อาจเรียกลัทธิใหม่ที่กำลังจะนำเสนอในที่นี้ว่า..ธรรมศาสนา (หรือ ธรรมศาสน์, ธศ.) ไปพลางก่อนก็ได้..เพราะจะยึดเอาพระธรรมเพียงอย่างเดียวเป็นสรณะแห่งชีวิต..อีกทั้งที่พศ.สอนว่า ชีวิตเป็นทุกข์..เกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์ ธศ.ขอปรับมาเป็นว่า ชีวิตเป็นสุข..เกิดอยู่แก่ตาย เป็นสุข (ส่วนการเจ็บนั้นเป็นสิ่งที่จรมาเป็นครั้งคราวไม่สมควรนำมาเป็นข้อพิจารณาในขั้นนี้)
เช่นการเกิดนั้นเป็นความสุขอย่างยิ่ง เพราะเป็นการคลอดออกมาเป็นทารก ได้เห็นแสงสว่างและมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหวตัว ทดแทนความทุกข์/ความมืด/ความอุดอู้ในท้องแม่มาเป็นเวลา ๙ เดือน การอยู่ การแก่ การตายก็เป็นสุข ซึ่งจะได้อธิบายเมื่อถ้อยคำเนื้อความมาเกี่ยวข้องกับประเด็นเหล่านี้
ยิ่งการยึดเอาพระสงส์เข้ามาเป็นที่พึ่งด้วยเพื่อให้ครบแก้วสามประการนั้นจะยิ่งไปกันใหญ่ หากบอกว่า “อริยะสงฆ์” ยังพอฟังขึ้น เพราะพระสงฆ์ธรรมดาอาจมี “ปุถุสงฆ์” ปนเข้ามาเสียมาก ควรปรับมาเป็นอริยะสงฆ์จะดีขึ้นมาก แต่ก็ยังมีข้อแย้งว่า แล้วเราจะตัดสินได้อย่างไรว่าพระรูปใดเป็นปุถุหรืออริยะสงฆ์
-----คนถางทาง .มีค. ๖๔
ไม่มีความเห็น