การปฏิรูปอุดมศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ โดย รศ.ดร.ชูเวช ชาญสง่าเวช
ในประเทศนิวซีแลนด์ มีความพยายามที่จะปฏิรูประบบการศึกษาทั้งระบบเมื่อปี ค.ศ. 1987 จาก การที่นายกรัฐมนตรี David Lange ได้ประกาศแต่งตั้งคณะทํางานทบทวน การบริหารจัดการศึกษาขั้น โดย ให้นักบริหารธุรกิจชื่อ Brion Picot เป็นประธาน
อย่างไรก็ดีการปฏิรูปในครั้งนั้นได้ผลกับระดับโรงเรียน เป็นหลัก มิได้ส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับอุดมศึกษามากนัก จนถึงช่วงปี ค.ศ. 1991 – 1994 จึงได้เกิดคลื่นลูกสองของการปฏิรูปการศึกษาในนิวซีแลนด์ขึ้นภายใต้การนํารัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิ การคนใหม่ในช่วงนั้น คือ Dr. Lockwood Smith ซึ่งในช่วงนี้เองที่การเปลี่ยนแปลงใน ระดับอุดมศึกษาเริ่มเกิดขึ้นในระดับหนึ่ง
ในปัจจุบันประเทศนิวซีแลนด์มีมหาวิทยาลัย เพียง 7 แห่ง ได้แก่ Canterbury Univerisity, Lincoln University, Massey University, University of Auckland, University of Otago, University of Waikato และ Victoria University of Wellington นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยเทคนิคจํานวน 25 แห่ง และวิทยาลัยครู จํานวน 4 แห่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า นิวซีแลนด์ยังมีวิทยาลัยชนกลุ่มน้อยเผ่าเมารีซึ่งเรียกว่า Wananga จํานวน 3 แห่ง สถาบันฝึกอบรมของรัฐ 11 แห่ง และสถาบันฝึกอบรมของเอกชนอีกกว่า 700 แห่งด้วย (Ministry of Education, 1997a)
เป้าหมายและแนวทางการปฏิรูปอุดมศึกษาในปลายทศวรรษ 1990 ของประเทศนิวซีแลนด์
การปฏิรูปอุดมศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 มีผลกระทบต่อระบบอุดม ศึกษาของนิวซีแลนด์อย่างกว้างไกลกว่าการปฏิรูปในช่วงเดียวกัน ในประเทศออสเตรเลีย โดยรัฐบาลนิวซีแลนด์ ได้นําเสนอแนวคิดที่จะปฏิรูปอุดมศึกษา อย่างจริงจังในรูปของเอกสารที่เรียกว่า “Green Paper” ซึ่งหลัง จากที่ได้รับฟังความคิด เห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว รัฐบาลนิวซีแลนด์ก็ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูป ออก มาเป็นเอกสารที่เรียกว่า “White Paper” เมื่อปี ค.ศ. 1998 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการ ศึกษา 1999 นี้เป็นต้นไป
แนวโน้มสําคัญสามประการที่รัฐบาลนิวซีแลนด์ประสงค์จะให้ระบบอุดมศึกษา ของนิวซีแลนด์ เตรียมรองรับไว้ด้วยการปฏิรูปครั้งนี้ ได้แก่
-
ความหลากหลายของผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นนักศึกษาในระบบอุดมศึกษามีแต่จะมากขึ้น โดยที่ทั้งนัก ศึกษาและกลุ่มนายจ้างต่างเรียกร้องต้องการให้มีหลักสูตรและโอกาสในการศึกษามากประเภทขึ้น
-
ความเป็นนานาชาติมากขึ้นของระบบอุดมศึกษา ซึ่งหมายความว่า มาตรฐาน คุณภาพ และคุณวุฒิการ ศึกษาของสถาบันอุดมศึกษานิวซีแลนด์ต้องปรับให้ได้มาตรฐานโลก
-
พัฒนาการอันรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งทำให้เป็นไปได้ที่จะเรียนข้ามประเทศหรือข้ามทวีปได้
ตามนโยบายล่าสุดนี้ จะมีการจัดตั้งองค์กรใหม่เรียกว่า Quality Assurance Authority of New Zealand เพื่อพิจารณาระบบประกันคุณภาพที่เหมาะสมสําหรับ สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งในประเทศ นิวซีแลนด์ อันนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมที่ปล่อยให้การประกันคุณภาพเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง
ยิ่งกว่านั้น ตามนโยบายใหม่นี้การจัดสรรงบประมาณทั้งในด้านการบริหาร การเรียนการสอน และการวิจัยก็จะพิจารณาจากจํานวนนักศึกษาเต็มเวลา โดยรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าเล่าเรียนและ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ( living allowance) ให้กับนักศึกษาทุกคน โดยมีข้อแม้ว่าสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งจะต้องปรับปรุงการบริหารจัดการให้เป็นแบบเอกชน ปรับปรุงคุณภาพวิชาชีพให้ได้มาตรฐานและให้ข้อมูลโดยเปิดเผยต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
กล่าวโดยสรุปการปฏิรูปอุดมศึกษาของนิวซีแลนด์ในยุคปัจจุบันมุ่งที่จะตอบ สนองข้อเรียกร้ องต้องการ 6 ประการต่อไปนี้
-
กลวิธีที่ดีในการให้ทุนสนับสนุนแก่นักศึกษา
-
ความจําเป็นในการมีสิ่งจูงใจที่จะรักษาระดับค่าเล่าเรียนให้ตํ่า
-
การส่งเสริมจูงใจให้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการให้บริการและการตอบสนองที่รวดเร็วต่อความ ต้องการที่เปลี่ยนไปในทางด้านการศึกษา
-
การมีคุณภาพที่ดีสมํ่าเสมอ
-
การมีข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องสมบูรณ์และรวดเร็วสำหรับประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการศึกษา
-
การมีการบริหารการจัดการที่ดีและติดตามตรวจสอบความรับผิดชอบได้
ทั้งนี้การบรรลุถึงจุดประสงค์ดังกล่าวจะกระทําโดยใช้กลวิธีซึ่งแบ่งได้เป็น 5 กลุ่มต่อไปนี้ คือ
1. การขยายโอกาสทางการศึกษา และก่อให้เกิดความยุติธรรม-
นําระบบเงินอุดหนุนค่าเล่าเรียนอุดมศึกษาทั่วทั้งระบบที่เรียกว่า Universal Tertiary Tuition Allowance มาใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 ซึ่งจะส่งผลให้นักศึกษา นิวซีแลนด์ทุกคนที่เข้าศึกษาในหลักสูตรที่ได้รับการอนุมัติสามารถได้รับทุนอุดหนุน จากรัฐบาลนิวซีแลนด์โดยทั่วกัน
-
ในช่วง 3 ปีข้างหน้า คาดได้ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระดับงบประมาณของรัฐที่ จัดสรรให้แก่สถาบันอุดมศึกษาต่อหัวนักศึกษา
-
หลักสูตรที่มีค่าใช้จ่ายในการดําเนินการสูงยังคงได้รับการจัดสรรงบให้ ในอัตราที่สูงกว่าหลัก สูตรปกติ
-
จะใช้จํานวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนจริง (แทนที่จะใช้จํานวนคาดการณ์ ) เป็นตัวกำหนดเงินอุดหนุน ที่ให้แก่สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะเป็นการปูนบำเหน็จแก่สถาบันที่ประสบความสําเร็จในการดึงดูดนักศึกษา
-
นักศึกษาที่เรียนรายวิชา ณ สถาบันการศึกษาเอกชนจะสามารถได้รับ เงินอุดหนุนตามระเบียบและ เงื่อนไขเดียวกับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
