.
สงคราม/ความรุนแรง ระหว่างศาสนา หรือระหว่างนิกายในศาสนาเดียวกัน (เช่นสงคราม IS ในซีเรีย) มองไปแล้วมันน่าขำ เพราะทุกศาสนาต่างก็อ้างว่าตนรักสันติสุข โดยเฉพาะอิสลามนั้นแปลว่าสันติในภาษาอาหรับ
.
ความสุขที่อ้างกันในแต่ละศาสนานั้นยังไม่ถึงขั้นโลกุตรสุข ถ้าเป็นโลกุตรสุข จะเหมือนกันไม่ว่าจะต่างนิกายต่างศาสนากันเพียงใดก็ตามและจะไม่รบพุ่งกัน ที่รบกันนั้นแสดงว่าแต่ละฝ่ายยังไม่ถึงโลกุตร ยังเป็นโลกิยะอยู่ ดังนั้นความสุขจึงต่างกัน จึงต้องรบกันเพื่อเอาชนะเพื่อให้อีกฝ่ายที่แพ้ยอมรับในการตีความคัมภีร์ของตน
การจะแก้ไขให้เลิกรบกันระหว่างศาสนาหรือระหว่างนิกายในศาสนาก็คงต้องเอากำปั้นทุบดินแล้วบอกว่า ก่อนจะรบกันให้ถามตนเองว่าได้พัฒนาความสุขของท่านไปถึงโลกุตรสุขหรือยัง ถ้าตอบว่ายังก็ให้ไปฝึกวิทยายุทธ ให้ความสุขของท่านจากสุขเนื่องจากโลก (Worldly happiness) ให้กลายเป็นสุขเหนือโลก (Transcendental happiness ) แล้วจึงค่อยมาเจรจารบกันอีกที โดยทั้งสองฝ่ายให้ตั้งพระหรือผู้ประพฤติธรรมชั้นสูงมาเจรจาความกันก่อน โดยปราศจากการครอบงำของฝ่ายการเมือง ว่าศาสนาเราต่างก็นับถือความสุขสันติด้วยกันทั้งสอง จะมารบกันให้ล้มตายเลือดนองแผ่นดินทำไม ซึ่งมันขัดแย้งต่ออุดมการณ์ทางศาสนาที่เราต่างนับถือ และยังทำให้พวกไม่มีศาสนา (เอเธียส) เขาดูถูกจนถึงกับหัวเราะเยาะก็เป็นได้..
เสียแต่ว่าพวกเกจิในทุกศาสนาวันนี้ หาที่ดีๆใฝ่สันติอย่างแท้ๆนั้นหาได้ยากมาก ส่วนใหญ่เป็นเกจิอลัชชีกำมะลอ (กรรมมารอ) ที่ชอบก่อสงครามซะอีกด้วย
ทุกวันนี้ อลัชชี มีหลายส่ำ
กรรมมารอ กอมะลำ น่าขำหนอ
สัตว์จะทำ สัจจธรรม มันหัวร่อ
แล้วร้องอ๋อ คุณธรรม คุณน่ะทำ
----คนถางธรรม..๒๓มีค. ๖๔
ไม่มีความเห็น