๘๗๓. การเป็นผู้นำ หรือหัวหน้าคน


การเป็นผู้นำ หรือหัวหน้าคน

ทราบกันหรือไม่ว่า...ทำไมคนบางประเภทจึงไม่สามารถเป็นผู้นำ หรือหัวหน้างานคนได้...การเป็นผู้นำ หรือหัวหน้างานคนไม่ได้เป็นกันได้ทุกคน มีบางคนที่สู้อุตส่าห์เรียนจบมาด้วยวุฒิการศึกษาที่สูง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่ไปถึงไหน ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ทำงานซ้ำซาก นั่งบ่นน้อยใจไปวัน ๆ  ซึ่งบางคนทำงานขยัน ซื่อสัตย์ ก็เป็นใหญ่ไม่ได้ บางคนขยันทำงาน แต่ก็ไม่ถูกเลือกให้เป็นผู้นำหรือหัวหน้างาน...บางคนเป็นผู้นำ แต่ก็ย่ำอยู่กับที่ ไม่สามารถไปถึงไหน ไม่ต้องแปลกใจ...ไม่ต้องแปลกใจ มีปัจจัยหลาย ๆ ประการที่คนเหล่านี้ไม่มี ซึ่งเป็น Key Factors ของการเป็นหัวหน้า หรือผู้นำที่จะทำให้เขาเข้าไปเป็นหัวหน้า หรือผู้นำที่นั่งในใจคน คือ เจ้านาย เพื่อน และลูกน้องได้...ให้สำรวจดูตนเองว่าท่านเข้าข่ายเป็นลักษณะเหล่านี้หรือไม่...สิ่งเหล่านี้ คือ การที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนมีความแตกต่างกัน

๑. เป็นคนเจ้าอารมณ์...ทนกับความกดทันไม่ได้ ไม่สามารถที่จะเก็บกดความรู้สึกได้ ไม่นำความจริงมาไตร่ตรอง เกิดปฏิกิริยาทัน เมื่อถูกทักท้วง หรือถูกขัดใจ แสดงอารมณ์ก้าวร้าวออกมาทันที โดยไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น

๒. เป็นคนพูดมาก...คือ พูดเรื่องที่ไร้สาระ ไม่เป็นเรื่อง ไม่ถูกกาละเทศะ หาแก่นสารไม่ได้ ไม่เหมาะสมกับเหตุการณ์และสถานการณ์ ณ เวลานั้น

๓. เป็นคนชอบเรื่องไร้สาระมากเกินไป...เวลาพูดก็ไม่เข้าประเด็นสักที ประชุมทั้งวันโดยไม่ได้สาระอะไรเลย

๔. เป็นคนดื้อเงียบ...เมื่อมีความไม่พอใจ ไม่พอใจ ไม่ฟัง ไม่ยอมไต่ถาม แสดงออก เก็บงำไว้ในใจ โดยปฏิเสธไม่ยอมทำตาม บางทีเอาไปนินทา พูดลับหลัง คนเหล่านี้ไม่มีวันแก้ปัญหาได้ และเป็นคนอมทุกข์

๕. เป็นคนชอบพูดเหน็บแนม ตอบโต้ เข้าข่ายเป็นคนคิดลบ ใครพูดอะไรก็มองตรงกันข้าม มีความคิดชอบวิจารณ์แบบไม่สร้างสรรค์ ไม่มีความอดกลั้น ไม่ให้เกียรติผู้อื่น และเอาตนเองเป็นที่ตั้ง

๖. เป็นคนยึดติดในผลประโยชน์...บางเรื่องเป็นคนที่ยอมเสียไม่ได้ เป็นคนคิดเล็กคิดน้อย เอาแต่ได้ เป็นคนใจคับแคบ ชอบเอาแต่ได้

๗. เป็นคนที่ไม่เสียสละเพื่อผู้อื่น...ไม่เสียสละเพื่อส่วนรวม รักแต่ตนเอง อยู่แต่โลกของตนเอง ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น ทำบุญให้ทานใครไม่เป็น

๘. เป็นคนเห็นแก่พวกพ้องหรือส่วนตนมากเกินไป...ซึ่งทุกคนมีข้อนี้ แต่คนที่ดีจะมีในปริมาณที่พอดี ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน พึงได้พึงมีที่พอควร รู้จักคำว่า "พอดี พอเพียง" พึงได้พึงมีในสิ่งที่ควรได้ ไม่ละโมบโลภมาก สร้างเงื่อนไขเพื่อตนเองและพวกพ้องเพื่อให้ใคร ๆ เห็นว่าตนเองเป็นคนที่มีน้ำใจ

๙. เป็นคนพูดมากมากกว่าการทำ...คุยได้ตลอดถึงทุกประเด็น และทุกปัญหา แต่ไม่เคยลงมือปฏิบัติ ชี้ให้แต่คนอื่นเป็นผู้กระทำ

๑๐. เป็นคนชอบทำงานเอาหน้า...ทำงานต่อหน้าผู้บังคับบัญชา พอลับหลังโยนให้กับคนอื่นทำแทน หลีกหนีความรับผิดชอบในงานหรือสิ่งที่ตนเองต้องทำ

๑๑. เป็นคนไม่ชมคนอื่น ชมไม่เป็น หรือไม่ต้องการชมคนอื่น...ซึ่งอาจเกิดจากการขาดความรักในวัยเด็ก จิตใจเลยมีปมฝังแน่นไปด้วยความโหยหา อิจฉาริษยา มีแต่ความอยากได้

๑๒. เป็นคนที่ชอบโทษคนอื่น...ซึ่งเป็นทางออกเพื่อเอาตัวเองรอด ขาดความรับผิดชอบ ทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นหัวหน้า มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ควบคุม ดูแลให้ดี ถูกต้อง มิให้ต้องเกิดการเสียหาย

๑๓. เป็นคนที่ไม่ฟังคนอื่น มีจิตใจคับแคบ...มักเป็นพวกที่มีประสบการณ์สูงไป เข้าใจว่าตนเองแน่ มีความตั้งใจยัดเยียดความคิดของตนให้คนอื่นอย่างเดียว ไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะมีความคิดเห็นและเป็นประโยชน์อย่างไร

๑๔. เป็นคนที่รีบด่วนสรุป...คือ มีข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วน ก็รีบด่วนสรุปความแล้ว ใช้ประสบการณ์มากเกินไป อาจผิดพลาดได้ในภายหลัง...ทำตัวเหมือนเป็นนักการพนัก มีได้-มีเสีย

๑๕. เป็นคนแพ้ไม่เป็น...พอพลาดพลั้งทำผิดก็กลัวว่าจะเสียหน้า บางคนแสดงเป็นโกรธ กลบเกลื่อน โทษคนนั้นคนนี้ เสมือนเพื่อการเอาตัวรอด บางรายอาจหาทางออกโดยไม่ให้คนอื่นดูว่าตนเองผิด

๑๖. เป็นคนเลือกที่รักมักที่ชัง...มีอคติต่อคนอื่น ถ้ารัก หรือชอบใครเมื่อคนนั้นทำผิดก็แก้ตัวให้ หากทำความดีนิดหน่อยก็ป่าวประกาศให้คนทั่วไปได้ทราบ...

๑๗. เป็นคนมองคนแบบสั้น ไม่มองยาว...คือ รีบด่วนสรุปคนเกินไปในระยะสั้น ๆ ว่าดีหรือเลว ด่วนตัดสินใจคน แต่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง

๑๘. เป็นคนมีสองมาตรฐาน...ซึ่งขึ้นอยู่กับผลประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ไม่สนใจเหตุและผล ความน่าจะเป็น แก้ตัวไปด้วยน้ำขุ่น ๆ

๑๙. เป็นคนฉลาดแกมโกง...เป็นพวกที่ฉลาดแต่ขาดคุณธรรมในตนเอง จัดอยู่ในพวกฝ่ายอธรรม พวกนี้อันตราย น่ากลัว เพราะฉลาดที่จะทำชั่ว

๒๐. เป็นคนบ้าอำนาจ...ยึดติดในรสชาดของอำนาจ ใช้อำนาจแบบฟุ่มเฟือย ให้คนเข้ามาพินอบพิเทาแล้วตนเองมีความสุข ชอบอวดเบ่งแล้วตนเองมีความสุข รู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญ พวกนี้มีแต่อำนาจ แต่ไม่มีบารมี พอหมดอำนาจก็เหมือนหมาตัวหนึ่ง

๒๑. เป็นคนหลงตนเอง...ชื่นชมให้ความสำคัญตนเองเกินเหตุ เชื่อแต่ในสิ่งที่ตนเองคิด เห็นแต่ในสิ่งที่ตนเองต้องการเห็น มองข้ามความจริงที่พึงเป็น บางครั้งก็ยกตนข่มท่าน พวกนี้จะแฝงความอิจฉาอยู่กลาย ๆ

๒๒. เป็นคนที่ชอบตำหนิคนอื่น...พวกนี้หาความสุขจากการที่เห็นคนอื่นกระทำผิด ตำหนิติเตียนแบบไม่สร้างสรรค์

๒๓. เป็นคนไม่โปร่งใส...ชอบทำอะไรมุบมิบ รู้อยู่คนเดียว ตรวจสอบไม่ได้ คนอื่นไม่มีส่วนร่วม มักเกิดกับพวกที่มีนิสัยไม่ตรงไปตรงมา

๒๔. เป็นคนใจเสาะ...พอพบเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญ หาคนอื่นแทน ไม่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ เพราะเกรงกลัวว่าตนเองจะต้องมารับผิดชอบ

๒๕. เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ...เกิดจากสาเหตุที่ตนเองเป็นคนใจเสาะ หรือลังเล เหลาะแหละ เหลวไหล ไม่มีความมั่นใจในตนเอง อาจขาดประสบการณ์ ขาดความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ทำ

๒๖. เป็นคนไม่กล้าแสดงออก...เป็นพวกที่ขาดความมั่นใจ วัยเด็กอาจถูกรังแกมาก่อน ต่อหน้าเลยทำหงอตลอดเวลา ชอบแสดงลับหลังทำเป็นกร่างอยู่คนเดียว

๒๗. เป็นคนคิดซับซ้อนไม่เป็น...เห็นอะไรก็เห็นเพียงรูปแค่นั้น ไม่เคยเห็นความหมายของสิ่งนั้น คิดอะไรเกิน ๑ เหตุการณ์ไม่เป็น ไม่คิดไกล พวกนี้เอาอะไรกับเขามากไม่ได้ มีชีวิตคอยแต่แก้ปัญหา ป้องกันปัญหาไม่เป็น ทำตนเหมือนซื่อ บริสุทธิ์ เหมือนโง่

๒๘. เป็นคนที่เห็นอะไรตามที่อยากเห็น...ชอบหาคำอธิบายสิ่งที่อยากให้เป็น ไม่มองด้านตรงกันข้าม พวกนี้จะผิดหวังบ่อย 

๒๙. เป็นคนปฏิเสธความเป็นจริง...เพราะมันทำให้เจ็บปวด กระทบความรู้สึกและผลประโยชน์ตนเอง พวกนี้จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้

๓๐. เป็นคนที่หลอกตนเองได้...เพื่อรักษาความรู้สึกตัวเองเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรเป็น

๓๑. เป็นคนที่เอาตัวรอดเก่ง...ถ้าเป็นการแก้ปัญหาส่วนรวมหรืองานก็พอรับได้ แต่ถ้าเข้าข่ายแก้ตัว ไม่ดี

๓๒. เป็นคนที่มีลักษณะที่ไม่น่าไว้วางใจ... เช่น บุคลิกภาพ การพูดจา พฤติกรรม ผลงานในอดีต ประสบการณ์  ความรู้ การนำเสนอหรือการแสดงออก ความรับผิดชอบ เหล่านี้มีผลต่อผู้บังคับบัญชาที่จะให้ความไว้วางใจหรือไม่ 

นอกจากนี้แล้ว คนที่จะขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงได้อย่างรวดเร็วได้นั้น ต้อง

๑. เป็นคนเก่ง มีความรู้ในงานที่ทำ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

๒. คิดเป็น มีวิสัยทัศน์ วางแผนเป็น วิเคราะห์ปัญหาได้ สังเคราะห์ วิธีการแก้ปัญหาได้

๓. ทำงานเป็น รู้จักวิธีการ มุ่งมั่น รับผิดชอบ อดทน มีกรอบเวลาในการทำงาน

๔. นำคนอื่นได้ รู้จักสร้างแรงจูงใจ สอน แนะนำ ควบคุมเป็น

๕. ยอมรับผิดชอบชั่วดีจากผลลัพธ์ที่ตนเองทำ

๖. เสียสละ มีน้ำใจแบ่งปันให้คนอื่นได้ ไม่เอาเปรียนคนอื่น

๗. วางตัวเหมาะสม น่าเชื่อถือ

๘. กล้าแสดงออกบนพื้นฐานของเหตุผล

๙. มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ดี หนักแน่น อดทน อดกลั้นเป็น

๑๐. ทำตัวเป็นที่วางใจแก่ผู้อื่นและผู้บังคับบัญชา โดยแสดงออกซึ่งจิตอาสา ไม่หลบหนี มีวินัย มีความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ฉลาดคิด พูด ทำ มีน้ำใจ ปรึกษารายงานเป็น ไม่สับเพร่า ไม่พูดมาก แสดงออกอย่างเหมาะสม 

สูตรมาตรฐานความเป็นผู้นำที่ดี คือ "ไม่โง่ ไม่ชั่ว ไม่เฉื่อย"

สูตรความสำเร็จในการเป็นผู้นำที่ดีเยี่ยม คือ "อดทน อดกลั้น หมั่นเพียร เรียนรู้ อยู่เพื่อองค์กร สอนคนทำงาน สานสัมพันธ์ได้ครบ มีความเคารพนอบน้อม พร้อมที่จะเสียสละ ไม่ลดละความมุ่งมั่น มีความฝันที่อรกได้ มีหัวใจชี้นำทาง มีพลังไม่อ่อนล้า มีความกล้ารับผิดชอบ พร้อมส่งมอบความสำเร็จ แม้เหนื่อยเหน็ดก็ยิ้มได้ ให้ความรักต่อคนอื่น พร้อมตื่นตัวอยู่ทุกเมื่อ เชื่อมั่นในคุณธรรม นำชีวิตเป็นสุขได้"

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ คือ สมรรถนะ Competency ที่สามารถนำไปเขียนเป็นพฤติกรรมของคนทำงานได้ค่ะ

ที่มา : https://www.pattanakit.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=538617960&Ntype=121

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาในบันทึกนี้

บุษยมาศ แสงเงิน

๑๕ มีนาคม ๒๕๖๔

หมายเลขบันทึก: 689510เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2021 12:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน 2021 11:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท