ถ้าตั้งใจจะทำความดีไม่ต้องกลัวคนนินทา


ผู้ที่เก่งแต่คอยจับผิดผู้อื่น โดยไม่ยอมดูเหตุดูผลหรือดูตัวเองนั้น สักวันหนึ่งเขาจะประสบกับสิ่งที่ทำให้เขาต้องเสียใจอย่างไม่คาดคิดได้

ถ้าตั้งใจจะทำความดีไม่ต้องกลัวคนนินทา

ดร.ถวิล  อรัญเวศ

       การที่เราคิดจะทำอะไรที่เป็นความดี และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและต่อชาติบ้านเมือง ไม่ต้องกลัวคนจะมาตำหนินินทา เพราะการทำความดี พุทธองค์ทรงให้แง่คิดว่า มักจะมีมารมาคอยผจญอยู่เสมอ อาจจะทำให้เราท้อแท้ ถ้าเราไม่อดทนอดกลั้น ย่อมแพ้มาร เข้าทางมาร โอกาสที่เราจะได้สร้างคุณงามความดีก็ยาก เพราะคนที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก คนจะนินทาใคร เขาก็ย่อมสามารถยกหาเหตุผลมานินทาได้ทั้งนั้น แต่เราต้องไม่ใส่ใจคำนินทานั้น ปล่อยวาง ไม่ให้เป็นเรื่องกดดันในการทำความดี

       อนึ่ง แม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตจิตใจยังถูกนินทาเลย  จะป่วยกล่าว

ไปใยถึงมนุษย์หรือคนเดินดินธรรมดา ย่อมไม่พ้นการถูกนินทาได้

ดังนิทานปรัมปราที่เล่ากันมา ขออนุญาตนำมาสาธกเพื่อให้

เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น

       กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว มีชายคนหนึ่ง ชาวบ้านต่างพากันเรียกเขาว่า "นายช่าง"แต่การเป็นนายช่างของเขามิใช่ช่างไม้

ช่างปูน หรือว่าช่างยนต์กลไกแต่อย่างใด แต่เขาเป็น "ช่างติ"เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการติหรือทางพระเรียกว่าเป็นเอตทัคคะในทางติเลยทีเดียว กล่าวคือเขาเห็นอะไรก็สามารถติได้ทั้งนั้น ไม่ต้องให้ใครมาบอกมาสอน เหมือนกับที่โบราณกล่าวไว้เป็นคำกลอนไว้ว่า

      “ช่างกลึง พึ่งช่างชัก  ช่างสลัก  พึ่งช่างเขียน

       ช่างรู้ พึ่งช่างเรียน    แต่ช่างติเตียน  ไม่ต้องพึ่งใคร”

       ชาวบ้านพากันคิดว่า นายคนนี้ เป็นนักจอมติดีแท้ น่าจะ

จัดให้มีการประลองความสามารถในการติของเขาดูซิว่า เขาจะสามารถติได้ทุกอย่างทุกเรื่องได้หรือไม่

      มีผู้เสนอว่า น่าจะเชิญช่างปั้นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านนิยม

ยกย่องว่ามีฝีมือดีเยี่ยมมาปั้นพระพุทธรูปแล้วให้นายช่างติคนนี้มาติลองดูซิว่า เขาจะหาที่ติได้หรือไม่

        เมื่อตกลงกันอย่างนี้แล้ว ชาวบ้านก็ได้ไปเชิญช่างปั้นพระพุทธรูปมาแล้วบอกวัตถปุระสงค์ให้ทราบ

        ช่างปั้นพระพุทธรูป ก็ทราบและได้ออกแบบพระพุทธรูปและปั้นอย่างประณีตบรรจง เรียกว่าปั้นอย่างสุดฝีมือ หรืออย่างสุดความรู้ความสามารถที่ฝึกฝนมาเลยทีเดียว

        เมื่อการปั้นพระพุทธรูปเสร็จเรียบร้อยแล้วชาวบ้านต่าง

ก็ชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า “พระพุทธรูปองค์นี้งามจริง ๆ หาที่ติไม่ได้” แล้วให้คนไปเชิญนายช่างติ มาติพระพุทธรูป

       พอนายช่างติมาเห็นพระพุทธรูป ถึงกับตกตะลึง เพราะพระพุทธรูปองค์นี้สวยงามจริง ๆ เขาพิจารณาพระพุทธรูปอย่างละเอียดลออ แต่ก็หาที่ติไม่พบ เขาจนเกือบจะยอมแพ้แล้ว

          แต่แล้ว สุดท้าย นายช่างติ ก็เอ่ยขึ้นมาจนได้ว่า

"พระพทุธรูปองค์นี้ สวยงามจริง ๆ พุทธลักษณะถูกต้องทุกประการ”   แต่............

          "แต่...อะไร"เสียงชาวบ้านถามออกมาพร้อม ๆ กัน ...

          "มีที่เสียอยู่นิดหนึ่ง" นายช่างติพูดเบา ๆ 
"เสียตรงไหน"  ชาวบ้านถาม ...

         "พระพทุธรูปองค์นี้ สวยงามทุกอย่างแต่เสียอย่างเดียว
คือ “พูดไม่ได้" 

         นายช่างติตอบอย่างหน้าตาเฉย          

         ชาวบ้านพอได้ยินดังนั้น ก็พากันนิ่งเงียบหมดไม่คิดวาจะแพ้นายช่างติแบบง่าย ๆ อย่างนี้ ต่างก็พากันชมว่า “นายช่างติ คนนี้เก่งจริง ๆ นะที่สามารถหาที่ติพระพุทธรูปองค์นี้จนได้”         

        อยู่มาวันหนึ่ง นายช่างติไปนอนเล่นอยู่ใต้ต้นมะม่วง เขามองขึ้นไปบนต้นมะม่วงเห็นลูกมะม่วงเต็มต้นไปหมดพลางเขาก็นึกตำหนิพระเจ้าผู้สร้างต้นมะม่วงขึ้นมาว่า

        "แหม ! พระเจ้านี้ ช่างโง่เสียจริง ๆ สร้างอะไรขึ้นมาไม่เห็นจะสมดุลกันเลย

         ดูสิ! มะม่วงต้นออกใหญ่โต แต่กลับสร้างเพียงลูกเล็กนิดเดียว ส่วนแตงโมต้นเล็กนิดเดียวกลับสร้างให้ลูกใหญ่อย่างกับบาตรพระ พระเจ้านี่ช่างโง่เสียจริง ๆ

         นี่ถ้าเราเป็นพระเจ้านะ จะสร้างให้ต้นมะม่วงมีลูกโต ๆ ส่วนแตงโมจะสร้างให้มีผลเล็ก ๆ จะได้้สมดุลกัน        

       ในขณะที่นายช่างติกำลังวาดภาพวิมานในอากาศอยากจะเป็น

พระเจ้าอยู่เพลิน ๆ นั้น ลมหน้าร้อนก็พัดมาวูบหนึ่ง ทันใดนั้น

มะม่วงลูกหนึ่งก็หล่นลงถูกบนศีรษะและหน้าผากของเขาพอดิบพอดี

       นายช่างติ ถึงกับตาลาย มองเห็นดาวระยิบระยับไปหมด และ

หน้าผากของเขาก็บวม ปูดออกมาขนาดเท่ากับผลมะนาว

       เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ นายช่างติก็คิดได้ว่า

"โอ ! ...พระเจ้าสร้างถูกแล้ว"  นี่ถ้าพระเจ้าฉลาดอย่างที่เราคิด สร้างให้มะมวงลูกใหญ่เทาบาตรพระ ป่านนี้ หัวเราคงไม่แหลกไปแล้วหรือนี่ ดีนะที่พระเจ้าไม่ฉลาดอย่างที่เราคิด...หัวเราก็เลยบวมเพียงนิดหน่อยเท่านั้น..        

       นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า

       ผู้ที่เก่งแต่คอยจับผิดผู้อื่น โดยไม่ยอมดูเหตุดูผลหรือดูตัวเองนั้น สักวันหนึ่งเขาจะประสบกับสิ่งที่ทำให้เขาต้องเสียใจอย่างไม่คาดคิดได้

       ท้ายสุดขอฝากคำกลอนเป็นข้อคิดคือ  

        เกิดเป็นคน  จำต้องทน คำเขาด่า

         จะทำดี ทำซ่า ถูกด่าหมด

            แม้ทำซื่อ ถูกด่าว่า ไม่คด

              พอเลี้ยวลด ก็ถูกด่าว่า ไม่ตรง

                           -------------





หมายเลขบันทึก: 688860เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2021 01:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2021 02:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท