เดินกลับมาคืนนี้ก็เห็นห่อผ้าดังกล่าววางอยู่หน้าห้อง...
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะกลัวขี้หดตดหาย
แต่ทว่า ตั้งแต่ได้ไปทำเมรุฯ ที่เมืองลาว ซึ่งต้องอยู่ในป่าช้าข้าง ๆ เชิงตะกอนเป็นเวลากว่า ๖ เดือน ห่อผ้านี้ก็ดูธรรมดาไปเลย
เพราะตอนอยู่ที่นั่น มีทั้งหลุมใหม่ หลุมเก่า ที่ชาวบ้านขุดขึ้นมาแล้วนำร่างกายที่จิตใจได้ละสังขารมาฝังไว้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีครั้งหนึ่ง ในช่วงเช้า มีผู้ชายสองคนหิ้วกล่องกว้างยาวประมาณ ๑ ฟุตมา แล้วพูดว่า "เอาเจ้าน้อยมาฝัง"
ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ถามเพื่อนว่า เขาพูดว่าอะไร เพื่อนบอกว่า เขาจะเอาศพเด็กมาฝัง
ถามไปถามมาก็สรุปได้ว่า เด็กคนนั้นลืมตาดูโลกเมื่อวาน โดยระหว่างทางกลับบ้านท่ามกลางอากาศหนาว โดยนั่งรถที่ไม่มีหลังคา แล้วปรากฏว่า เด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อวานนั้นก็ได้จากโลกนี้ไปในชั่วเวลาข้ามคืน
เราก็บอกว่า ฝังไว้ข้าง ๆ ทางจงกรมหน้ากุฏินี้แหละ จะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน
เช่นเดียวกับห่อผ้านี้ เราก็ไม่รู้ว่าของใคร และใครนำมาวางไว้ แต่รู้ว่าคืนนี้คงจะได้อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดทั้งคืน...
------------------------
ถ้าหากเปรียบเทียบชีวิตของหนุ่มสาว ถ้ากลับมาแล้วมีดอกไม้สักช่อวางอยู่หน้าห้องเขาคงจะได้ใจ
แต่ทว่าความดีใจนั้นก็เป็นการสร้างอุปาทานความหลงขึ้นในจิตใจ ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์โลกทั้งหลายที่ต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสาร
การได้เห็น ได้สัมผัส ได้ใกล้ชิดกับสิ่งสุดท้ายของชีวิตอย่างเช่นห่อผ้าห่อนี้ก็เป็นโอกาสในการพิจารณาเพื่อปล่อยวาง ว่าสักวันหนึ่งเราก็ต้องสลายร่างลงไปอยู่ในห่อผ้านี้เช่นเดียวกัน...
------------------------
อะนิจจา วะตะ สังขารา - สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปปาทะวะยะธัมมิโน - มีความเกิดขึ้นแล้วมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิต๎วา นิรุชฌันติ - ครั้นเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสัง วูปะสะโม สุโข - ความเข้าไปสงบระงับสังขารทั้งหลาย , เป็นสุขอย่างยิ่ง, ดังนี้.
-------------------------
สัพเพ สัตตา - สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
มะรันติ จะ มะริงสุ จะ มะริสสะเร -ตายแล้วด้วย, กำลังตายอยู่ด้วย, และจะต้องตายอีกด้วย
ตะเถวะหัง มะริสสามิ -เราก็จะต้องตายอย่างนั้นเหมือนกัน
นัตถิ เม เอตถะ สังสะโย -ความสงสัยในเรื่องตายนี้, ย่อมไม่มีสำหรับเรา
ไม่มีความเห็น