จากบันทึกที่แล้ว https://www.gotoknow.org/posts/691674
มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร”
ในวันเพ็ญเดือนแปดนั้น ทำไม ? มีเพียงพระอัญญาโกณฑัญญะเพียงองค์เดียวที่บรรลุดวงตาเห็นธรรม
ทั้ง ๆ ที่ปัญจวัคคีย์ทั้งห้าล้วนอินทรีย์แก่กล้า
นั้นแสดงให้เห็นว่า
แม้เป็นธรรมเดียวกัน ก็ใช่ว่า ทุกคนจะเห็นหรือเข้าถึงได้เท่ากัน
ปุถุชนเราก็เช่นเดียวกัน แม้ได้ผ่านอาสาฬหบูชาทุกปี หรือ ได้ฟัง “ธัมมจักกัปปวัตนนสูตร” เหมือนกัน
ก็ใช่ว่า จะสามารถมีดวงตาเห็นธรรมได้
แต่ทว่า การได้อัตภาพเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ถือว่า มีบุญมากอยู่แล้ว
ธรรมะ ก็มีไว้เพื่อมนุษย์ การตรัสรู้ก็มีไว้เพื่อมนุษย์ ขอเพียงแต่ไม่ละความเพียร หนอ
ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาอนัตตลักขณสูตร
ขณะสดับพระธรรมเทศนา พระภิกษุปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ส่งจิตไปตามกระแสพระธรรมเทศนา จิตก็หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง ไม่ยึดมั่น ถือมั่นด้วยอุปาทาน สามารถละสังโยชน์ครบ 10 ประการ ได้บรรลุพระนิพพานเป็นพระอรหันต์พร้อมกันทั้ง 5 รูป
*** อนัตตลักขณสูตร เป็นธรรมเพื่อการตรัสรู้
มีค่ายิ่งกว่าเพชรนิลจินดาใด ๆ ยิ่งนักเพราะเป็นอริยทรัพย์
ทำไม? ทำไม? เรายังประมาทอยู่
ทำไม่เราจึงยังไม่ใช้ความเพียรอย่างที่สุด เพื่อให้เห็น หนอ
เรามาร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสธรรมกันดีไหมครับ ?
ผมขอร่วมแชร์ประสบการณ์ตนเองไว้ก่อนประมาณนี้ หนอ
ผมขอเริ่มจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา
ต้นยางนาที่สวนอายุหลายสิบปี ถูกลับลอบตัด
ทำให้ผมรู้สึกโกรธมากอย่างเห็นได้ชัดอีกครั้งหนึ่ง (ไม่เคยโกรธขนาดนี้มานานหลายปีแล้ว)
ที่โกรธมากน่าจะเพราะว่า ผมชอบปลูกต้นไม้ และทราบดีว่า กว่าแต่ละต้นจะโตได้นั้น ต้องใช้เวลาหลายปี
อีกทั้งที่ตรงนั้นเคยคิดเอาไว้ว่าจะอนุรักษ์ป่าเอาไว้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
ด้วยความโกรธ ผมรีบแจ้งความกับผู้ใหญ่บ้านอย่างไม่รอช้า
และก็เร่งรีบสืบหาข้อเท็จจริงทันทีจนมืดค่ำ
และในวันนั้นก็ได้ความว่า ชาวบ้านที่ข้างเคียงเขาคิดว่าเป็นที่ของเขา
เมื่อได้สติ ผมรีบติดต่อผู้ใหญ่บ้านให้ชะลอการแจ้งความไว้ก่อน
เพราะต้องทำการพิสูจน์เขตแดนก่อน อีกอย่างถ้าเป็นต้นไม้ผมจริง
ชาวบ้านคนนั้นคงได้รับความเดือดร้อนแน่ ๆ ซึ่งผมไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น
(เพียงแต่อยากให้หยุดพฤติกรรมตัดต้นไม้ แต่ไม่อยากเอาผิด)
------------------------------------------------------------
วันต่อมาผมสังเกตุ เห็นความคิดของตนเอง
มีความโกรธเข้ามาปนเป็นปัจจัยมากขึ้น บ่อยขึ้น
2-3 วันต่อมา ผมเริ่มเห็น “ธรรม” บางอย่างปรากฏชัดขึ้น
นั่นก็คือ ทรัพย์ภายนอก กับ อริยทรัพย์
ธรรมชาติของ “ทรัพย์ภายนอก” มันเป็นเช่นนั้นเอง
จริง ๆ แล้วมันนำทั้งสุข และ ทุกข์ มาให้
ตอนเราซื้อที่ดิน เราก็มีความสุข และคาดหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจะเป็นอย่างนี้
แต่โดยธรรมชาติของทรัพย์ภายนอก มันมีทั้งข้อดี และ มันมีทั้งทุกข์
แต่เราส่วนใหญ่แรก ๆ จะเห็นแต่ข้อดี จะไม่เห็นว่ามันเป็น “ทุกข์” ด้วย
แล้วจะจัดการอย่างไร ? ให้เป็นธรรม
ผมพิจารณาอยู่หลายวัน และ บังเอิญว่า ช่วงนั้นได้ฟังธรรมเทศนา
ของพระอาจารย์สุธรรม พระอาจารย์คำเขียน ท่านได้เมตตาเทศสอนเกี่ยวกับ
การจัดการกับทรัพย์ภายนอกนี้ไว้พอดี ประมาณว่า
.. แดดมันไม่ได้เป็นทุกข์ ฝนมันไม่ได้เป็นทุกข์
แต่ความคิด จิตใจเราต่างหากที่เป็นทุกข์
.. ทรัพย์เหล่านั้น เขามีทั้งคุณ มีทั้งโทษ เราก็ใช้เขาสร้างประโยชน์
ทั้งประโยชน์ตน และ ประโยชน์ท่าน …
หมายความว่า อย่าไปเป็นทุกข์กับทรัพย์เหล่านั้น
แต่ควรใช้ทรัพย์เหล่านั้นในการฝึกต้นและสร้างประโยชน์
----------------------------------------------------------------
ต่อมา …
ไม่มีความเห็น