[review] รีวิว อาทิตย์อัสดง (2020 Wetv Series Original) วิเคราะห์ และตีความหมายเชิงสัญลักษณ์


[review] รีวิว อาทิตย์อัสดง (2020 Wetv Series Original)

#บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง

อาทิตย์อัสดงเป็นซีรีส์ที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ฉายทาง WeTV Original มีดีท้้งในด้านบทที่มีความซับซ้อนและเนื้อหาที่เข้มข้น ความหลอกหลอน ความน่ากลัวและน่าขนลุก จนใครหลายคนต้องตั้งคารอคอยติดตามชม สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นก็คือซีรีส์ชุดนี้คือ จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 เรื่อง ชูโรงด้วยการนำเสนอทิศทางของความสยองขวัญ ซึ่งทุกเรื่องจะมีบางจุดที่มีความคาบเกี่ยวกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามได้เลยครับ

ชมคลิปรีวิวได้ที่

ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนว่า คลิปนี้ค่อนข้างจะยาวเท่าไหร่นะครับ แต่ผมได้ทำเวลากำหนดว่าแต่ละช่วงเวลานั้นพูดถึงในประเด็นไหนบ้าง หากท่านไม่สะดวกฟังทั้งหมด ก็สามารถไปกดที่เวลาตรงคอมเม้นแรกได้เลยนะครับ

"เชื้อหลอนออนไลน์"

นับเป็นการเปิดตัวเรื่องแรกที่ดีที่สุด และเป็นการประกาศว่าซีรีส์ชุดอาทิตย์อัสดงนั้นไม่ได้มาเล่น ๆ เป็นซีรี่ส์แนวสยองขวัญระทึกขวัญแบบเต็มตัว  แต่สิ่งที่มีดีมากกว่านั้นก็คือ เป็นการตั้งคำถามย้อนกลับไปสู่ผู้ชมว่า เมื่อโลกเราพัฒนาทางด้านเทคโนโลยมากขึ้น แต่หากจิตใจและระบบความคิดของเราไม่พัฒนาตาม อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมและโลกใบนี้

"เชื้อหลอนออนไลน์" ว่าด้วยเรื่องราวของ พิงค์ บุคลากรทางการแพทย์สาวสวยและมีเสน่ห์ เธอเป็นหญิงสาวที่เสพติดการมีเพศสัมพันธ์รูปแบบ one night stand ประเภทเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วก็แยกทาง เธอใช้วิธีหาคู่นอนโดยผ่านทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ ซึ่งเธอก็ไม่รู้มาก่อนว่าผู้ชายที่เธอจะมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นคนแบบไหน ไม่รู้ว่าไว้ใจได้หรือไม่ แต่สิ่งที่เธอรับรู้คือ หากมีรสนิยมทางเพศแบบเดียวกัน ก็ถือว่าโอเค เธอทำเช่นนี้บ่อยครั้ง ไม่ว่าเพื่อนสนิทจะเตือนเธอให้ระวังตัว ไม่ว่าจะเสี่ยงกับการโดนกระทำรุนแรงหรือเสี่ยงกับโรคร้าย เธอก็ไม่สนใจ เธอก็ยังมีความสุขกับการได้ทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อย ๆ

แต่แล้ววันหนึ่ง พิงค์ได้ไปเที่ยวกลางคืนในบาร์แห่งหนึ่ง เธอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าถูกชะตา แล้วก็พาผู้ชายคนนั้นมานอนที่บ้านพักของเธอเลย เริ่มแรกนั้นมันคือ sex ที่แสนวิเศษ แต่พอผ่านไปสักพัก มันทวีคูณความรุนแรงยิ่งขึ้น และยิ่งประหลาดก็คือ มีแมลงวันบินไปมาจนเต็มห้อง เมื่อเธอตื่นเช้าขึ้นผู้ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว เธอเปิดผ้าห่มดู มีบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้นกับอวัยวะเพศของเธอ เธอติดเชื้อบางอย่างที่อวัยวะเพศ

เธอนำเชื้อนั้นไปตรวจที่ห้องแลปของโรงพยาบาล นั้นเป็นเชื้อที่ไม่เคยมีมาก่อน และรูปร่างหน้าตาของเซลล์เหมือนปีศาจ ซ้ำร้ายเธอตั้งครรภ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งมารู้ในภายหลังว่าเธอได้มีเพศสัมพันธ์กับปีศาจเข้าไปแล้ว และเมื่อพยายามจะเอาลูกออก ปีศาจมันก็ตามมาทำร้ายเธอ และบอกว่าลูกในท้องของเธอนั้นคือของขวัญอันวิเศษ ที่ใครหลายคนอยากจะได้ สักวันเธอจะขอบคุณ

เชื้อหลอนออนไลน์เปิดเรื่องมาด้วยเหตุการณ์อันทรงพลังและตรึงคนดูให้อยู่กับหน้าจอได้อย่างทันที คือการเปิดเรื่องในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หญิงสาวคนหนึ่งท้องแก่ถูกเข็นมาบนเตียง แล้วร้องโวยวาย ภายในห้องของเธอนั้นเธอพยายามที่จะทำร้ายเด็กในท้องของเธอให้แท้ง แต่เธอก็ทำไม่ได้ จนท้ายที่สุดเธอต้องผูกคอตายที่โรงพยาบาล ทั้งหมดสร้างความน่ากลัวน่าขนลุกให้กับคนดูเป็นอย่างมาก ภาพหญิงสาวคนนี้แขวนคอตายนอกอาคารของโรงพยาบาลนั้น ออกแบบให้ทำออกมาได้อย่างน่าขนลุก แล้วทุกครั้งที่มีฉากผีเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้ มันก็ทำให้เราแทบต้องปิดตาดู

เชื้อหลอนออนไลน์ เป็นการตั้งคำถามสังคมในหลายประเด็น ที่สำคัญที่สุดก็คือเราสามารถไว้เนื้อเชื่อใจคนที่อยู่ใน Social Media ได้หรือไม่  เราหลงระเริงกับการใช้ชีวิตมากเกินไปหรือไม่ กิจกรรมที่เราเป็นประจำ โดยเฉพาะการมีเซ็กซ์กับบุคคลไม่เลือกหน้า แบบ one night stand แล้วเปลี่ยนใหม่ไปเรื่อย ๆ แบบนั้นทุกวัน เราจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่เรานอนด้วยนั้นปลอดภัย ท้ายที่สุดมันเป็นการตั้งคำถามว่าเราใช้ชีวิตแบบเดิม ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แบบนี้ทุกวันแล้วมันจะไปจบที่ตรงไหน และอะไรคือความสุขที่แท้จริง

