ใช่แล้ว คุณอ่านได้ถูกต้องแล้ว โต้เถียงให้มากกว่านี้เถิด
ในช่วงการหยุดช่วงสงกรานต์ ตอนนั้นฉันอยู่ในเกาะเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมทั้งคนไทยที่อยู่ในอายุ 50 ปี ที่เป็นคนมาพักที่รีสอร์ต พวกนั้นมาหาฉันในขณะที่กำลังดื่มในช่วงอาหารเย็น พวกเขากล่าวว่าต้องการจะมาหาฉันตั้งแต่ในช่วงอาหารเที่ยงแล้ว พวกเขาคิดว่าฉันไม่ใช่คนที่นั้น และต้องการจะรู้ว่าฉันเป็นใคร และฉันทำอาชีพอะไร
ด้วยรอยสักที่มากมายในร่างฉัน และพูดอังกฤษได้คล่องแคล่ว และมีทัศนะที่แหกกฎ ฉันก็เลยชอบการพบปะเช่นนี้
หลังจากบอกพวกเขาว่าฉันมีอาชีพอะไร ต่อมาพวกเขาก็บอกว่าลูกๆของพวกเขา (ซึ่งอายุถใกล้เคียงกันกับฉัน) ยังไม่รู้เลยว่าจะมีอาชีพอะไร และเด็กๆพวกนี้ประทับใจในสิ่งที่ฉันเป็น
ดังนั้นพวกเขาจึงขอให้ฉันแสดงความเห็นว่า “ฉันจะสอนลูกๆของฉันได้อย่างไรถึงแรงดลใจในการทำอาชีพ?”
คำถามนี้เป็นเรื่องปกติมากๆในสังคมไทย และฉันเคยได้ยินมาหลายๆครั้ง ไม่ว่าจะมาจากพ่อแม่หรือเด็กๆเองก็ตาม มันเป็นเรื่องปกติมากๆที่วัยรุ่นไทยไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะทำอะไร ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า
แต่ฉันถามพวกเขากลับว่า “พวกคุณจะปล่อยให้เด็กๆของคนทำความผิดได้กี่ครั้ง?”
มันเป็นบรรทัดฐานในสังคมไทยที่พวกผู้ใหญ่จะรู้สึกว่ารู้ดีมากกว่าเด็กๆ ดังนั้นพวกเขาจึงมีแนวโน้มในการเลือกทิศทางสำหรับเด็กๆของพวกเขา โดยคิดว่ามันเป็นทางที่ดีที่สุด และการตัดสินใจที่ถูกต้อง
สิ่งนี้เป็นปัญหา เพราะว่ามันทำให้เด็กๆเคยชินกับการทำหรือคิดอย่างที่พวกผู้ใหญ่คิด เหนือสิ่งอื่นใด การศึกษาไทยไม่เคยสอนเรื่องการคิดอย่างวิพากษ์ (critical thinking) สุดท้ายคือการเชื่อฟังต่อรัฐ
พ่อแม่เหล่านี้จะกดดันให้ลูกๆของพวกเขาเรียนอย่างหนัก และได้งานที่มั่นคง พวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าอาชีพที่มั่นคง คือข้าราชการ หรือคนทำงานสำนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาเคยเห็นในชีวิตประจำวันและให้ค่ากับอาชีพเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง
และฉันมาที่นี่โดยยึดอาชีพการเขียน ...มันเป็นการเพียงพอที่จะทำให้พ่อแม่ไทยร้องไห้ ฉันเป็นคนเชื่ออย่างเต็มที่ว่าเธอจะประสบผลสำเร็จในอาชีพใดก็ได้หากเธอมีใจชอบมัน จริงๆแล้วนั่นเป็นสิ่งที่แม่บอกฉันมาตลอด
ฉันต้องให้ค่าแก่พ่อแม่ของฉันที่เปิดโอกาสให้ฉันโต้เถียงกับพวกเขาได้ ดื้อ และไม่ฟังพวกเขา พวกเขาให้โอกาสในการให้ฉันหายใจ สำรวจ และให้โอกาสฉันทำผิด โดยผ่านความก้าวร้าว ฉันจึงได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่ฉันชอบหรือไม่ชอบ
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันจึงถามพ่อในรีสอร์ตว่า “พวกคุณจะปล่อยให้เด็กๆของคนทำความผิดได้กี่ครั้ง?” เด็กๆต้องการที่จะเรียนรู้ถึงสิ่งที่เป็นของพวกเธอ และพวกเขาไม่สามารถจะมีความคิดของตนเองได้ หากพ่อแม่ยังมีอำนาจเหนือพวกเขา และมีทิศทางสำหรับพวกเขา
โดยการโต้เถียงกับพ่อแม่ แบ่งปันความคิดเห็น ถึงสิ่งที่คุณชอบและไม่ชอบกับพ่อแม่ เมื่อพ่อแบอกเด็กๆถึงสิ่งที่ถูกต้องในชีวิต สุดท้ายเธอจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวของเธอ ไม่มีใครรู้ดีในชีวิตนอกจากตัวเธอ และไม่ใช่ชีวิตของพ่อแม่
แปลและเรียบเรียงจาก
Choltanutkun Tun-atiruj. Opinion: To all Thai kids, please argue with your parents more often
https://www.thaienquirer.com/39509/to-all-thai-kids-please-argue-with-your-parents-more-often/
ไม่มีความเห็น