-
นักศึกษาทุกคนจะได้รับเงินสนับสนุนอย่างเดียวกันโดยไม่คํานึงถึงอายุ
-
สถาบันที่มีทุนทรัพย์ตํ่าจะได้รับเงินอุดหนุนมากกว่าสถาบันที่มีทุนทรัพย์มากอยู่แล้ว
-
หลักสูตรอุดมศึกษาและสถาบันอุดมศึกษาจะต้องผ่านเกณฑ์คุณภาพ มาตรฐาน และเกณฑ์ เสถียรภาพทางการเงินก่อนจึงจะมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ
-
จะดำเนินการจัดตั้งหน่วยงาน “ การประกันคุณภาพแห่งประเทศ นิวซีแลนด์ (Quality Assurance Authority of New Zealand)” ขึ้น เพื่อดูแลงานประกันคุณภาพของสถาบันอุดม ศึกษาทุกแห่งที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ เพื่อให้การประกันคุณภาพเป็นไปอย่างจริงจัง
-
การวิจัยจะยังคงเป็นภาระหน้าที่หลักของสถาบันอุดมศึกษาควบคู่ไปกับ งานการเรียนการสอน
-
การพิจารณาจัดสรรกองทุนวิจัยจะคํานึงถึง
-
คุณภาพและกําลังของผู้วิจัย
-
คุณภาพของโครงการวิจัยที่นําเสนอ
-
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของงานวิจัยนั้น
-
ความมีประสิทธิภาพในการใช้เงินของโครงการวิจัย
-
จะจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อการวิจัยให้กับหลักสูตรปริญญา บัณฑิตและบัณฑิตศึกษาที่ผ่านเกณฑ์การประกันคุณภาพ
-
จัดระบบบริหารข้อมูลนักศึกษาเป็นระบบเดียวกันทั่วทั้งประเทศ
-
ปรับปรุงระบบสารสนเทศเกี่ยวกับหลักสูตรและสถาบันอุดมศึกษา ที่ผ่านเกณฑ์การประกันคุณภาพ เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจของนักศึกษาและสถาบัน อุดมศึกษา
-
สถาบันอุดมศึกษาจะยังคงสถานภาพเป็นสถาบันของรัฐ
-
เสรีภาพทางการศึกษาจะยังคงได้รับการรับรอง
-
สภามหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะมีความเป็นอิสระมากขึ้นในการกําหนด ขนาด องค์ประกอบ กระบวนการ ได้มาของกรรมการ ฯลฯ แทนที่จะใช้ระบบเดียวกันหมด เช่นในอดีต
-
สภามหาวิทยาลัยจะมีขนาดเล็กลงโดยจะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ จากสาขาต่าง ๆ และมีตัวแทนนักศึกษาและคณาจารย์
-
สภามหาวิทยาลัยจะต้องมุ่งให้ความสนใจมากขึ้นต่อความสําเร็จทาง วิชาการและความมีเสถียรภาพ ในระยะยาวของสถาบัน
-
สภามหาวิทยาลัยจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการให้สถาบันมีการบริหารจัดการที่ดีและต้องมีการออก แถลงการณ์แสดงเจตน์จํานงประจำปี (Annual Statements of Intent)
-
สถาบันอุดมศึกษาที่มีการบริหารจัดการที่ดีจะได้รับอิสระเสรีมาก ขึ้นในการบริการจัดการสถาบัน สถาบันนอกเหนือจากนั้นจะมีการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดขึ้นโดยภาครัฐ
-
รัฐจะทําการโอนที่ดินทรัพย์สินของรัฐให้กับสถาบันอุดมศึกษา
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย dhanarun ใน ธนารุณ บอก...Dhanarun's Blog
คำสำคัญ (Tags)#นิวซีแลนด์#การปฏิรูปอุดมศึกษา
หมายเลขบันทึก: 69964, เขียน: 28 Dec 2006 @ 22:08 (), แก้ไข: 11 Jun 2012 @ 17:23 (), สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ, อ่าน: คลิก
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก