ว่าการเรียนรู้ การหาความความรู้ ด้วยการไปเรียนในมหาวิทยาลัยจะด้อยค่าลงไปทุกที เพราะเรามีแหล่งเรียนรู้ออนไลน์
คอร์สออนไลน์ หรือแหล่งข้อมูลทีวีออนไลน์ช่องใหญ่ๆ ดังเช่น ยูทิ้วป์ เป็นต้น
และต่อไปมหาวิทยาลัยคงหมดความหมาย กลายเป็นซากปรักก็มิปาน
ว่าเครือข่ายอินเทอเน็ตเป็นตัวเปลี่ยนที่สำคัญ เพราะเป็นช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ ทั้งที่ได้รับการยอมรับแล้ว และเพิ่งผุดไอเดียขึ้นมา
หากเราท่านฝักใฝ่ไขว่คว้าหาความรู้ได้มากเท่าใด รวมทั้งมีความสามารถในการคัดแยกสารสนเทศให้เป็นแล้ว
ย่อมเป็นผลดีต่อท่านเอง
เรายอมรับกันในแวดวงสังคมว่าสถาบันอุดมศึกษา คือแหล่งรวมองค์ความรู้ขั้นสูง
ซึ่งจะสูงด้านใด อย่างไร ก็ต้องดูตามบริบทของสถาบันการศึกษาหรือ พรบ.แห่งนั้นอีกที เช่นมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อด้านการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์การแพทย์ คนส่วนใหญ่อาจนึกถึง ม มหิดล หรือมหาวิทยาลัยที่เน้นการผลิตครูที่ดีมีคุณภาพ อาจนึกถึง ม ราชภัฏ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเรียกว่าเป็นแบรนด์ของแต่ละ มหาวิทยาลัยก็ว่าได้
แต่ละมหาลัย ต่างมุ่งเน้นแข่งขันกัน วิจัย เป็นล่ำเป็นสัน
เพราะทุกๆการวิจัยเราได้มาซึ่งองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้พัฒนาสังคม ชุมชน ครัวเรือนได้ หรือพูดแบบบ้านๆคือได้ Know-How เพื่อนำไปแก้ปัญหา พัฒนาต่อยอด
และคาดว่าจะเป็นผลดีต่อชุมชนหรือสังคมนั่นเอง
ยิ่งหากมหาวิทยาลัยสามารถนำเอาองค์ความรู้ไปใช้เชิงธุรกิจได้
ถือว่าเจ๋งเป้ง สุดยอด เพราะงานวิจัยที่ดีควรมีผลกระทบเชิงประจักษ์ต่อผู้คน ต่อความเป็นอยู่
สิ่งที่มหาลัยหลายแห่งได้กระทำ คือความพยายามนำเอาองค์ความรู้
กลับไปประยุกต์ใช้ ไปปรับปรุง ไปพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผิดชอบกัน
และแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชุมชนหรือสังคม ที่พร้อมรับด้วยนะ คือ
เกิดการบ่มเพาะภูมิปัญญาใหม่ ซึ่ง(ส่วนใหญ่)บางพื้นที่วิจัย มีรากฐานภูมิปัญญาเก่าอยู่แล้ว
ท่านลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเราสามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ภูมิปัญญาเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
ผู้คน สังคม ชุมชน จะสามารถวิวัฒน์วิถีชีวิตที่ได้ขึ้นได้ไปอีกระดับได้
ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาที่เราท่านเห็นกันจนชิน คงหมดไป
หากท่านเป็นจอมยุทธ์ ยอดฝีมือในสายงานใดก็ตาม
หากท่านไม่พึ่งพามหาลัย ย่อมพลาดโอกาสสำคัญ
หรือท่านจะเฝ้าคอย สืบค้นหาความรู้เซิร์ชเอนจินย์
แล้วฉลองดีใจเพิ่มอัตตาว่านี้คือความรู้ใหม่และข้าเจ๋งกว่า
เป็นเช่นนั้น ก็ดีเพียงเจ้ายุทธจักรกะลาครอบก็เท่านั้น
ท่านหันมาให้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย
ไม่ว่าสายไหน จะสายวิทยาศาสตร์ สายวิศวกรรม
สายวิทยาศาสตร์ทางสังคม สายวิทยาศาสตร์การแพทย์
สายธุรกิจ และหรือสายอื่นๆ
ด้วยระเบียบ และวิธีการค้นหาความรู้ใหม่ๆ
การค้นแล้วค้นอีก การสร้างขึ้นใหม่ ในสายใดๆก็ตามนั้นสำคัญกว่า
ด้วยการคิดเชิงระเบียบวิธีวิจัยนี่เอง ที่ทำให้มหาวิทยาลัย ยังสำคัญต่อสังคม
ไม่แค่สังคมไทยเท่านั้น แต่สำคัญต่อบ้านของเราทุกคน
บ้านที่ชื่อว่าโลกของเราใบนี้
ไม่มีความเห็น