Phagophobia (กลัวการกลืน)
Phagophobia (กลัวการกลืน) เป็นความหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผลของการกลืนหรือสำลัก เป็นโรควิตกกังวลที่ทำให้บางคนทุกข์ทรมานจากความคิดว่าจะไม่สามารถกลืนอาหารที่กินได้หรือกลัวว่าจะมีเศษอาหารตกเข้าไปในหลอดลมระหว่างการเคี้ยวจนทำให้เกิดอาการสำลักได้
ภาวะที่ทำให้กลัวการกลืน
การให้การรักษาทางกิจกรรมบำบัด : โดยจะแบ่งการรักษาเป็น 3 สัปดาห์ และในแต่ละวันแบ่งมื้ออาหารออกเป็น 5 มื้อ โดยก่อนการฝึกจะทำการทำการประเมินความสามารถในการกลืนของอาหารระดับต่างๆ
Week 1
ช่วงเช้า : ควรฝึกการกลืนอาหารก่อน 9 โมง
ช่วงสาย : ฝึกการกลืนโดยใช้ผักผลไม้ ส่วนวิธีการทำแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงกลางวัน : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงบ่าย : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงตอนเย็น : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า และไม่ควรฝึกกลืนอาหารเกิน 1 ทุ่ม
ช่วง 21.00-23.00 น. : ควรทำการอบอุ่นร่างกายเพื่อปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร-ระบบหายใจ-ระบบขับถ่าย โดยการยืดเหยียดร่างกายเบาๆ หรือทำโยคะ
Week 2 : grade up ชนิดอาหารตามหลัก IDDSI
ช่วงเช้า : ควรฝึกการกลืนอาหารก่อน 9 โมง
ช่วงสาย : ฝึกการกลืนโดยใช้ผักผลไม้ ส่วนวิธีการทำแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงกลางวัน : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงบ่าย : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงตอนเย็น : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า และไม่ควรฝึกกลืนอาหารเกิน 1 ทุ่ม
ช่วง 21.00-23.00 น. : ควรทำการอบอุ่นร่างกายเพื่อปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร-ระบบหายใจ-ระบบขับถ่าย โดยการยืดเหยียดร่างกายเบาๆ หรือทำโยคะ พร้อมกับฝึกทำ Oro-motor exercise
Week 3 : grade up ชนิดอาหารตามหลัก IDDSI
ช่วงเช้า : ควรฝึกการกลืนอาหารก่อน 9 โมง
1.Shaker exercise
-ท่าที่1 ให้นอนหงาย ยกศีรษะขึ้นและก้มเพื่อดูปลายเท้า ค้างไว้60วินาที จากนั้นให้ผ่อนศีรษะลงพื้นและพัก60วินาที(ทำซ้ำ3ครั้ง) ในระหว่างที่ทำให้หายใจปกติ ไม่กลั้นหายใจและไม่หนุนหมอน
-ท่าที่2ให้ยกศีรษะขึ้นเพื่อดูปลายเท้า และผ่อนศีรษะลง โดยไม่ต้องค้างไว้(ทำซ้ำ30ครั้ง)
2.Jaw opening exercise : อ้าปากให้หว้างที่สุดแล้วค้างไว้ 5-10 วินาที พัก 10 วินาที ทำซ้ำ 6-10 ครั้ง
3.การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านของกล้ามเนื้อลำคอ : ใช้ลูกบอลยางขนาดพอเหมาะไว้ระหว่างใต้คางกับอก พยายามอ้าปากเพื่อกดลูกบอลค้างไว้ 60 วินาที ทำ 3 รอบ
-ให้จินตนาการภาพขณะรับประทานที่อรอย กินเก่ง กินได้ทุกอย่าง แล้วปรับภาพใช้ชัด เมื่อใดมีภาพความกลัวสอดแทรกเข้าให้พูดดังๆ 3 ครั้ง กับตัวเองว่า “ ลบออกไป มั่นใจ กลืนได้ดี ”
-เริ่มฝึกการกลืนด้วยอาหารที่ชอบตามระดับอาหารที่ผู้บริการสามารถกลืนได้
-แบ่งอาหารเป็นคำเล็กๆ
-ก่อนการตักอาหารเข้าปาก ให้ฝึกขยับฟันบนและฟันล่างให้สบกัน แล้วใช้ลิ้นแตะนับฟันบนและฟันล่าง 3-5 รอบ
-ตักอาหารคำเล็กเข้าปาก หลับตาแล้วค่อยๆ ใช้ลิ้นตวัดอาหารไปที่ฟันกรามล่างสลับซ้ายขวาอย่างช้าๆ ข้างละ 5 วินาที แล้วกลืนลงขณะก้มคอ หรือจิบน้ำเล็กน้อยแล้วก้มคอกลืน 2 ครั้ง
-ผู้บำบัดสามารถกระตุ้นให้ผู้รับบริการตักอาหารเข้าปากตรงกลางลิ้น
ช่วงสาย : ฝึกการกลืนโดยใช้ผักผลไม้ ส่วนวิธีการทำแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงกลางวัน
ช่วงบ่าย : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า
ช่วงตอนเย็น : ฝึกการกลืนโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับในตอนเช้า และไม่ควรฝึกกลืนอาหารเกิน 1 ทุ่ม
ช่วง 21.00-23.00 น. : ควรทำการอบอุ่นร่างกายเพื่อปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร-ระบบหายใจ-ระบบขับถ่าย โดยการยืดเหยียดร่างกายเบาๆ หรือทำโยคะ พร้อมกับฝึกทำ Oro-motor exercise
สิ่งที่ควรคำนึงถึง
อ้างอิง
สุรชาติ,/ทองชุมสิน.//(2564).//Swallowing rehabilitation.
ศุภลักษณ์,/เข็มทอง.//(2563).//บทที่5สมดุลสมองเพื่อการบำบัด.//
ใน//กิจกรรมการดำเนินชีวิตจิตเมตตา.//หน้า76-78.//กรุงเทพฯ://แสงดาว.
ศุภลักษณ์,/เข็มทอง.//(2563).//บทที่6การเอาใจใส่เพื่อการบำบัด.//
ใน//กิจกรรมการดำเนินชีวิตจิตเมตตา.//หน้า100-103.//กรุงเทพฯ://แสงดาว.
ไม่มีความเห็น