียงชั่วครู่ ก็ดูงาม ดีงาม ดีต่อใจตน เพื่อละ วาง
ณ วัดป่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น (วัดป่าโนนม่วง)
มาวัดก็มาให้เห็นธรรม อันหมายถึงธรรมชาติ มนุษย์เป็นสัตว์ที่สามารถฝึกตนได้…เห็นด้วยครับ
ธรรมชาติของมนุษย์ คือ สัตว์สังคมที่เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ได้ และนั่นคือหลักปรัชญามนุษย์นิยม นั่นเอง กระมังครับ
@แผ่นดิน
พระอาจารย์ท่านก็สอนเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัวครับ ท่านขยายความเหมือนท่านพี่ว่ามานั่นแหละครับ เรื่องการเป็นเวไนยสัตว์ ….
ผมสรุปความสั้น ๆ ในบันทึกไว้ เท่าที่มีสติจำข้อธรรมได้ครับ