ในด้านเนื้อหากับประเด็นสำคัญที่เขาต้องการจะสื่อสารกับคนดูนั้น เขาทำได้คมมาก ชัดทุกประเด็น แทบจะไม่ต้องตีความมาก แต่มันก็มีความลึกและคมคายไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของความสกปรก ในที่นี้อาจหมายถึงความสกปรกในการกระทำ ความสกปรกของจิตใจ

แต่ทั้งหมดทั้งมวล สาส์นสำคัญที่สุดของเรื่องผมคิดว่า มันเป็นเรื่องของสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด มันเป็นการถามว่าเราจะใช้ชีวิตของเราแบบไหนก่อนตายมากกว่า

นักแสดงหลักที่รับบทเป็นพิงค์ของเรื่องเล่นดีมาก โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เคยรู้จักและเห็นการแสดงของเธอเลย แต่พอมาเห็นใน "เชื้อหลอนออนไลน์" ก็รับรู้ได้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่เก่ง ถ่ายทอดเรื่องราวและความสำคัญของเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ดี ผมเชื่อว่าเธอจะมีอนาคตไกลกับการแสดง

แต่ก็ยังมีนักแสดงสมทบบางคนที่ดูแล้วรู้สึกว่าเล่นแข็งจนเกินไป โดยเฉพาะวิธีการพูดวิธีการสนทนาที่มันไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาติ ดูแล้วมันขัดใจไม่น้อย

เชื่อหลอนออนไลน์ สร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูได้ดีมาก เรื่องความโหดความสยองขวัญทำออกมาได้ดี เหมาะสมแล้วที่ไม่ฉายในช่องฟรีทีวี ทำให้ทีมสร้างสามารถปล่อยของออกมาได้อย่างเต็มที่ สามารถสร้างสรรค์ภาพได้ตามอย่างตั้งใจ และเชื่อว่าหากใครที่ดู "เชื้อหลอนออนไลน์" แล้ว จะเป็นการจุดไฟเริ่มต้นให้คนติดตามชม "อาทิตย์อัสดง" ไปจนถึงตอนจบได้อย่างแน่นอน

7/10

................

"เพลงสวดศพแห่งผู้เยาว์วัย" 

ว่าด้วยเรื่องราวของแพทย์พยาบาลสาวสวยชื่อ ลดา ได้รับการว่าจ้างด้วยเงินที่ค่อนข้างสูง ให้มาเป็นพยาบาลส่วนตัวให้กับหม่อมเจ้าศรีสอางค์ ผู้ที่เป็นเชื้อพระวงศ์อาศัยอยู่ในวังที่ไม่ได้รับการดูแล แล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างรกร้าง โดยลดา จะต้องอาศัยอยู่ในวังแห่งนี้เพียง 2 คนกับหม่อมเจ้าศรีสอางค์ เธอดูแลตั้งแต่การกิน การอาบน้ำ ทำความสะอาด รวมถึงการดูแลพยาบาลตามหน้าที่

หม่อมเจ้าศรีสอางค์ เป็นหญิงชราที่ยึดติดกับธรรมเนียมโบราณ แต่ก็มีความเป็นหัวสมัยใหม่กว่าใครในรุ่นที่เธอยังเป็นสาว แต่โชคร้ายเมื่อถึงวัยอันควร เธอกลับต้องมานอนติดเตียงและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

เมื่อลดามาอยู่ด้วยก็เกิดเรื่องแปลกขึ้น สักพักหม่อมเจ้าศรีสอางค์กลับมีพละกำลังแข็งแรงมากขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ ในขณะที่ลดากลับมีอาการฝันร้ายทุกคืน จนท้ายที่สุด แทบแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือความฝันหรือสิ่งไหนคือเรื่องจริง และพยาบาลสาวแสนสวยคนนี้ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดน่ากลัวที่สุด สยองขวัญที่สุดในชีวิตของเธอ

เมื่อดูจบแล้วอดคิดไม่ได้ว่า ผู้กำกับกับคนเขียนบทต้องได้อิทธิพลของหนังและละครไทยระดับตำนานเช่น Rosemary's Baby (1968) หญิงสาวคนหนึ่งถูกกลุ่มผู้บูชาซาตานกระทำบางสิ่งบางอย่างกับเธอ เรื่องนี้คงได้ไปเต็ม ๆ มากกว่า 60% แน่นอน Hereditary (2018) เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่มีอาการผิดปกติ ได้มารู้ในภายหลังว่าถูกลัทธิหนึ่งกระทำกับเขา เรื่องนี้ก็น่าจะได้แรงบัลดาลใจมาสร้างเยอะมาก Ghost Stories (2020 Netflix Original) (ในตอนของผู้กำกับ Zoya Akhtar) เป็นเรื่องที่พยาบาลสาวดูแลคนไข้ชนานอนติดเตียงในบ้านพักหลัง เรื่องนี้น่าจะเป็นโครงเรื่องในการเล่าเรื่องหลักในช่วงแรก และ ทายาทอสูร (งานวรรณกรรมของ ตรี อภิรุม) เชื่อว่าน่าจะใช้ "อนุภาค" บางอย่างที่เกี่ยวกับการถ่ายทอด ที่ได้จากวรรณกรรมหรือละครมาใช้ในตอนสำคัญอย่างชัดเจน

ตอนนี้มีความพิเศษตรงที่นำเสนอการปะทะสังสรรค์ระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า พูดถึงคนรุ่นใหม่ที่ต่อว่าคนรุ่นเก่าว่าหัวโบราณแต่สักวันคนรุ่นใหม่ก็กลายเป็นคนรุ่นเก่าอยู่ดี มีการใช้บทสนทนาที่เสียดสีสังคมในยุคปัจจุบันได้อย่างเจ็บแสบ โดยเฉพาะในประเด็นนี้

จุดหนึ่งที่ถือว่าดีมากของซีรี่ส์เรื่องนี้ที่นำเสนอคือ เรื่องของการทำหน้าที่ แม้ว่าลดาจะถูกกรทำ ถูกดูถูก ถูกต่อว่า ทำให้เกิดความสะเทือนใจเพียงใดก็ตาม แต่เธอก็ไม่เคยละทิ้งหน้าที่ของเธอ เมื่อเธอรับเงินมาแล้ว เธอก็ทำงานของเธออย่างเต็มที่ แม้ว่าจะขัดใจอย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ดีมากเป็นการเตือนใจให้กับใครหลายคนว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่รับมอบหมายมาแล้วอย่างเต็มที่

มีความน่ากลัวชวนฉงนสงสัยแทบทั้งเรื่อง มีการนำเรื่องปีศาจมาผูกเรื่อง คือ เบลซีบับ หรือ เบเอลเซบูล (Beelzebub) ในคัมภีร์พันธสัญญาใหม่กล่าวว่า เป็นผู้ปกครองปีศาจ หรือเป็นเจ้าชายแห่งมวลปีศาจ มักจะปรากฏในรูปของแมลงวัน และทุกที่ที่เบลซีบับไป ก็จะมีฝูงแมลงวันบินตามไปด้วย ทำให้เกิดโรคร้ายมากมาย

มีความอีโรติกอยู่ด้วย มีความพอดี โชว์ความเซ็กซี่ของนางเอกได้ดี โชว์ฝีมือการเล่นผ่านทางสีหน้าและแววตาของเธอได้ดี

ในด้านการแสดงต้องขอชื่นชมมาก ๆ เลยว่า เม้าท์ซี่ เบญจวรรณ เทิดทูนกุล เล่นดีมาก ๆ ทุกการแสดง สายตา คำพูด การกระทำดูน่ากลัว ทำให้เราเชื่อในความเป็นตัวละครหม่อมเจ้าศรีสอางค์ไปซะทั้งหมด เธอคือหนึ่งใน Casting ที่สำคัญของซีรีส์ตอนนี้มาก ๆ ส่วน คนที่รับบท ลดา พยาบาลสาวสวยก็เล่นดีมาก มีทั้งความเซ็กซี่ ขี้เหวี่ยง ขี้วีน ขี้โมโห พยาบาลสาวกับคุณหญิงศรีสอางค์รับส่งบทกันดุเด็ดเผ็ดมันมาก แค่นั้นแสดง 2 คนนี้ก็สามารถแบกซีรีส์สยองขวัญเรื่องนี้อยู่หมัด ลงตัวสุด ๆ

จุดหนึ่งที่ชอบมาก ๆ ที่ทีมสร้าง "อาทิตย์อัสดง" เลือกที่จะนำมาฉายที่ช่อง WeTV คือ ช่องนี้เป็น Online  Streaming ไม่ได้เป็นช่องฟรีทีวีทั่วไป ดังนั้นเขาจึงสามารถใส่ความแรงลงไปในละครได้หลายอย่าง เช่นการใส่ฉากสยองขวัญ การใส่ความโหด การใช้คำพูดที่รุนแรงเป็นธรรมชาติ การทำให้เลือดสาดอย่างเต็มที่ และรวมถึงการใส่ฉากอีโรติกโชว์เนื้อหนังของตัวละครให้สอดคล้องและเหมาะสมตามเนื้อเรื่องได้อย่างดี ซึ่งหากจะเทียบแล้ว อาทิตย์อัสดง มีความได้เปรียบกว่า "ลองของซีรีส์" ที่ฉายทางช่อง 3 เยอะมาก ซึ่งเชื่อว่าลองของซีรีส์นั้นมีข้อจำกัดมไม่น้อยโดยเพราะฉายทางฟรีทีวี จึงไม่สามารถใส่ความโหดและความสยองขวัญและอย่างเต็มที่ และเมื่อนำทั้งสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกัน แม้จะเป็นทางระทึกขวัญสยองขวัญด้วยกันทั้งคู่ แต่ "อาทิตย์อัสดง" ทำได้ดีกว่ามาก ๆ หากจะพูดแบบไม่เกรงใจก็คือ "อาทิตย์อัสดง" ทำให้ "ลองของซีรีส์" กลายเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กไปเลย

"เพลงสวดศพแห่งผู้เยาว์วัย"  แม้จะมีความสนุก แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้กำกับและคนเขียนบทเกริ่นไว้แต่เล่าไว้ไม่หมด หรือละทั้งมันไปอย่างไม่สนใจ เช่นตัวละครประกอบ กระดิ่ง การห้ามออกมาเดินเที่ยงคืนเป็นต้น และเชื่อว่าหากใครดูหนังหรือละครที่ผมได้กล่าวไปว่ามีอิทธิพลกับเรื่องนี้อย่างไร ก็เชื่อว่าน่าจะพอคาดเดาทิศทางได้บ้างไม่มากก็น้อย

"เพลงสวดศพแห่งผู้เยาว์วัย" มีเนื้อหาที่น่าสนใจ มีการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม สร้างความระทึกขวัญได้แทบตลอดทั้งเรื่อง ที่ชอบมากคือมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับปีศาจในวัฒนธรรมตะวันตก แต่สามารถเชื่อมโยงให้สอดคล้องกับคติความเชื่อแบบไทย ๆ ได้ นับว่ามีความบันเทิงไม่น้อยเลย

6.8/10

...............

"ช่อง ส่อง ตาย"

หากเราได้ชมซีรีส์ อาทิตย์อัสดง ในเรื่องแรกคือ “เชื้อหลอนออนไลน์” เราจะเห็นว่าเขาได้ปล่อยเรื่องราวของผู้ผลิตสื่อคนหนึ่งเดินทางเข้าไปในป่าลึกเพื่อพิสูจน์เรื่องราวอาถรรพ์ในป่าแห่งนั้น แต่ซีรีส์ก็นำเสนอไม่หมด ทิ้งเรื่องราวเอาไว้ให้เราสงสัยว่า มันคืออะไรกันแน่ จากนั้นเขาก็นำมาเฉลยในเรื่องที่ 3 คือเรื่อง "ช่อง ส่อง ตาย" นี้แหละครับ

"ช่อง ส่อง ตาย" เล่าเรื่องราวของอ๊อฟ ที่นำแสดงโดยเบนจามิน โจเซฟ วาร์นี ในเรื่อง เขาคือผู้ผลิตสื่อออนไลน์ ลักษณะแบบขายข่าว ข่าวไหนดังก็ต้องเกาะติดสถานการณ์ และคอยเรียกเงินสนับสนุนต่อผู้ชมออนไลน์อยู่เสมอ วันหนึ่งเขาได้เข้าไปทำข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งและจับผู้คนเป็นตัวประกัน อ๊อฟก็ได้รายงานข่าวทุกฝีก้าวของคนร้าย เมื่อสองแม่ลูกที่เป็นตัวประกันเห็นช่องของอ๊อฟรายงานสดอยู่ ก็รีบแชทไปแจ้งว่า ตัวเองซ่อนอยู่ที่ไหน หวังให้ออฟติดต่อคนภายนอกเพื่อเข้าไปช่วย แต่โชคร้ายที่คนร้ายคนนั้น ก็ได้ดูสื่อช่องของเขาอยู่ด้วย คนร้ายก็เลยรู้ที่ซ่อนแล้วฆ่าตัวประกันที่เป็นสองแม่ลูกคนนั้นทันที

ช่องของอ๊อฟได้รับกระแสวิจารณ์ในด้านลบจากสังคมเป็นอย่างมาก ตัวเองก็ตั้งคำถามว่าเขาทำผิดอะไร ทั้ง ๆ ที่เจตนาดีของเขาคือต้องการจะนำเสนอข่าว และช่วยเหลือตัวประกันในทางที่เขาทำได้ อย่างไรก็ตาม อ๊อฟก็แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยการเสนอปิดช่องของตัวเองเป็นระยะเวลา 3 วัน จากที่เคยเป็นสื่อช่องที่ผู้คนให้ความชื่นชม ก็กลายเป็นช่องที่ผู้คนรุมด่า หลายคนเลิกสนับสนุนเงิน หลายคนเลิกติดตาม

จากนั้นต่อมา ดวงวิญญาณของสองแม่ลูกที่ถูกคนร้ายฆ่าในเหตุการณ์นั้นก็มาหลอกหลอนอ๊อฟอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่มันก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับมีบุคคลคนนิรนามในชื่อ "ผู้ไม่ประสงค์ออกนามในความมืด" ส่งข้อความมาหาเขา บุคคลนิรนามผู้นี้แสดงให้อ๊อฟเเห็นว่า ได้ติดตามชีวิตของอ๊อฟอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา มีรูปถ่ายที่แสดงการเคลื่อนไหวของอ๊อฟไม่ว่าจะไปสถานที่ใด หรือแม้แต่รูปถ่ายที่อ๊อฟอยู่ในห้องของเขาเอง อ๊อฟจากที่เคยเป็นสื่อเกาะติดชีวิตของคนอื่น แต่ครั้งนี้ชีวิตของเขาโดนเกาะติดเข้าบ้างแล้ว

"ผู้ไม่ประสงค์ออกนามในความมืด" ก็ได้ส่งคลิปที่แสดงความรุนแรง ซึ่งฝรั่งเรียกว่า "สนัฟฟิล์ม" และแนะนำให้อ๊อฟนำเสนอเรื่องราวแบบนี้บ้าง เพื่อเป็นการเรียกกระแสความนิยมและดึงคนดู ให้คนสนับสนุนกลับมาสนับสนุนเขาอีกครั้ง

อ๊อฟมีเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อโบท เป็นยูทูปเบอร์และทำสื่อออนไลน์เช่นกัน เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีมาก เป็นทั้ง life coach และขายครีมอินไลน์ด้วย มีแฟนคลับที่เป็นสาว ๆจำนวนมาก ให้การสนับสนุน

และเนื่องจากที่อ๊อฟถูกผีสองแม่ลูกตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดการปิ๊งไอเดียว่า น่าจะชวนเพื่อนคนนี้มาทำรายการเกี่ยวกับพิสูจน์ผี โดยตั้งชื่อช่องว่า "อาทิตย์อัสดง"

ทุกครั้งที่ไปพิสูจน์ผีก็จะทำการไลฟ์สด และมีการท้าทายผีอย่างโจ่งแจ้ง จากช่องที่คนหมดความนิยม กลับกลายเป็นว่าได้รับความนิยมมากขึ้นหลายเท่า ผู้คนหลั่งไหลให้เงินสนับสนุนอย่างมากมาย รวมถึง"ผู้ไม่ประสงค์ออกนามในความมืด" ก็ยังให้เงินเขาจำนวนมากด้วย

เรื่องราวของอ๊อฟและเพื่อน life coach จะเป็นอย่างไร ช่องส่องผีของเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ การที่เขาไปท้าทายผีในสถานที่ต่าง ๆ นั้น เขาจะเจอผีในรูปแบบใดบ้าง รวมถึงบุคคลนิรนามที่ตามติดชีวิตอ๊อฟคือใคร สามารถติดตามชมได้ทาง WeTV ครับ

หากเราได้ติดตามชม "อาทิตย์อัสดง" ในสอนตอนแรก เราก็จะพบเรื่องความระทึกขวัญ ความสยองขวัญอย่างเต็มที่ ผู้ชมสายสยองขวัญจะเต็มอิ่มอย่างแน่นอน แต่พอมาถึงตอน "ช่อง ส่อง ตาย" ซีรี่ส์ก็เหมือนกับว่าเบรกอารมณ์ของคนดูลงมาไม่ให้ติดอยู่กับความสยองขวัญมากเกินไป แต่สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากการชมตอนนี้ก็คือ การตั้งคำถามกับเน็ตไอดอล สื่อออนไลน์ รวมถึงช่องยูทูปที่มีอยู่อย่างมากมายดาษเดื่อนใน Social Media ว่า แต่ละช่องนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีจรรยาบรรณในการนำเสนอแค่ไหน และรวมถึงตัวผู้นำเสนอเองนั้นมีความซื่อสัตย์สุจริตต่ออาชีพนี้มากน้อยแค่ไหน

"ช่อง ส่อง ตาย" ได้จิกกัดและนำเสนอถึงด้านลบของสื่อโซเชียลจำพวกนี้อย่างเจ็บแสบ เช่น

จิกกัดพวก life coach ที่ทำเป็นพูดจาดีต่อหน้าสื่อ แต่แท้จริงแล้ว กลับไม่ทำตัวดีอย่างที่ตัวเองพูด หวังเพียงเงินของคนที่เข้ามาดู บางคนเรี่ยไรเงินจากผู้ชมว่าจะไปช่วยเหลือผู้อื่น และก็ไม่ได้จำเงินไปช่วยเหลือผู้คนตามที่ตัวเองพูดไว้

จิกกัดพวกขายครีมและขายเครื่องสำอางออนไลน์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข แต่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง และเมื่อรู้ว่าครีมที่ขายนั้นไปไม่รอด ก็เปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือไปทำอย่างอื่นแทน

จิกกัดรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการล่าท้าผี  หรือรายการที่เกี่ยวกับการพิสูจน์การมีอยู่ของเหนือธรรมชาติ ซึ่งในแง่ของความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าผีตามสถานที่แห่งนั้นมีจริงหรือไม่มีจริงอย่างไร เราไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าบุคคลที่อ้างตนว่าสามารถติดต่อสื่อสารกับผีได้นั้น แท้จริงแล้วเขาสามารถทำอย่างที่พูดได้หรือไม่ หรือเริ่มถึง เนื้อหาที่อ้างว่าถ่ายติดวิญญาณ หรือถ่ายติดเหตุการณ์ต่าง ๆ เหนือธรรมชาติได้นั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นการเซ็ตของทีมงานก็เป็นได้

จิกกัดสื่อออนไลน์ประเภทที่นำเสนอข่าวแบบฉับไว เกาะติดสถาณการณ์ โดยอ้างว่าสื่อก็มีหน้าที่รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับผู้คนให้รับรู้อย่างทันท่วงที โดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาจากการนำเสนอข่าวนั้น

ในประเด็นนี้ "ช่อง ส่อง ตาย" ได้หยิบยกกรณีข่าว การกราดยิงผู้คนที่โคราชและจับผู้คนภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งไว้เป็นตัวประกัน ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งในช่วงเวลานั้น มีสื่อออนไลน์หลายสำนักที่เกาะติดกระแส เดินทางไปรายงานสดยังสถานที่เกิดเหตุ

ก็อย่างที่เรารับรู้กันดีว่า เวลานั้นสื่อบางสำนักรายงานถึงแผนการของตำรวจเพื่อบุกเข้าไปในห้างสรรพสินค้า รายงานการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝีก้าว หรือแม้แต่รายงานถึงบุคคลที่อยู่ภายในนั้น กลับกลายเป็นว่าเป็นการรายงานให้คนที่ก่อเหตุนั้นได้รับรู้ไปด้วยกัน ทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถตั้งรับทัน ซึ่ง "ช่อง ส่อง ตาย" ได้นำเสนอและกระแทกประเด็นนี้ได้อย่างเจ็บแสบ แล้วผมเชื่อว่า หากสื่อหรือช่องที่นำเสนอเรื่องราวข่าวในช่วงเวลานั้นได้ดูซีรีส์ตอนนี้แล้ว ก็คงจะรู้ได้ว่า "ช่อง ส่อง ตาย"  ได้พูดถึงตัวเองเต็ม ๆ

แต่ที่เจ็บแสบยิ่งกว่า "ช่อง ส่อง ตาย" ได้สะท้อนให้เห็นว่าสื่อออนไลน์ที่มีอยู่ทุกวันนี้ ได้ทำการเผยแพร่เรื่องราว ข่าวสาร หรือคลิปวิดีโอที่มีความรุนแรง หรือไม่มีความเป็นจริง หรือ Fake News เพื่อให้สังคมได้เสพสื่อเหล่านั้น โดยไม่สนใจว่าผู้ที่เสพนั้นจะได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างไร รวมถึงทำทุกอย่างให้ช่องของตนเองได้รับความนิยม โดยไม่มีจรรยาบรรณ ไม่สนใจเรื่องราวของความถูกต้อง และไม่รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งอาจจะมองให้ลึกลงไปในสังคมปัจจุบันแล้ว ในสื่อโซเชียลมีเดียก็มีสื่อที่ทำเรื่องราวแบบนี้อยู่ไม่น้อย

ในแง่ของความน่ากลัวและความหลอกหลอนนั้น ผมว่ามันลดดีกรีความน่ากลัวจากเดิมที่เคยนำเสนอใน 2 เรื่องแรกของซีรี่ส์ชุด "อาทิตย์อัสดง" ลง ซึ่งหากใครคาดหวังในประเด็นนี้ก็คงจะผิดหวังไปบ้าง แต่สำหรับตัวผมเองแล้วกลับมีความชื่นชอบ "ช่อง ส่อง ตาย" ไม่น้อยกว่าสองเรื่องแรกเลย แถมยังแอบมีความสะใจที่ทางผู้ผลิตได้นำเสนอประเด็นนี้ซึ่งเชื่อว่า น่าจะอยู่ในใจใครหลายคนที่อยากจะตั้งคำถามกลับไปยังผู้ผลิตสื่อออนไลน์หลาย ๆ ประเภทที่กำลังมีพฤติกรรมแบบนั้นอยู่ การจิกกัดสื่อ การตั้งคำถามสังคม รวมถึงการจิกกัดผู้คนที่ให้การสนับสนุนสื่อเหล่านั้น นี่แหละคือประเด็นที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของ "ช่อง ส่อง ตาย" เลยทีเดียว

ในแง่การแสดงนั้น อ๊อฟ ที่นำแสดงโดยเบนจามิน โจเซฟ วาร์นี เล่นได้ดีเกินคาด แสดงถึงบุคลิกของตัวละครที่เขาเป็นได้อย่างแนบเนียน มีอารมณ์ยียวนกวนประสาท มีอารมณ์ห้าวและท้าทาย เหมาะสมกับบุคลิกของผู้แสดงมาก ๆ ซึ่งใน "ช่อง ส่อง ตาย" หากไม่ได้พระเอกคนนี้มาเป็นคนแสดงนำ ผมก็ไม่รู้ว่าความสนุกและความดีงามมันจะออกมาในแบบนี้หรือไม่ เขาสามารถแบกเรื่องนี้เอาไว้ทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม

"ช่อง ส่อง ตาย" มีความดีงามตรงที่การตั้งคำถามกับบุคคลรวมถึงผู้ผลิตสื่อออนไลน์หลายสำนักว่า สิ่งที่คุณทำนั้นแท้จริงแล้วมีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่ ถามถึงจรรยาบรรณของผู้ผลิตสื่อว่า สิ่งที่นำมาเสนอนั้นสร้างคุณค่าให้คุณได้ประโยชน์อะไรให้กับคนในสังคมบ้าง แล้วก็ยังย้อนกลับมาที่ถามดูว่า เราในฐานะคนดู เรามีจรรยาบรรณในการเสพสื่อ และสนับสนุนบุคคลเหล่านี้แบบไหนกัน

8/10

...............
"รูมรณะ"

"รูมรณะ" เล่าเรื่องราวของ ชัย ชายที่มีแผลในใจบางอย่างในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นก็อาศัยหน้าตาอันหล่อเหลาออกล่าเหยื่อผู้หญิงสาวสวยเพื่อมีเซ็กซ์ โดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งเป็นผู้จัดการตั้งกล้องและถ่ายทำ ก็เพื่อเอาคลิปนั้นไปขายใน Dark Web จากนั้นก็ทำการแบล็คเมลล์ บังคับให้เหยื่อสาวทำในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายตัวเองที่รุนแรง โดยการกระทำบางอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับเซ็กซ์ จากนั้นทรมานเหยื่อย เหยื่อหลายรายที่ทนไม่ได้ ต้องถึงขนาดฆ่าตัวตาย ชัยมีความสุขในการทำเช่นนั้น

แต่วันหนึ่ง เขาได้พบกับ ดาว หญิงสาวที่มีเสน่ห์ มีความลึกลับน่าค้นหา เธอหลงไหลในเรื่องราวของ "รู" ถึงขนาดนำมาสร้างเป็นงานศิลปะของเธอเอง ชัยคิดว่า ผู้หญิงคนนี้แหละจะกลายเป็นเหยื่ออีกคนหนึ่งของเขา หารู้ไม่ว่า เหยื่อที่เขาคิดว่าเป็นของตาย แต่กลับกลายเป็นผู้ล่าที่อยู่สูงกว่าเขาซะเอง และเมื่อเขากลายเป็นเหยื่อเขาก็ถูกทรมานอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส

"รูมรณะ" มีความหมายหลายนัยยะ มันเริ่มตั่งแต่รูที่ฝาผนังห้องของชัยสมัยยังเป็นเด็ก ที่เขาเห็นพ่อของตนเองการทำความรุนแรงกับแม่ของเขาเสมอ จนกลายเป็นว่าเขามีปมบางอย่างติดตัวมาถึงปัจจุบัน รูเปรียบเสมือนช่องโหว่ของมนุษย์ที่ปล่อยให้กิเลส รูจึงเปรียบถึงบาดแผลภายในจิตใจ

รูอาจหมายถึงความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ หมายถึงจิตใจที่ไม่สมบูรณ์ หมายถึงรูปร่างหน้าตาที่ไม่สมบูรณ์ หมายถึงหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ รูจึงเปรียบเสมือนบาดแผลภายนอกร่างกาย

รูอาจหมายถึงความลึกลับ ความซับซ้อน ความที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน มันเป็นความมืดมนและมืดดำ ที่ใครหลายคนพยายามหาคำตอบ แต่คำตอบนั้นอาจเป็นคำตอบในด้านที่ดีและด้านไม่ดีก็ได้

รูอาจหมายถึงด้านมืดของมนุษย์ที่มนุษย์เก็บงามหรือซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรับรู้ คนจะสามารถรับรู้ได้ก็ต้องผ่านรูนี้เข้าไปค้นหา

รูอาจหมายถึงการเกิด อาจหมายถึงช่องคลอดของผู้หญิงอีกต่อหนึ่ง ช่องคลอดที่ทำให้เกิดการเกิด ทำเป็นจุดเริ่มต้นของสังสารวัฏ ในที่นี้เป็นการย้อนกลับไปถึงซีรีส์ตอนที่ 1 เชื้อหลอนออนไลน์ โดยเปรียบเทียบกับพิงค์ที่ให้กำเนิดตลอดเวลา

ซีรี่ส์นำเสนอเรื่องการทรมานอย่างแสนสาหัส เข้าใจว่าเป็นการสะท้อนถึงอัตตกิลมถานุโยค คือ การประกอบตนเองให้ลำบากเกินไป อาจเปรียบไปถึงการทรมาณร่างกายแบบทุกรกิริยาก็ได้

ในด้านการแสดงนั้น เจน รมิดา จีรนรภัทรที่รับบทเป็นดาว หญิงสาวปริศนาที่เราไม่รู้ว่าเธอคือคนหรืออะไรกันแน่ โดยส่วนตัวแล้ว แม้ว่าเธอจะเล่นได้ดี เข้าถึงบทก็ถึงอารมณ์ แต่สำหรับผมแล้วกลับรู้สึกว่ามันเป็นการแสดงที่ over acting จนเกินไป หลาย ๆ พฤติกรรมมันเชยไปแล้วสำหรับยุคสมัยนี้ เช่นพูดไปแล้วหัวเราะไปด้วยความสะใจ ทำตาแข็ง ๆ โดยส่วนตัวแล้วผมว่า การทำสีหน้าหน้าปกติปล่อยไปตามอารมณ์ สอดส่ายตาไปมาตามบริบท น่าจะสื่ออารมณ์ได้ดีกว่านี้ แต่นี่ก็ถือว่าเก่งมากแล้วครับ

ในด้านความน่ากลัวความสยองขวัญ ผมคิดว่าเขาทำออกมาได้ไม่ค่อยสุดนัก หมายถึงอยู่ในระดับของหนังเรท 20 + แต่มันก็ไม่เต็มที เช่นฉากการทรมานคน ฉากการใช้อุปกรณ์บางอย่างในการทำร้าย ทรมาณร่างกาย ก็ใช้มุมกล้องหลบเลี่ยงมากเกินไป ในจุดนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่า หากทำโจ่งแจ้งเหมือนกับหนังฝรั่งหลายเรื่องหรือหนังญี่ปุ่นหลายเรื่อง ไม่น่าจะออกอากาศได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องขอชื่นชมว่าเขาทำได้ดีคือ ฉากการมีเพศสัมพันธ์ เขาทำออกมาได้ถึงดี และไม่คิดว่าจะเห็นการนำเสนอในทำนองนี้ในหน้าจอโทรทัศน์ของบ้านเรา  นี่ก็คือข้อดีอย่างหนึ่งที่อาทิตย์อัสดงเลือกฉายใน WeTV

อีกจุดหนึ่ง ทางทีมสร้างเขาหยิบยกเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมาใช้กับซีรีส์ได้อย่างเหมาะสม เช่นคดีการมอมเหล้าหญิงสาวพริตตี้แล้วพาขึ้นห้อง ในฉากนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่ามีการลากผู้หญิงขึ้นลิฟท์ในแบบที่เราเห็นในข่าวเลย และมีการนำหยิบยกเรื่องราวการฆ่าคนแล้วนำศพใส่หีบนำไปทิ้งในบึงน้ำที่เป็นข่าวโดงดังมาใช้ในซีรีส์ด้วยเช่นกัน

รูมรณะ มีความหมายหลายประเด็นขึ้นอยู่กัับว่าเราจะตีความออกมาในมุมไหนอย่างไร และอย่างน้อยที่สุดเมื่อเราดูซีรีส์จบแล้ว เราอาจย้อนมาสำรวจตัวเราเองว่าเรามีรูในใจของเรามากน้อยแค่ไหน เมื่อเราเห็นมันแล้วเราจะจัดการกับรูนั้นอย่างไร

7/10
...............

"กาฬกาสุ"

เป็นตอนสำตัญที่สุดของเรื่อง เป็นตอนที่สรุปเนื้อหาทั้งหมด สรุปใจความสำคัญทั้งหมดของ "อาทิตย์อัสดง" กล่าวถึงตัวละครเอกของเรื่องทั้ง 4 เรื่องย่อยไปเจอกันที่หน้าถ้ำ "กาฬกาสุ"  เพื่อเข้าไปพิสูจน์ว่าหากเข้าถ้ำนี้แล้วออกมาได้ แล้วจะสามารถขอพรให้มอบในสิ่งที่ต้องการได้หรือไม่ จะสามารถแก้ไขเรื่องราวในอดีตอันเลวร้ายภายในใจของทุกคนได้หรือไม่

จากนั้นทุกคนก็เดินเข้าไปในถ้ำตามคำแนะนำของดาว ทุกคนต่างเดินวนเวียนกันไปมาภายในถ้ำโดยที่หาทางออกไม่เจอ บางคนไปพบเจอสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้ บางคนก็เดินไปเจอกับเหตุการณ์และเรื่องราวในอดีตบางอย่างที่เขาอยากจะลืม และบางคนก็เดินไปเจอกับคนที่ตายไปแล้ว

หนังตอนนี้ให้เราเห็นเรื่องราวในอดีตของตัวละครเอกแต่ละคนในแต่ละสี่เรื่องย่อยว่า ที่ผ่านมาในแต่ละคนนั้นได้กระทำอะไรลงไปบ้าง เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า การกระทำและการตัดสินใจของแต่ละคนนั้นถูกต้องหรือไม่ และอะไรบ้างที่แต่ละคนนั้นต้องการกลับไปแก้ไข

แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครสามารถออกจากถ้ำไปได้ ไม่มีใครสามารถขอพรให้กลับไปแก้ไขอดีตได้

ดาวได้แนะนำให้ออฟทำในบางสิ่งบางอย่างที่โหดร้ายและรุนแรง เพื่อหวังว่านี่จะเป็นวิธีการออกจากถ้ำ แล้วออฟก็ทำตามทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าผลจากการที่เขาทำนั้นเป็นอย่างไร นี่ก็เป็นคำถามสำคัญที่หนังต้องการจะถามเราว่า เราแน่ใจแล้วหรือว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เราแน่ใจแล้วหรือว่าสิ่งที่เขาบอกต่อกันมา หรือที่สั่งสอนกันมานั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

การใช้ "ถ้ำ" มานำเสนอในเชิงสัญลักษณ์ของซีรีส์ตอนนี้อาจหมายถึง ความมืดมน ความมืดดำ การหลงทาง ของมนุษย์ทั้งมวล หลายคนรู้ว่าถ้ำนี้ไม่มีทางออก แต่ก็พยายามที่จะเดินเข้าถ้ำนี้ ก็เหมือนกับที่หลายคนรู้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างนั้นทำไปแล้วมันไม่ดี แต่ก็ยังทำมัน หากวิเคราะห์ให้ลึกลงไปได้อีกว่าก็เปรียบได้กับ กิเลส บาป ซึ่งหลายอย่างเป็นสิ่งผิด แต่ก็ยังเดินเข้าหามัน

"กาฬกาสุ" มีการนำเสนอฉากที่มีความรุนแรงอยู่ด้วย แล้วก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง  แต่โดยส่วนตัวแล้วผมกลับรู้สึกว่ามันยังไม่ถึงเท่าที่ควรจะเป็น เช่นการควักลูกตาออกจากศพ แต่เท่านั้นก็ถือว่าดีที่สุดที่ไทยเคยรำเสนอมาแล้ว

ซึ่งลูกตาคนนั้นอาจแทนค่าของการรับรู้ การสัมผัส การควักลูกตาออกมาก็เหมือนกับการตัดการรับรู้กิเลศก็เป็นได้

ถ้าหากถามถึงความดีงาม ในการสรุปเรื่องทั้งหมดจากซีรีส์  "อาทิตย์อัสดง" ในตอน "กาฬกาสุ" แล้ว มันมีความหมายเชิงสัญลักษณ์มาก มากจนเกินกว่าจะตีความ ผมเชื่อว่าหลายคนพยายามจะตีความหมายที่มีออกมา หลายคนอาจตีความถูก หลายคนอาจมีความผิด ก็แล้วแต่ประสบการณ์ถ้าไม่มีการตีความเลย ผมก็เชื่อว่าตอนนี้ดูแล้วแทบจะไม่เข้าใจ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นผมก็ถือว่าเป็นความดีของผู้สร้าง ที่เขาได้ทิ้งคำถามปลายเปิดเอาไว้ในซีรีส์ตอนนี้ ไม่มีการตีความใดถูกหรือผิดอย่างชัดเจน ทำให้เกิดการถกเถียงและเกิดการต่อยอดทางปัญญาไปได้อีกมากมาย

6.5/10

..........

ความรู้สึกหลังชม

ข้อดี
1. ชาญฉลาดในการหยิบยกประเด็นสำคัญทางสังคม แนะนำเสนอด้านมืดของ Social Media มีการตั้งคำถามย้อนกลับไปที่คนดูและสังคม

2. การแสดงที่ค่อนข้างสมจริงสมจัง คัดเลือกนักแสดงได้ดี สมกับบุคลิกและบทบาทที่ได้รับ

3. นำเสนอเรื่องราวความรุนแรงได้ค่อนข้างดี นำเสนอภาพที่โหดร้ายได้ดี ใช้คำหยาบได้ดี เหมาะสมกับอารมณ์และเรื่อง เอกลักษณ์ของก้องเกียรติ โขมศิริอย่างแท้จริง เหมาะสมกับการนำมาฉายใน WeTV

4. มีจุดที่เชื่อมโยงเรื่องทั้ง 4 เรื่องเข้ากันได้ดี
มีการหักมุมที่น่าสนใจ มีหลายจุดที่พลิกผันดี ดำเนินเรื่องสนุกน่าติดตาม มีอะไรให้ค้นหาตลอดเวลา

5. จุดที่น่ากลัวก็ทำได้น่ากลัว จุดที่จะผ่อนคลายอารมณ์ก็ทำได้ดี สร้างความสมดุลได้ดี

6. ชอบนักแสดงที่เป็นนางเอกของแต่ละตอนมาก ดีตรงที่เขาไม่ได้เอาดาราเก่ามาเล่น ทำให้เราไม่ติดภาพลักษณ์เกินไปนัก นักแสดงหญิงที่เลือกมาใช้แต่ละคนดูดีมาก สวยมาก และเล่นเก่งมาก

7. นำเรื่องราวเหตุการณ์และข่าวที่เป็นกระแสสังคมรวมถึงเรื่องราวที่อยู่ใน Social Media นำมาใช้กับแต่ละเรื่องได้ดีลงตัวและเหมาะสม

8. มีการสรุปของทุกเรื่องได้ดี มุ้งชี้ไปยังประเด็นที่เขาต้องการส่งสาส์นให้กับคนดูได้ชัดเจน แถมยังปล่อยพื้นที่ให้คนดูได้ขบคิดแบบปลายเปิด

ข้อเสีย

1. หลายจุดมีความไม่สมเหตุสมผล ดูแล้วก็ขัดใจ

2. การสนทนาของตัวละครหลายครั้งฟังไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ทัน พูดเร็วเกินไป พูดรัวเกินไป

3. บางจังหวะก็ดึงช้าเกินไป หาจนน่ารำคาญ โดยเฉพาะเรื่อง รูมรณะ

4. มีการนำฉากเดิม ๆ มาใช้ซ้ำ เข้าใจว่าต้องการจะสื่ออะไรให้ถึงอดีต แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า มันเป็นการดึงเวลาจนเกินไป

5. ภาพรวมของทั้งซีรีส์ มีหลายจุดที่ไม่ได้เฉลย แล้วก็ปล่อยผ่านไป ทำให้หลายอย่างค้างคาใจ

6. นักแสดงบางคนแสดงแบบ over acting จนรู้สึกว่าน่ารำคาญ

หากนำข้อดีกับข้อเสียมาหักล้างกันแล้ว ยังไงความชื่นชอบก็อยู่ในแดนแดนบวกเป็นอย่างมาก เพราะข้อดีนั้นแทบจะหักล้างข้อเสียไปได้แทบทั้งหมด

ดังนั้นเมื่อนำเนื้อหาของเรื่องทั้งหมดวิธีการนำเสนอของเรื่องอาทิตย์อัสดงทุกตอน ตั้งแต่เริ่มไปจนถึงบทสรุป จึงขอให้คะแนนความชื่นชอบ "อาทิตย์อัสดง" ไว้ที่
8/10
@วาทิน ศานติ์ สันติ

...........

