โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง ของ กสศ. ระบุเป้าหมายคุณสมบัติของโรงเรียนที่จัดว่าพัฒนาตนเองได้ว่า มีสมรรถนะ ๖ ด้านคือ (๑) มีการกำหนดเป้าหมายของโรงเรียน (๒) มีวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของครู (๓) มีระบบสารสนเทศอำนวยความสะดวกในการทำงาน (๔) จัดการเรียนรู้เชิงรุก (๕) มีเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียน (๖) มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ดังสไลด์ที่ฝ่ายบริหารสำนักครูฯ เสนอในการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ดังนี้
บัดนี้ ผมเกิดความคิดว่า โรงเรียนพัฒนาตนเองควรมีสมรรถนะที่ ๗ คือประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน และนำมาคำนวณ effect size (ES) เป็น และนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการปรับปรุงสมรรถนะอีก ๖ สมรรถนะ
คือใช้ ES หมุนวงจรการเรียนรู้ของทีมงานในโรงเรียนและภาคีเครือข่ายเป็น
ผมคิดว่า โรงเรียนพัฒนาตนเองคือ โรงเรียนที่หมุน DLL – Double-Loop Learning ของตนเองเป็น
เนื่องจากการศึกษาเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ผู้ดำเนินการเรื่องนี้จึงอยู่ภายใต้ความเสี่ยงเรื่อง “เส้นผมบังภูเขา” คือเรื่องใกล้ตัวบดบังเป้าหมายที่แท้จริง หรืออาจกล่าวใหม่ว่า หลงยึด เครื่องมือ (means) เป็นเป้าหมาย (end) ๖ มาตรการของโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเองเป็น means ทั้งสิ้น end คือ ผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน ที่โรงเรียนต้องวัดเป็น และคำนวณออกมาเป็น effect size ได้ เพื่อแปลผลกระทบได้ลึกขึ้น และคำนึงถึงความเสมอภาคในกลุ่มนักเรียนที่มีพื้นฐานแตกต่างกันได้ด้วย
effect size เป็นทั้ง end และ means คือเป็น means สู่การพัฒนามาตรการ ๖ ด้านในแผนผัง
วิจารณ์พานิช
๑๘ มี.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น