จันทบุรี อัญมณีแห่งภาคตะวันออก (3) สักการะหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ บนเส้นทางสู่จันทบุรี

บนเส้นทางจากกรุงเทพมหานครสู่จันทบุรี อัญมณีแห่งภาคตะวันออก สถานที่แรกที่แวะคือ วัดละหารไร่ วัดดังประจำจังหวัดระยอง

วัดละหารไร่ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เดิมชื่อวัดไร่วารี เนื่องจากมีน้ำอยู่ล้อมรอบ ว่ากันว่าเป็นที่กันดารมาก หากจะเดินทางไปต้องบุกป่าฝ่าดงพอสมควร และอาจจะหลงทางได้ เพราะในสมัยก่อนยังไม่มีถนน มีเพียงทางเดินแคบๆเท่านั้น

วัดละหารไร่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2354 โดยหลวงพ่อสังข์เฒ่า รองเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ เริ่มสร้างที่พักไว้ ภายหลังมีพระภิกษุไปอยู่เพิ่มมากขึ้น จึงก่อสร้างกุฏิวิหาร มีหลวงพ่อสังข์เฒ่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และมีเจ้าอาวาสปกครองวัดละหารไร่ตามลำดับ คือ หลวงพ่อเกิด หลวงพ่อสิงห์ หลวงพ่อจ๋วม เกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์มากคือ พระครูภาวนาภิวัต (หลวงปู่ทิม อิสริโก) ต้นตำรับวัตถุมงคลผงพรายกุมารอันเลื่องลือ รวมถึงพระครูวิจิตรธรรมาภิรัต (หลวงพ่อเชย)

วัดละหารไร่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2516 ภายในวัดประดิษฐานหลวงปู่ทิมองค์ใหญ่

ประวัติวัดละหารไร่
เดิมชื่อวัดไร่วารี เนื่องจากบริเวณวัดมีน้ำล้อมรอบ คนเก่าแก่เล่าว่าบริเวณนี้เดิมเป็นป่ารกครึ้ม ถ้าเดินไม่ดีอาจจะหลงทางได้
เมื่อแรกตั้งวัดละหารไร่ หลวงพ่อสังข์เฒ่าซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ เห็นว่าพื้นที่ริมคลองของวัดละหารใหญ่เหมาะแก่การปลูกพืชปลูกผัก ท่านจึงมาจัดการปรับเปลี่ยนให้เป็นแปลงเกษตร และสร้างที่พักน้อยๆไว้บริเวณนั้น เมื่อถึงเวลาในช่วงเข้าพรรษาหลวงพ่อสังข์เฒ่าจะมาจำพรรษาอยู่ที่วัดละหารใหญ่ ชาวบ้านที่มาทำไร่ทำสวนเห็นว่ามีพระสงฆ์อยู่จึงจัดภัตตาหารมาถวายเป็นประจำ

ต่อมาชาวบ้านจึงสร้างเป็นกุฏิวิหารขึ้น จนกลายเป็นวัดละหารไร่ มีหลวงพ่อสังข์เฒ่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดแห่งนี้

ประวัติพระครูภาวนาภิวัต หรือ หลวงปู่ทิม อิสริโก

ในสมัยที่ท่านอายุได้ 17 ปี บิดาของท่านนำไปฝากไว้กับหลวงพ่อสิงห์ วัดละหารไร่ เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นก็ขอพากลับไปช่วยทำงานที่บ้าน เมื่อท่านอายุได้ 19 ปีได้ถูกคัดเลือกไปเป็นทหารและประจำการอยู่ที่กรุงเทพเป็นเวลากว่า 4 ปี เมื่อปลดประจำการท่านจึงกลับมาบ้านเดิมและอุปสมบทที่วัดละหารไร่ ได้รับฉายาว่า "อิสริโก" ท่านได้ตั้งใจฝึกฝนปฏิบัติด้วยตนเองโดยการออกธุดงค์ ศึกษาพระปริยัติธรรม

หลังจากนั้นท่านได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ให้ท่านเป็น "พระอธิการทิม อิสริโก" เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ท่านจึงเริ่มบูรณะซ่อมแซมกุฏิ สร้างเสนาสนะ ก่อสร้างพระอุโบสถ รวมถึงเปิดโรงเรียนเพื่อสอนบุตรหลานของประชาชน ตอนแรกใช้ศาลาการเปรียญเป็นที่สอนหนังสือ ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมมือร่วมใจกับหลวงปู่ทิมสร้างอาคารเรียนขึ้น 1 หลัง ซึ่งปัจจุบันชำรุดและรื้อถอนไปแล้ว หลังจากนั้นหลวงปู่และชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาก่อสร้างสะพานข้ามคลอง สร้างหอฉัน และศาลาการเปรียญจนเสร็จเรียบร้อยทุกประการ

หลวงปู่ทิม อิสริโกมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อ วันที่ 16 ตุลาคม 2518 รวมสิริอายุได้ 96 ปี นับพรรษาได้ 69 พรรษา

ด้านหลังวัดละหารไร่ติดกับแม่น้ำระยองหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า คลองใหญ่ เป็นแม่น้ำสายสั้นๆ มีความยาวประมาณ 50 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากเทือกเขากองซองและเขาพนมศาสตร์ ไหลผ่านท้องที่อำเภอปลวกแดง อำเภอบ้านค่าย และตำบลท่าประดู่ลงสู่ทะเลที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง ในปีพ.ศ. 2558 มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโกและคุณชินพร คุณมานิดา สุขสถิตย์ ได้ทำการก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำระยองบริเวณด้านหลังของวัดละหารไร่เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร ด้วยงบประมาณสี่ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำระยองหรือคลองใหญ่ได้รับความสะดวกสบายในการสัญจรไปมาหาสู่กัน