การวิเคราะห์สาส์นสำคัญจากซีรีส์อาทิตย์อัสดง (#Spoil)
#การวิเคราะห์นี้ได้ไอเดียบางประการมาจากคุณสัมพันธ์

“เชื้อหลอนออนไลน์” เล่าเรื่องราวของพิงค์นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สาวแสนสวยกับการใช้ชีวิตอย่างซุกซน นัดเจอหนุ่มมีเพศสัมพันธ์แบบ  one night stand จนทำให้ต้องติดเชื้อโรคร้าย แต่เชื้อโรคนี้เป็นเชื้อโรคที่มาจากบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พิงค์ต้องใช้ชีวิตแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตกกลางคืนเธอคลอดแล้วตายไป ตื่นเช้ามาแล้วเธอก็เกิดใหม่

เรื่องที่สอง  “เพลงสวดศพแห่งผู้เยาว์วัย”  ว่าด้วยเรื่องราวของพยาบาลสาวที่รับจ๊อบพิเศษดูแลคนไข้ติดเตียงหญิงชราราชชิกุลคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไข้มีความลับหลายอย่างซ่อนอยู่ และชอบเรื่องราวทางไสยศาสตร์ เรื่องนี้เป็นการขยายความว่าเชื้อโรคร้ายที่เกิดขึ้นในเรื่องเชื้อหลอนออนไลน์นั้นมาจากที่ใด ตอนนี้เล่าถึงเรื่องราวของหญิงชราที่นอนโทรมทรมานอยู่บนเตียง ต้องทุกข์ทรมานอยู่กับความแก่และรอคอยความตาย

เรื่องที่ สาม “ช่อง ส่อง ตาย” ว่าด้วยเรื่องราวผู้ผลิตสื่อออนไลน์ชื่อดัง กับการทำ Content  บางอย่างที่ทำให้เกิดกระแสในสังคม ตอนนี้อธิบายถึงการเสพผ่านประสาทสัมผัส แล้วรับรู้ว่าสุขหรือทุกข์

และเรื่องสุดท้าย "รูมรณะ" เล่าเรื่องราวของ ชัย ชายที่มีแผลในใจบางอย่างในวัยเด็กเมื่อโตขึ้น ก็ออกล่าเหยื่อผู้หญิงเพื่อมีเซ็กซ์ แบล็คเมลล์ และทรมานเหยื่อยสาว แต่หารู้ไม่ว่า เหยื่อที่เขาคิดว่าเป็นของตาย แต่กลับกลายเป็นผู้ล่าที่อยู่สูงกว่าเขาซะเอง และเมื่อเขากลายเป็นเหยื่อเขาก็ถูกทรมานอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส

ส่วนตอนสรุปของเรื่องคือ "กาฬกาสุ" เป็นตอนที่ตัวละครเอกของเรื่องไปเจอกันที่หน้าถ้ำ เพื่อเข้าไปพิสูจน์ว่าหากเข้าถ้ำนี้แล้วออกมาได้ แล้วจะสามารถขอพรให้มอบในสิ่งที่ต้องการได้หรือไม่ จะสามารถแก้ไขเรื่องราวในอดีตอันเลวร้ายภายในใจของทุกคนได้หรือไม่ แต่แล้วก็ไม่สามารถมีใครออกมาได้ ต้องวนเวียนอยู่ภายในถ้ำตลอดไป

ตัวละคนเอกของทั้ง 4 เรื่องจึงแทนความหมายของความเป็นธรรมดาของมนุษย์คือ พิงค์-การเกิด หม่อมเจ้าศรีสอางค์-การแก่ ชัย-การเจ็บ ดาว-การตาย ส่วนออฟ-กิเลศ เป็นต้นเหตุของการเวียนว่ายตายเกิดทั้งหมด และถ้ำ-แทนค่าด้วยเวลาที่จะกลืนกินมนุษย์ผู้มีกิเลศตลอดไป

และยังมีการแทนค่าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตนตามหลักศาสนาพุทธได้อีกคือ

พิงค์คือหญิงสาวที่ใช้ชีวิตไปกับการหาความสุขทางกามารณ์ด้วยการกิน เที่ยว และมีเพศสัมพันธ์ไม่เลือก คือ
กามสุขัลลิกานุโยค คือ การพัวพันในกามในความสบายจนเกินไป และชัย กับเพื่อนของเขาที่ต้องถูกทรมาณ คือ อัตตกิลมถานุโยค คือ การประกอบตนเองให้ลำบากเกินไป ซึ่งจุดนี้ผมอ่านตีความผิดก็เป็นได้

ดังนั้นหากสรุปความหมายหรือสาส์นสำคัญหรือที่ซีรีส์ อาทิตย์อัสดงต้องการนำเสนอคือ เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด การติดอยู่ในสังสารวัฏ มนุษย์เรายึดติดอยู่ในกามอารมณ์ ยึดติดกับความสุขจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ผ่านทางขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ ซึ่งมันก็คือกิเลสนั่นแหละ และถ้าคนเรายึดติดลุ่มหลงกับกิเลสแล้ว เราก็ไม่อาจหลุดพ้นได้ ราคาปฏิบัติตนในการสายอย่างยันเกินไปหรือการปฏิบัติตนในสายที่ตึงเกินไป เราก็ไม่อาจหลุดพ้นจากกิเลสทั้งหมดได้ เราก็ยังต้องติดอยู่กาลเวลาที่หมุนเวียนไปตามระบบของสรรพสัตว์คือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และยังคงวนเวียนอยู่เช่นนั้นตลอดไปชั่วกัลป์ชั่วกัณฑ์

จบบริบูรณ์
วาทิน ศานติ์ สันติ
[email protected]

#SuperReviewChannel #อาทิตย์อัสดง
#รีวิวอาทิตย์อัสดง #สัญลักษณ์ในอาทิตย์อัสดง
#ความหมายในอาทิตย์อัสดง
#สรุปเรื่องในอาทิตย์อัสดง
#สปอยล์อาทิตย์อัสดง

หมายเลขบันทึก: 688326เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2021 11:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2021 23:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท