๑,๒๓๗ บริหารจัดการ (ลุย) น้ำ


๓ ชั่วโมงที่สำรวจตรวจตราความเสียหายจนทั่ว ไม่พบสิ่งปรักหักพัง ก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ธรรมชาติก็เป็นแบบนี้มีผ่อนหนักผ่อนเบา ให้ความเดือดร้อนในบางครา และเอื้ออาทรในบางครั้ง แต่ที่โคกหนองนา เริ่มเสียหายบ้างแล้ว คันคลองไส้ไก่ ที่ว่าใหญ่แน่นหนา ถูกน้ำไหลบ่าพังทะลายน้ำแตกทะลักลงถนนและลงสู่นาชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อย

          ฝนตกเกือบจะทุกคืน และตกหนักมากเมื่อคืน แบบว่าตกต่อเนื่องยาวนานกันเลยทีเดียว คำว่าตกตลอดทั้งคืนจึงเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้จริงๆ เช้าขึ้นมาจึงรู้สึกหนาวเย็นจับจิตจับใจ..ว่าวันนี้จะเจออะไรบ้างหนอ

         

           ขับรถออกจากบ้านตอนเก้าโมงครึ่ง ฝนยังตกอยู่เลย บนเส้นทางในรีสอร์ทสู่ประตูรั้ว ถนนหนทางที่เคยดี ตอนนี้เหมือนหลุมขนมครก ขับหลบรถคนงานพม่าที่กำลังส่งยิ้มให้ เขาคงแปลกใจ ฝนตกอย่างนี้ ยังอุตส่าห์ขับรถออกจากบ้าน

         ถึงประตูรั้ว ความรู้สึกเริ่มจะไม่แน่ใจ จะไปต่อดีหรือว่าหันหลังกลับบ้าน เพราะเห็นเมฆฝนก้อนใหญ่ดำทะมึนอยู่ตรงหน้า แล้วฝนก็ตกลงมาในทันทีทันใด ด้วยรักและห่วงใยน้องไก่และบ่อปลา จะหิวหรือว่าถูกน้ำพัดพาไปหมดแล้วก็ไม่รู้ อย่ากระนั้นเลย…เดินทางต่อดีกว่า

           ขับรถผ่านทุ่งนาและเส้นทางคดเคี้ยว เมื่อเลี้ยวรถหลบน้ำไม่พ้น ก็ต้องลุยกันไปตลอดทาง มองไปทางไหนซ้ายหรือขวาก็เห็นมีแต่น้ำ ทั้งน้ำในนา น้ำบนถนน และน้ำฝนที่ตกพรำๆ จึงถือว่าเป็นอีกปีที่น้ำอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก

        ระดับน้ำในท้องทุ่งนา สูงกว่าถนนเยอะเลย บางช่วงก็มองดูว่าน้ำสงบนิ่งจนเวิ้งว้าง บางตอนก็ไหลเชี่ยวกรากจนดูน่ากลัว เป็นภาพซ้ำๆที่เริ่มจะชินตาชินใจ เพราะมันเกิดขึ้นและดับไป ในปีนี้รวมกันก็ ๓ รอบเข้าไปแล้ว 

        

          รีบขับรถเข้าโรงเรียน โดยที่ไม่ทันมองสิ่งแวดล้อมตรงประตูรั้ว พอเหลียวไปทางซ้ายเห็นน้ำรอการระบาย อยู่ใต้ศาลาพักร้อน เมื่อวานขับรถกลับออกไปยังเห็นศาลานั่งตากแดดอยู่เลย ดูท่างานนี้คงเย็นยะเยือกมาตั้งแต่เมื่อคืน

         แปลกใจนิดนึง ทำไมน้ำรอการระบายหลายชั่วโมง ธรรมดาสามัญฝนตกหนักอย่างไรจะใช้เวลาเพียง ๓ ชั่วโมงก็แห้งเหือดแล้ว ครานี้สิบโมงกว่ายังขังลืม หรือว่าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตยฺ์ น้ำจึงไหลเอื่อยเฉื่อยแบบว่าไม่ต้องรีบก็ได้

          พอลงจากรถก็ต้องรีบเร่งไปดูแปลงนาก่อน เจ้าประคุณเอ๋ย ..สงสารแม่โพสพเหลือเกิน ผ่านการตั้งท้องมาได้ใกล้จะคลอดเต็มทน ก็ต้องมาทุกข์ระทมจมน้ำ เห็นระดับน้ำข้างคันนาสูงเกือบท่วมหัว เป็นปรากฎการณ์ไม่ธรรมดาเสียแล้ว

             ฝั่งตรงข้ามแปลงนา จะเป็นศาลาพระและป้ายนิเทศ น้ำยังนิ่งแต่ไม่ไหลลึก เท่าที่ผ่านมาก็เคยเป็นแบบนี้ แต่น้ำจะค่อยๆรินไหลไปเรื่อยๆ เพื่อไปลงสระใหญ่ของโรงเรียน แต่วันนี้ดูเหมือนน้องน้ำจะไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร

           เดินสำรวจสวนครัว รั้วกินไม่ได้เสียแล้ว เพราะยากที่จะเดินไปเก็บผลผลิต อย่างน้อยก็ยังมีบวบ กระเพราและชะอม แปลงเกษตรจมน้ำเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนขนาดเล็ก เสียดายแต่ก็ต้องทำใจ น้ำรอการระบายก็ต้องเป็นแบบนี้

         แต่ครั้งนี้…แปลกกว่าทุกครั้ง ระบายช้าไปหรือเปล่า พยายามเดินหาสาเหตุ อยู่เป็นนานสองนาน น้ำน่าจะเพียงพอนานแล้ว และฝนจะขยันตกไปไหนนักหนา…บอกแล้วว่าพอเพียง เขียนป้ายไว้ให้เห็นชัดเจนก็ยังอุตส่าห์เทมาจนท่วม

         หยุดคิดใคร่ครวญไปชั่วครู่ รีบไปดูน้องไก่ ที่ยังร้องเล่นเต้นรำในเล้าอย่างสบายใจ เพราะได้ไออุ่นจากกองฟาง ส่วนปลาดุกยักษ์ในบ่อซีเมนต์ ดูสงบนิ่งไม่ไหวติงแต่อย่างใด เพราะถ้าเคลื่อนไหวเมื่อใด พวกมันต้องตกออกมาจากบ่อแน่นอน ต้องรีบเอาขันวิดน้ำออก เพื่อให้ปลาดุกอยู่รอดปลอดภัย มีชีวิตคงไว้เป็นอาหารของนักเรียน

  

          ได้เวลาสำรวจสระน้ำของโรงเรียน ก็พบสาเหตุสำคัญที่ผลักดันไม่ให้น้ำต้องระบายง่ายๆ ต้องรอต่อไปอีก ๒ - ๓ วัน เนื่องจากน้ำในสระทั้ง ๒ สระรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียว มองไม่เห็นคันกั้นน้ำแล้ว ปริมาณน้ำในสระสูงกว่าน้ำในนา ดังนั้นจึงไหลเข้ามาในนา น้ำที่จะไหลลงท้องนาก็ไปไม่ได้ จึงหันหลังกลับมาท่วมหน้าห้องสมุดและแปลงเกษตร นั่นเอง

         เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อน้ำทั้ง ๒ สระไหลมารวมกัน ด้วยความรักและสามัคคี คราวนี้ก็เกิดมหกรรมใหม่ๆที่สนามฟุตบอลของโรงเรียน อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในรอบหลายๆปี ที่มีน้ำเจิ่งนองไปทั่วสนาม อย่างไร้ขีดจำกัดจริงๆ

         หน้าโรงเรียนซึ่งเป็นที่สูงอยู่ริมถนนใหญ่ น้ำก็ยังลัดเลาะไปได้ แบบอิ่มเอิบและเอ่อล้น มองดูเย็นตาแต่ไม่รู้สึกเย็นใจเท่าไรนัก ถ้ากำแพงรั้วทรุดตัว รับรองเป็นเรื่องเป็นราวอย่างแน่นอน คนที่จะเดือดร้อนก็คือ ผอ.ร.ร.

 

         ๓ ชั่วโมงที่สำรวจตรวจตราความเสียหายจนทั่ว ไม่พบสิ่งปรักหักพัง ก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ธรรมชาติก็เป็นแบบนี้มีผ่อนหนักผ่อนเบา ให้ความเดือดร้อนในบางครา และเอื้ออาทรในบางครั้ง แต่ที่โคกหนองนา เริ่มเสียหายบ้างแล้ว คันคลองไส้ไก่ ที่ว่าใหญ่แน่นหนา ถูกน้ำไหลบ่าพังทะลายน้ำแตกทะลักลงถนนและลงสู่นาชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อย

         มองดูบ้านที่ปลูกใหม่เหมือนตั้งอยู่กลางลำน้ำ เมื่อเทียบกับถนนทางเข้า คงเหลืออีกแค่คืบเดียวก็จะท่วม ส่วนบ้านที่ตั้งอยู่บนโคก ก็คงประมาณแค่ศอกเดียวเห็นจะได้ ทำให้รู้สึกหวาดเสียว ถ้าฝนตกหนักในค่ำคืนนี้..

          บัว…ดูเขียวสดใสสะดุดตา คงจะชอบน้ำฝนมิใช่น้อย ผลิใบออกดอกมากกว่าเดิม อันที่จริงก็ดีเหมือนกัน ที่ทำให้เห็นเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ดูซิว่า ปีนี้น้ำจะมากไปถึงไหน ทำสถิติใหม่กันไปเลย จากนั้นจะได้ปรับแผนการคิดอ่านอะไรก็ต้องดูเรื่องน้ำ..เป็นสำคัญ

         

          วันนี้..รู้แน่ชัดแล้วว่า มันเป็นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ น้ำในสระใหญ่มีระดับเท่ากับน้ำในคลองไส้ไก่ โดยปกติจะเป็นไปได้ยากมากๆ นอกเสียจากฝนจะตกทั้งวันทั้งคืนติดต่อกัน แล้วนี่ไงล่ะ..ถ้าตกลงมาอีก ต้นกล้วยที่อยู่ตรงกลางก็คงไม่เหลือหรอ แม้แต่หน่อก็คงมิดน้ำ

            สงสารมะพร้าวน้ำหอมมากที่สุด อาศัยอยู่บนคันสระดีๆ ไม่มีใครมารบกวน แต่ทว่าช่วงเดือนเศษที่ผ่านมา โดนน้ำท่วมมา ๓ รอบแล้ว สระใหญ่กับแปลงนา น้ำกลับมาเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนเคย ปลาสองฟากฝั่งไปมาหาสู่กันอย่างสบายใจ

 

           ได้เวลากลับบ้าน ผ่านวัดประจำอำเภอ เห็นสายธารน้ำไหลออกจากวัดกำลังพุ่งตรงดิ่งไปยังเซเว่น เคยเป็นเช่นนี้เมื่อปี ๒๕๕๔…วันนี้ ๑๐ ปีผ่านไป น้ำป่าไหลบ่าให้คนประสบพบเจออีกครั้ง เป็นที่น่าตื่นตะลึงยิ่งนัก

          เท่านั้นยังไม่พอ แทบไม่เชื่อสายตา อยู่เลาขวัญมา ๒๐ ปี ไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้ น้ำท่วมขังตรงแยกไฟแดง แล้วโรงเรียนและโรงพยาบาลแถวนั้นจะเหลืออะไร.?.ต้องรีบบริหารจัดการตัวเอง ขับรถลุยน้ำกลับบ้านให้เร็วที่สุด….

ชยันต์ ้ เพชรศรีจันทร์

๑๗  ตุลาคม  ๒๕๖๔   

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 692882เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2021 20:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม 2021 20:20 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท