[review] รีวิว Beckett: ปลายทางมรณะ (2021 netflix)


[review] รีวิว+สปอยล์  Beckett: ปลายทางมรณะ  (2021 netflix) จะเป็นอย่างไร หาการท่องเที่ยวในต่างแดนอันแสนวิเศษของคุณกับคู่รัก ต้องมาหยุดตรงเพราะอุบัติเหตุ ที่ไม่เคิคาดคิดอซ้ำร้ายดันไปเกิดเหตุผิดที่ผิดทาง จนกลายเป็นความวุ่นวายระดับชาติ ยิ่งกว่านั้นคุณถูกไล่ล่าหมายเอาชีวิต คุณจะหนีและหาทางแก้ไขได้อย่างไร

#รีวิวนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง #spoiler
ดูคลิปรีวิวได้ที่นี่

ว่าด้วยเรื่องราวของเบ็คเค็ทท์ และ  เอพริล คู่รักที่เดินทางมาจากอเมริกา ท่องเที่ยวในประเทศกรีซ ทั้งสองคนไปเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ และเที่ยวชมโบราณสถานต่าง ๆ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองต่อสองอย่างมีความสุข แม้ว่าประเทศกรีซจะมีสภาพบ้านเมืองและวิวทิวทัศน์สวยงามอย่างไร แต่ในระหว่างที่คู่รักคู่นี้กำลังเดินทางท่องเที่ยว ภายในเมืองเอเธนส์กับวุ่นวายอันเนื่องมาจากผู้คนประท้วงทางการเมือง

ในคืนวันหนึ่ง หลังจากการท่องเที่ยวอันเหน็ดเหนื่อย ทั้งสองคนขับรถไปยังโรงแรมที่พักในเมืองโยอานนีนา ซึ่งอยู่ไกลออกไปนอกตัวเมือง สาเหตุที่เลือกที่พักนอกเมืองก็เพราะว่า ต้องการหลบหนีความวุ่นวายในเมืองเอเธนส์นั่นเอง

นั่นเป็นการขับรถในช่วงเวลาค่ำคืน ผนวกกับถนนสายเปลี่ยว เบ็คเค็ทท์ ขับรถฝ่าค่ำคืนและถนนคดเคี้ยวนั้นแต่เพียงผู้เดียว ปล่อยให้ภรรยานอนหลับไป ในระหว่างขับนั้นเขาก็มีอาการง่วง และหลับใน รู้สึกตัวอีกทีรถก็ไถลลงไหล่ทางพุ่งชนเข้ากับบ้านร้างหลังหนึ่ง ตัวของภรรยากระเด็นออกไปนอกรถและเสียชีวิต ส่วนตัวเขาบาดเจ็บ ระหว่างที่เขากำลังสะลึมสะลืออยู่ในรถนั่นเอง ก็เห็นว่าในบ้านหลังนั้นมีผู้หญิง 1 คนกับเด็กชาย 1 คน ที่แสดงความหวาดกลัวอะไรบางอย่าง จากนั้นหนังก็ตัดไปที่โรงพยาบาล

เบ็คเค็ทท์ รู้สึกตัวขึ้นตำรวจสืบสวนสอบสวนของกรีซก็มาสอบถาม เหตุการณ์ในคืนขณะเกิดอุบัติเหตุ เบ็คเค็ทท์ เล่าให้ตำรวจฟังว่า ในบ้านร้างหลังนั้นเขาเห็นคนอยู่ในบ้าน แต่ตำรวจก็ยืนยันกับเขาว่า บ้านหลังนั้นเป็นบ้านร้าง ไม่มีคนอาศัยอยู่หลายปีแล้ว ซึ่งถ้าหากเบ็คเค็ทท์ เห็นคนอยู่ในบ้านจริงๆก็น่าจะเป็นคนเร่ร่อน

จากนั้นอีก 2-3 วัน เบ็คเค็ทท์ เดินทางกลับไปที่บ้านร้างแห่งนั้น เขามองคาบเลือดของแฟนสาว เขาเศร้าโศกเสียใจ ถึงขนาดที่ว่าจะกินยาฆ่าตัวตาย แต่แล้วก็มีหญิงสาวคนหนึ่งโผล่เข้ามา แล้วก็ยิงปืนใส่เขาทันที เขาวิ่งหนีเข้าไปในป่า จากนั้นตำรวจสืบสวนคนที่สอบปากคำเบ็คเค็ทท์ ก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วก็เรียกเบ็คเค็ทท์ บอกว่าการยิงปืนของหญิงสาวคนนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ในขณะที่เบ็คเค็ทท์ กำลังจะออกจากที่ซ่อน หญิงสาวคนนั้นก็ยิงปืนใส่เบ็คเค็ทท์อีกหลายนัด หนำซ้ำตำรวจสืบสวนก็ยังสมทบกันยิงเข้าไปอีก  

เบ็คเค็ทท์วิ่งหนีเข้าป่าไปอีกครั้งอย่างทุลักทุเร พร้อมกับความมึนงงสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันคืออะไรกันแน่ ทำไมผู้หญิงปริศนาและตำรวจสืบสวนต้องการฆ่าเขาด้วย วันนั้นเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในรถเก่าคันนึง แล้วก็นอนหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินทางล่าสัตว์มาพบเบ็คเค็ทท์นอนอยู่ในรถคันนั้น แล้วก็ช่วยเหลือเขาไว้ นำเขากลับมาที่บ้าน รักษาแผลที่ถูกยิงให้

แต่แล้วตำรวจก็ตามมาถึงบ้านของชายผู้ให้การช่วยเหลือเบ็คเค็ทท์จนได้ ตำรวจทำร้ายชายผู้นั้น แต่เบ็คเค็ทท์ ไหวตัวทันจึงหนีออกจากบ้านหลังนั้นได้ เขาวิ่งหนีเข้าป่าไปเรื่อย จนมาพบกับคนเลี้ยงผึ้ง เขาขอใช้โทรศัพท์ เพื่อโทรติดต่อกับทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาในเอเธนส์ให้ช่วยเหลือ นายแจ้งว่าตำรวจของพื้น 2 คน และ ผู้หญิงอีก 1 คน ที่ไล่ฆ่าเขา เบ็คเค็ทท์บอกให้สถานทูตส่งคนมารับตัว แต่ก็ใช้เวลานานเกินไป จึงเลือกที่จะเดินทางไปเอเธนส์ด้วยตนเอง แล้วเขาก็ขอความช่วยเหลือกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยอาศัยรถบัสไปยังสถานีรถไฟ

เมื่อเบ็คเค็ทท์ ขึ้นรถไฟคิดว่าตัวเองจะหนีได้แล้ว แต่เจ้าตำรวจท้องที่ มันก็ตามมาขึ้นรถไฟเจอเขาจนได้ ตำรวจจับเบ็คเค็ทท์ได้ ทั้งสองต่อสู้กันเล็กน้อย ตำรวจชักปืนขึ้นมาจะยิงเขา ทั้งสองขัดขืนกัน แล้วปืนก็ลั่นใส่เท้าของตำรวจเอง จากนั้นเขาก็หนีลงรถไฟ เบ็คเค็ทท์ โทรหาสถานทูตอเมริกาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่สถานทูตแนะนำว่าให้ไปมอบตัวกับตำรวจท้องที่ เนื่องจากก่อเหตุร้ายแรงขึ้น

ระหว่างที่กำลังหนีตำรวจอยู่ในเมืองเมืองหนึ่ง เขาก็เห็นว่า มีหญิง 2 คนกำลังติดโปสเตอร์ ซึ่งโปสเตอร์นั้นมีใบหน้าของเด็กชายที่เบ็คเค็ทท์เห็นในบ้านร้างตอนนี้เขาเกิดอุบัติเหตุ เขาให้ถามคนที่ติดโปสเตอร์ แล้วก็ได้รับคำอธิบายว่า เด็กชายที่อยู่ในโปสเตอร์นั้นคือ ดีมอส คาลาส ลูกชายของนักการเมืองดังคนหนึ่งของประเทศกรีซซึ่งถูกลักพาตัวไป

การลักพาดีมอสเกี่ยวข้องกับการเมืองของประเทศกรีซ ที่นักกานเมืองฝ่ายตรงข้ามต้องการจะทำลายพวกคาลาสโดยตรง เลยใช้วิธีการสกปรกโดยลักพาตัวลูกชายของนักการเมืองไปนั่นเอง

เบ็คเค็ทท์ จึงรู้ตัวเองว่าเขาคือพยานสำคัญที่เห็นว่า ดีมอส คาลาส ถูกลักพาตัวไปไว้ที่ไหน ที่สำคัญตำรวจท้องถิ่นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอีกด้วย และนี่เองคือสาเหตุที่ทำไมตำรวจท้องถิ่นถึงไล่ล่าเอาชีวิตเขาแบบเอาเป็นเอาตาย

หญิงสาว 2 คนนั้นเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกำลังจะเข้าร่วมการชุมนุมที่เมืองเอเธนส์ จึงได้ให้การช่วยเหลือเบ็คเค็ทท์ ในการพาไปยังเมืองเอเธนส์ด้วย แต่ระหว่างทางก็มีการตรวจรถทุกคันที่เข้าเมือง เบ็คเค็ทท์จึงลงจากรถ การตัดสินใจเดินทางต่อด้วยรถไฟ เดินมาถึงสถานีปลายทาง ตำรวจก็ตามมาพบอีกจนได้ ทั้งสองต่อสู้กันแล้วเบ็คเค็ทท์ก็หนีได้เช่นกัน จากนั้นก็มีคนในสถานีรถไฟพาเบ็คเค็ทท์ไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกา

เมื่อถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกา เบ็คเค็ทท์ ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่สถานทูตที่เบ็คเค็ทท์ได้โทรคุยตั้งแต่แรกนั้นเข้ามาสอบปากคำเบ็คเค็ทท์ เกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด แล้วเขาก็เล่าทั้งหมดไป แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตก็พูดว่า เขาไม่สามารถลบล้างหมายจับที่เบ็คเค็ทท์ ยิงตำรวจจนได้รับการบาดเจ็บ จึงแนะนำว่าให้ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจในเมืองเอเธนส์คนหนึ่ง แล้วเจ้าหน้าที่สถานทูตก็พาเบ็คเค็ทท์ออกไปหาตำรวจคนนั้น

ในระหว่างการเดินทางไปหาตำรวจเบ็คเค็ทท์ รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตคนนี้ไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พาขับรถวนไปวนมา จนสุดท้ายเข้าไปจอดในที่เปลี่ยว เจ้าหน้าที่สถานทูตจะช็อตเบ็คเค็ทท์เครื่องช็อตไฟฟ้า แต่เบ็คเค็ทท์ไหวตัวทัน แล้วก็ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นช็อตเจ้าหน้าที่ทางการทูตคืน แสดงว่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตของสหรัฐอเมริกาคนนี้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเมืองของประเทศกรีซ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการการลักพาตัวลูกชายนักการเมืองนั่นเอง

เบ็คเค็ทท์ เมื่อหนีไปได้แล้วก็รีบไปหาผู้หญิง 2 คนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ช่วยเหลือเขาเอาไว้ในร้านหนังสือแห่ง เพื่อแจ้งข่าวว่าพวกเธอกำลังอยู่ในอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ทางการทูต แล้วตำรวจกรีซก็ตามมาเจออย่างรวดเร็ว เบ็คเค็ทท์หนีไปได้อีกครั้ง

เบ็คเค็ทท์หลบหนีเข้าไปในฝูงชนที่กำลังชุมนุม ซึ่งในขณะนั้นคาลาส นักการเมืองคนสำคัญของเมืองกำลังขึ้นปราศรัยท่ามกลางฝูงชนที่ส่งเสียงเชียร์อย่างเนืองแน่น จากนั้นเบ็คเค็ทท์ ก็วิ่งเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ลงไปยังชั้นใต้ดิน แต่ก็อีกนั่นแหละ นักการทูตสหรัฐอเมริกาก็เข้ามาพบจนได้ เขายกปืนขึ้นมา ใส่ที่เก็บเสียง แล้วจ่อใส่เบ็คเค็ทท์ ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น แล้วก็พูดกับเบ็คเค็ทท์ว่าคาราสตายแล้ว ถูกยิงในระหว่างขึ้นปราศรัยนั่นเอง ยังไม่ทันพูดจบ เบ็คเค็ทท์ ก็หาจังหวะจัดการกับนักการทูตคนนี้ได้ นักการทูตคนนี้ก็สรุปเรื่องทั้งหมดให้เบ็คเค็ทท์ฟังว่า

การลักพาตัวลูกชายของคาลาสนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งทางการเมือง แต่คาลาส มีประวัติที่ไม่ดีนักโดยเฉพาะเงินทุน คาลาสไปยืมเงินผู้มีอิทธิพลเอาไว้ แล้วไม่ยอมจ่ายคืน ผู้มีอิทธิพลก็เลยลักพาตัวลูกชายคาลาสไป ดังนั้นการลักพาตัวดีมอส คารอส ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของมาเฟียชาวกรีซล้วน ๆ แต่เบ็คเค็ทท์ดันไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาเอง แล้วดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะจบลง และที่สำคัญไม่มีใครรู้ว่าดีมอส คาลอส ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

เบ็คเค็ทท์เก็บปืนของเจ้าหน้าที่ทางการทูตแล้วเดินออกมานอกห้างสรรพสินค้า ก็เห็นว่าภายในเมืองเอเธนส์เกิดความวุ่นวาย ผู้คนไม่พอใจที่มีการลอบสังหารคาลาส ยิ่งก่อการจลาจลอย่างรุนแรง เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับประชาชน บ้านเมืองอยู่ในภาวะมิคสัญญี

ระหว่างที่เบ็คเค็ทท์กำลังเดินหาทางออกจากเหตุความวุ่นวายนั้น ก็ได้เห็นผู้หญิงที่ไล่ฆ่าเขามาตลอดทั้งเรื่อง เขาเดินตามผู้หญิงคนนั้นไป ขึ้นไปที่จอดรถบนดาดฟ้าในอาคารแห่งหนึ่ง แล้วก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่กับตำรวจที่ไล่ฆ่าเขาได้เช่นกัน เบ็คเค็ทท์ชักปืนที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ทางการทูตขึ้นมายิงใส่ตำรวจที่ท้อง ต่อสู้กับหญิงคนนั้น การต่อสู้เป็นไปอย่างทุลักทุเล  แม้เบ็คเค็ทท์จะถูกยิงที่บริเวณเอวจนทะลุ แต่ก็จัดการกับผู้หญิงคนนั้นได้ แต่ตำรวจท้องที่ก็ขับรถหนีออกไป เบ็คเค็ทท์วิ่งไล่ตาม กระโดดลงจากตึกลงบนหลังคารถพอดิบพอดี แล้วก็ต่อสู้กันพอหอมปากหอมคอ ตำรวจสู้ไม่ได้โดนชกจนสลบเหมือด ผู้ชุมนุมก็รีบเข้ามาห้าม และหญิงสาวนักเคลื่อนไหวก็มาช่วยเบ็คเค็ทท์ไว้ เมื่อเหตุการณ์สงบลง ก็ได้ยินเสียงโวยวายอยู่ประตูท้ายรถ มาเปิดประตูออกมา ก็เห็นว่าดีมอส คาลาส อยู่ในท้ายรถ

เป็นอันว่า เบ็คเค็ทท์นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่ต้องการเพียงแค่จะมาท่องเที่ยวกับแฟนสาวในประเทศกรีซ แต่ดันอยู่ผิดที่ผิดเวลา ผ่านอุปสรรคและการไล่ล่ามาอย่างมากมาย ก็สามารถจบเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศกรีซได้ แถมยังช่วยเด็กเอาไว้ได้อีกด้วย จากนั้นหนังก็ตัดจบลงไป

Beckett: ปลายทางมรณะ นับว่าเป็นหนังระทึกขวัญ ที่เล่าเรื่องราวของชายผู้อยู่ผิดที่ผิดทางแล้วผิดเวลา ต้องเดินทางไปทั่ว เพื่อหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจท้องถิ่น กับพวกมาเฟียกรีซ และหนังก็ดำเนินเรื่องเช่นนี้ตลอดทั้งเรื่อง แต่หนังก็ไม่ได้ทำออกมาให้มีความระทึกมากมายอะไรนะ ฉากการต่อสู้แต่ละครั้งก็เป็นเพียงเล็ก ๆน้อย ๆ แม้จะจัดให้อยู่ในหมวดของหนังระทึกขวัญก็ยังไม่ได้ สำหรับโดยส่วนตัวแล้วก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะรู้สึกเอาใจช่วยพระเอกมากนัก เพราะระหว่างตลอดทางการหลบหนี เขามีชาวบ้านที่คอยช่วยอยู่ตลอดทั้งเส้นทางอยู่แล้วนั่นเอง เราจึงไม่จำเป็นต้องลุ้นหรือเกร็งระหว่างดูหนัง

อย่างไรก็ตามหนังดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้สนุกอะไรนัก แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ นับว่าดูได้เพลิน และมีคะแนนความชื่นชอบอยู่ในแดนบวก ซึ่งความดีงามของหนังส่วนสำคัญต้องยกให้กับนักแสดงหลักของเรื่องก็คือ John David Washington ที่รับบทเป็นเบ็คเค็ทท์ เขาแสดงดีมาก เหมาะสมกับรางวัลด้านการแสดงที่เขาได้รับมาอย่างมากมาย และเหมาะสมแล้วกับคำว่าลูกไม้ตกไม่ไกลต้น สมกับเป็นลูกชายของ Denzel Washington ดูแล้วก็รู้สึกว่าเขาอึด ทึกเหลือเกิน ระดับน้องๆ ผู้หมวดจอห์น แม็คเคลนในหนัง Die Hard ยังไงยังงั้น

ส่วนหนึ่งที่ผมชอบในตัวละครตอนนี้ก็คือ หนังเข้าไม่ได้สร้างให้ตัวละครเบ็คเค็ทท์ มีความเก่งกาจ ไม่มีไม่ได้มีสติปัญญาเฉียบแหลมเหนือมนุษย์ ไม่มีความรู็ด้านการต่อสู้อะไรเลย เขาก็แค่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานเกี่ยวกับการขายระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นแค่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเท่านั้นเอง ดังนั้นด้วยความที่เป็นคนธรรมดา การตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ หรือการรับมืออะไรต่างๆนั้น ก็มีช่องโหว่และข้อผิดพลาดอยู่มากตามประสาของมนุษย์ธรรมดานั่นแหละ และการตัดสินใจอะไรที่ผิดพลาด มันก็เลยทำให้เรื่องราวนั้นสามารถดำเนินต่อไปได้แบบเรื่อย ๆ ต้องแก้ไขสถานการณ์ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าค่อนข้างดี ซึ่งจากกับการดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ หรือหนังแนวบุคคลฉลาดมีไหวพริบ อันนั้นก็เก่งเกินไป ยังไงตัวละครประเภทนั้นก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดีอยู่แล้ว

ส่วนตัวบทผมก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้ในระดับหนึ่ง ตัวของหนังเริ่มแรกจากการแสดงให้เห็นถึงความรักของเบ็คเค็ทท์และเอพริล ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกรีซ แต่ด้วยภาวะการประท้วงของประชาชนที่เกี่ยวข้องการเมือง ทั้งสองคนก็ต้องเดินทางไปพักโรงแรมนอกตัวเมือง แต่เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ แล้วมันไปดันเกิดในผิดที่ผิดทาง ดันไปเจอต่อใหญ่ของกรีซเข้า แล้วเราก็ไม่รู้ว่าไอ้ตอใหญ่นั่นคืออะไร ซึ่งหนังก็ปูเรื่องเอาไว้แค่นี้ เราไม่รู้ว่าสาเหตุการประท้วงนั้นคืออะไร แล้วเมื่อเราไม่รู้สาเหตุ มันก็เลยส่งผลให้เนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงท้าย มันค่อนข้างมีพลังมากพอที่จะทำให้เราเชื่อ แล้วเมื่อเขาเฉลยว่าสาเหตุจากการชุมนุมนั้นเกิดจากการสนับสนุนนักการเมืองผสมกับการขัดแย้งกันระหว่างนักการเมืองและมาเฟีย ก็เลยทำให้หนังมีน้ำหนักและค่อนข้างไปทางสมเหตุสมผลพอสมควร

การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้แสดงถึงการเดินทางหลบหนีตำรวจของพระเอก จากเมืองหนึ่งไปสู่อีกเมืองหนึ่ง จากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ระหว่างทางหลบหนีเราจะได้เห็นบ้านเมือง ภูเขา ป่าไม้ ดังนั้นการดูหนังเรื่องนี้มันก็เหมือนกับการที่เราเดินทางท่องเที่ยวไปในประเทศกรีซด้วยนั่นเอง

ส่วนข้อเสียอันดับแรกของหนังงเรื่องนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหนัง กแต่กับทางเทคนิคของ netflix ไม่ว่าคุณจะดูฉบับ Soundtrack หรือฉบับพากย์ไทย เมื่อถึงตอนที่ตัวละครพูดภาษากรีซ ทาง netflix เข้าไม่ได้แปลให้เราเฉยเลย เราเลยไม่รู้ว่าตัวละครสนทนาอะไรกัน มันเลยทำให้หลายสิ่งหลายอย่างขาดหายไปจากการรับรู้ของเรา

ข้อเสียต่อมาคือ ความสามารถของตัวละครบางตัวไม่สมเหตุสมผล อย่างเช่นตำรวจท้องที่ ที่ไม่สามารถจับกุมพระเอก ที่ไม่มีความสามารถอะไรเลยได้ การตามไล่ล่าของตำรวจนั้นก็ง่ายเกินไป ไม่ว่าพระเอกจะไปไหนก็ตามมาทันท่วงทีตลอดซึ่งมันง่ายไป ส่วนพระเอกรู้ทั้งรู้ที่ไม่มีความสามารถอะไร แต่กลับสามารถหนีตำรวจหลายคนได้ง่าย ๆ ด้วยเช่นกัน มันก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เราลุ้นระหว่างดูเท่าที่ควร

และอีกจุดหนึ่งก็คือ สถานะและการตัดสินใจของตัวพระเอก ที่อยู่ดี ๆ ก็คิดอยากจะช่วยเด็กชาย ลูกนักการเมืองซะอย่างนั้น และยิ่งในตอนจบ จากการที่เขาสามารถช่วยเด็กชายได้ก็เหมือนกับวีรบุรุษของประเทศกรีซซะยังงั้น ซึ่งดูแล้วมันก็ไม่ค่อยเหตุผลหรือแรงจูงใจมากพอ แต่ถ้าหากหนังสามารถโยงได้ว่าการช่วยเด็กชายโดยการเชื่อมโยงว่าเกี่ยวกับการตายของภรรยา อันนี้จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นกว่าที่เห็นในหนัง

Beckett: ปลายทางมรณะ ก็ถือว่าเป็นหนังระทึกขวัญไล่ล่า ที่ทำออกมาค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง เป็นหนังที่ดูเพลิน ดูไปก็เหมือนกับการเที่ยวประเทศกรีซไปด้วย ไม่ได้มีบทหักมุม แล้วไม่ได้มีความลึกลับซับซ้อนอะไรมากนะ ถือว่าเป็นหนังที่ดูเพลิน ไม่เสียเวลาในการรับชมอยู่นะครับ

6.5/10
@วาทิน ศานติ์ สันติ


#SuperReviewChannel
#Beckett2021
#BeckettNetflix
#ปลายทางมรณะ2021
#Beckettปลายทางมรณะ

หมายเลขบันทึก: 691979เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2021 07:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม 2021 07:46 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท