เมื่อก่อนผมเคยสงสัยว่าทำไม..ภาคเอกชน ที่เป็นเอกชนแบบมีมาตรฐานและมีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ ถึงมีการบริหารจัดการที่มั่นคง ก้าวหน้าและมีผลกำไร...
ผมได้คำตอบเมื่อหลายปีก่อน หลังจากเข้ารับการอบรมเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา ถึงแม้จะเป็นงานประกันคนละแบบ แต่ก็มาจากหลักการหรือพื้นฐานเดียวกัน
ปัจจุบัน..งานประกันคุณภาพ ใช้กันทุกองค์กร ทุกสถาบันทางการศึกษา เป็นเรื่องที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ..อย่างชัดเจน
แต่ละหน่วยงานมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน สำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีรายละเอียดเชิงคุณภาพและตัวชี้วัดมากมาย ที่ครูและผู้บริหารต้องศึกษาและทำความเข้าใจ
ในรอบ ๑๐ ปีที่ผมศึกษาและจำได้ว่าระบบงานประกันคุณภาพ มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงมา ๒ – ๓ ครั้งแล้ว จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษา
ตลอด ๕ ปีการศึกษาที่ผ่านมา ผมจึงไม่พลาด การรายงานผลการประเมินตนเอง(SAR) ของโรงเรียนให้เขตพื้นที่ฯได้รับทราบผลการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายใน
ด้วยความเชื่อที่ว่า..หากประกันคุณภาพภายในดี ก็ไม่ต้องเป็นห่วงการประเมินจากภายนอก ที่ดำเนินการโดย สมศ.ในทุกๆรอบ ๕ ปี
จริงๆแล้ว งานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มิใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ยอมรับและเรียนรู้เท่านั้น..หากเจาะกันให้ลึกลงไป จะพบว่า..นี่คือหัวใจของการจัดการศึกษาก็ว่าได้
เพราะงานประกันคุณภาพ มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา ครอบคลุมด้านคุณภาพผู้เรียน ด้านกระบวนการบริหารและด้านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ในแต่ละมาตรฐาน มีตัวชี้วัดหรือประเด็นพิจารณา เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้วางแผนการทำงาน ที่จะนำไปสู่การเข้าถึงซึ่งระดับคุณภาพตามเป้าหมายที่โรงเรียนตั้งไว้
ข้อดีของแนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานดังกล่าวก็คือ ความเป็นธรรมชาติ.. ประเมินงานที่ปฏิบัติอยู่แล้วในโรงเรียน /ในห้องเรียน อย่างต่อเนื่องและเห็นผลเชิงประจักษ์
ด้วยเครื่องมือที่ประกอบด้วยแผนงาน/โครงการและกิจกรรมที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทโรงเรียน ตลอดจนมีกระบวนการนิเทศภายในที่เป็นระบบ
ข้อค้นพบอย่างหนึ่ง ที่มิอาจปฏิเสธได้เลยของงานประกันคุณภาพภายในก็คือ ต้องทำงานกันทุกงาน ที่อยู่ในโครงสร้างของสถานศึกษา และทำกันทุกคนที่มีอยู่ในองค์กร
ที่ผ่านมา..ผมมองไม่เห็นความสำเร็จเลย แม้จะเรียนรู้และทำความเข้าใจการประกันคุณภาพมากเพียงใดก็ตาม..แต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ที่ผ่านไป..ผมต้องไขว่คว้าหาความถูกต้อง..
เมื่อต้องทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา(SAR)ในทุกมาตรฐาน ข้อมูลต้องมาจากห้องเรียน ที่ผ่านการประเมินตนเองของครู โดยที่ครูจะต้องประเมินการจัดการเรียนการสอนและประเมินคุณภาพผู้เรียน ตลอดจนรายงานผลการปฏิบัติงานด้วยตนเองเสียก่อน
ผมให้ครูดำเนินการเป็นครั้งแรก...ก่อนที่ฝ่ายวิชาการจะหลอมรวมเป็นรายงานฉบับเต็มของสถานศึกษา ที่เป็นรายงานประจำปี...ที่สมบูรณ์แบบ
รู้สึกขอบคุณแผนปฏิบัติการงบประมาณและแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่เป็นแผนเชิงกลยุทธิ์ และขอบคุณครูทุกท่านที่ร่วมด้วยช่วยกันทำงาน การทำทุกงานและทำทุกคน มันดีอย่างนี้นี่เอง.
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๒ เมษายน ๒๕๖๔
ไม่มีความเห็น