ลูกสาวแห่งขุนทะเล


หยุดไล่ล่าธรรมชาติ เพราะธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใคร

           ผลงานเรื่อง “ลูกสาวแห่งขุนทะเล” ได้เขียนขึ้นในช่วงเวลาความเข้มข้นของการรณรงค์ต่อต้านโครงการนำร่อง ที่ฝ่ายรัฐบาลและผู้มีอิทธิจับมือกันสร้างขึ้น ล้วนแต่เป็นโครงการที่จะส่งผลกระทบต่อชาวขุนทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะเป็นการสร้างท่าเรือน้ำลึกบริษัทเชฟรอน การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบตามมามากมาย ทั้งแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย แหล่งธรรมชาติและทรัพยากรทางทะเลสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งสารมลพิษที่จะทำลายสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของคนในชุมชน รวมไปถึงคนในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งนำมาซึ่งความเครียดและวิตกกังวล  จนเกิดความขัดแย้งตามมามากมาย ทั้งระหว่างประชาชนกับประชาชน และระหว่างประชาชนกับรัฐบาลที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันและนำมาซึ่งความรุนแรงในการต่อต้านและการสร้างอุดมการณ์ต่าง ๆ

         เรื่องลูกสาวแห่งขุนทะเลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงจากการไม่ยอมของชุมชนคนใต้ที่ต้องการให้แผ่นดินภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นแหล่งอาหารโลก ลูกสาวแห่งขุนทะเลซึ่งเป็นความเพียรพยายามที่จะสะท้อนเรื่องราวของคนหลายระดับทางภาคใต้ด้วยสถานการณ์เหล่านี้ เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านแผนพัฒนาอุตสาหกรรมภาคใต้ทุกโครงการ ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน

         ลูกสาวแห่งขุนทะเลคือนวนิยายประพันธ์โดยปริทรรศ หุตางกูร เริ่มพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ มีนาคม 2556 เป็นเรื่องราวการรณรงค์เพื่อต่อต้านโครงการต่าง ๆ ที่กำลังจะคุกคามเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชนอกจากเรื่องราวที่น่าสนใจแล้ว ภาษาที่ใช้ในเรื่องเป็นยังภาษาที่งดงาม มีประเด็นต่าง ๆ ที่น่าชื่นชมรวมทั้งมีการใช้คำในท้องถิ่นมาปรับปรุงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ประจำถิ่น

          ปริทรรศ หุตางกูร เขียนเรื่องนี้จากการได้รับแรงบันดาลใจจากการลงพื้นที่จริงที่ อบต ขุนทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการผลิตวรรณกรรมจากการสัมผัสเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่น เป็นรุ่นที่ 2 ของโครงการ เพื่อศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน เก็บสะสมวัตถุดิบจากประสบการณ์ตรง ผนวกเข้ากับจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ทักษะความชำนาญในการเล่าเรื่องและถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริง

          โครงเรื่องในเรื่องนี้เป็นการกล่าวถึงชีวิตของหญิงสาวชาวใต้ ที่เติบโตเป็นลูกสาวคนเดียวท่ามกลางไร่สวนที่ตำบลขุนทะเล ที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เทือกเขา ธารน้ำ และที่ทำเกษตรผสมผสาน เธอได้จากบ้านและมาใช้ชีวิตในเมืองกรุง หลังจากที่เรียนจบปริญญาโทสาขานิเทศศิลป์มาหมาดๆ ด้วยความที่เธอเป็นหญิงสาวที่เก่งและฉลาดนั้น ทำให้ได้รับตำแหน่งเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอจนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆในวงการโฆษณา เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นอาร์ตไดเร็คเตออย่างรวดเร็วเช่นกันในปีถัดมา เริ่มมีผลงานหนังโฆษณาฉายในทีวี โดยงานชิ้นใหญ่และสร้างชื่อเสียงให้แก่เธอนั้นคือผลงานชิ้นพิสูจน์แม่เมาะโฉมใหม่ที่สามารถเป็นมิตรกับเด็ก เยาวชนและสิ่งแวดล้อม

         สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจจากเมืองกรุงและการมีชื่อเสียงโด่งดังมาอยู่บ้านสวนที่มีแต่ความเงียบเหงาเหตุมาจากความอกหักที่ได้เห็นแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นระดับดาราแถวหน้าของเมืองไทยกับกิ๊กสาวอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ต่อหน้าต่อตา ทำให้เธอนั้นควบคุมอารมณ์ไม่ได้และเข้าไปทำร้ายร่างกายแฟนหนุ่มกับกิ๊กสาวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพฤติกรรมความรุนแรงเช่นนี้ติดตัวเธอมาตั้งแต่เด็กและไม่สามารถรักษาได้ ถึงแม้ว่าจะเข้ารับการรักษาแล้วก็ตาม

       เธอกลับมาอยู่บ้านกับการปรับตัวที่ไม่นับว่าเป็นเรื่องง่าย แต่สิ่งที่ทำให้เธอกลับมามีความสุขกับการใช้ชีวิตอีกครั้งคือการได้พบกับเพื่อนชายสมัยประถม ซึ่งเป็นคนที่เคยเจอกับความอกหักมาเช่นกัน แต่เขาคนนั้นก็ผ่านมันมาได้ โดยการหันไปสนใจในทางพระพุทธศาสนา ทำให้เธอมองเพื่อนชายคนนี้เป็นไอดอล และอีกอย่างคือการได้ถูกเชิญให้เป็นอาจารย์สอนวิชามัลติมีเดียอาร์ตที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เข้าไปทำงานได้ไม่นานก็ได้เริ่มรู้จักเกี่ยวกับเรื่องราวรณรงค์ต่อต้านต่าง ๆ จากอาจารย์ร่วมสาขาและนักศึกษาจากชั้นเรียน  จึงถูกชักชวนให้เข้าร่วมกระบวนการต่อต้านด้วยในหลายๆครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินรณรงค์ต่อต้านเชฟรอน รวมกลุ่มคัดค้านโครงการไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งการรณรงค์ต่อต้านทุก ๆ ครั้ง จะเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชนเนื่องจากรัฐบาลได้เล็งเห็นแค่ผลรับที่จะได้รับจากโรงงานอุตสาหกรรม แต่ไม่ได้เล็งเห็นถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง เพราะการนำแหล่งอุตสาหกรรมปิโตรเลียมขนาดใหญ่มาสร้างในพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน ย่อมจะเกิดผลกระทบต่าง ๆ ตามมา ทั้งด้านมลพิษทางอากาศ อาหารเป็นพิษ สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป รวมถึงการดำเนินชีวิตประจำวันของคนในท้องถิ่นอีกด้วย

           ในทุก ๆ ครั้งที่กลุ่มผู้รณรงค์ต่อต้านเริ่มเกิดความไม่พอใจกับรัฐบาลที่ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นในทิศทางที่ตรงกันข้ามเริ่มรุนแรงขึ้น เธอเริ่มมีอารมณ์โมโหร้ายและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือทำร้ายฝ่ายตรงข้าม อาการที่เธอเป็นนั้นเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆทำให้เธอเริ่มกลัวตัวเองและไม่อยากยุ่งกับสิ่งที่คอยยั้วโมโหเธอบ่อย ๆ จนได้มารู้ความจริงกับพ่อถึงเรื่องราวตำนานเสือดำ ที่พ่อของทวดซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเธอ ได้ร่ำเรียนวิชาไว้และทำให้เสือดำนั้นเข้ามาอยู่ในตัวเธอซึ่งเป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไป แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่เชื่อเท่าไรนักแต่ก็แอบกลัวและป้องกันตัวเองไม่ให้โมโหร้าย และพยายามหลีกเลี่ยงการรณรงค์ต่อต้านต่าง ๆ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องเข้าร่วมขบวนการต่อต้านอีกครั้ง เพราะทั้งเพื่อนอาจารย์และลูกศิษย์ต่างก็ต้องการให้เธออยู่ในกลุ่มต่อต้านด้วย เพราะชอบในความกล้าหาญของเธอ ซึ่งการร่วมขบวนครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง ทำให้เธอโมโหร้ายจนควบคุมสติไม่ได้ จึงวิ่งเข้าไปซ่อนตัวสักพัก หลังจากนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เธอได้กลายร่างเป็นเสือดำเข้ามาทำร้ายผู้คน จนผู้คนแตกตื่นวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เธอรู้ความจริงว่าเธอมีวิญญาณเสือดำดูในตัวจริงตามที่พ่อเคยบอก

         หลังจากการรณรงค์ต่อต้านในครั้งนั้นในที่สุดเหตุการณ์ก็กลับมาปกติ และเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานก็ได้รับข่าวดีว่าบริษัทก่อตั้งอุตสาหกรรมต่าง ๆ ล้มเลิกความคิดที่จะมาก่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่เเห่งขุนทะเล

          ความน่าสนใจของเรื่องคือ ผู้เขียนนำเรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์และสิ่งเหนือธรรมชาติมาผูกเป็นโครงเรื่อง ทำให้เรื่องมีความน่าสนใจมากกว่าเรื่องการต่อต้านของชาวบ้านธรรมดาๆ ความเหนือธรรมชาติถูกเชื่อมโยงไปที่ตัวละครหลักคือนางเอก เพราะต้องการสื่อให้นางเอกเป็นตัวแทนความไม่เห็นด้วยของธรรมชาติ และใช้ตัวละครเอกเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อหลักในการต่อต้านโครงการต่าง ๆ และนอกเหนือจากสิ่งเหนือธรรมชาติที่เป็นความเชื่อแล้ว ผู้แต่งยังแฝงพระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นสิ่งช่วยจรรโลงจิตใจคนในสังคมไว้อีกด้วย โดยผ่านตัวละครชายอีกตัวที่เป็นเพื่อนของนางเอก

           และยังมีความงดงามทางด้านภาษาอย่างมาก มีการใช้คำที่สละสลวย มีการนำความรู้ต่าง ๆ ทางด้านพระพุทธศาสนาเข้ามาร่วมด้วยเกือบตลอดทั้งเรื่อง  กล่าวถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนับถือในพระพุทธศาสนา ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและลึกซึ้ง เกิดความสนุกสนานและได้ความรู้ในหลายๆด้านเพิ่มเติม

           กลวิธีที่ผู้แต่งนำมาใช้สร้างความตื่นเต้นและน่าสนใจให้กับเรื่อง ทั้งการเปิดตัวละครให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะของตัวละครนั้นได้อย่างชัดเจน ผู้แต่งสามารถสร้างตัวละครเอกให้มีลักษณะที่โดดเด่นไปจากตัวละครอื่น ๆ โดยได้ใช้จินตนาการผนวกเข้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เห็นถึงสัญลักษณ์การต่อสู้ของเสือที่ไม่มีวันถอย เหมือนหญิงสาวที่พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อชาวขุนทะเลให้มีชีวิตที่ดีสุขสบายเช่นเคย

          อีกทั้งผู้แต่งให้ความสำคัญกับฉากและบรรยากาศได้อย่างสมจริง ฉากแต่ละฉากมีอิทธิพลต่อตัวละครเป็นอย่างมาก ดำเนินเรื่องไปตามลำดับเวลา รวมถึงมีการตั้งชื่อเรื่องให้เข้ากับฉากสำคัญในเรื่องอีกด้วย ซึ่งผู้แต่งได้ใช้ชื่อของตำบลที่เกิดเหตุการณ์ รวมกับนำตัวละครที่สำคัญในตำบลมาเป็นผู้ดำเนินเรื่อง จึงได้ชื่อว่าลูกสาวแห่งขุนทะเล

            ลูกสาวแห่งขุนทะเลเป็นวรรณกรรมที่ชี้ให้เห็นถึงการต่อสู้ของประชาชน ซึ่งเป็นเพียงตัวแทนหรือกระบอกเสียงของคนส่วนน้อยที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้ที่มีอิทธิพลรายใหญ่ ซึ่งเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดตัวเองให้คงไว้ซึ่งความสวยงามของธรรมชาติท้องทะเลที่มีทรัพยากรต่าง ๆโดยสมบูรณ์ให้อยู่สืบต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน เมื่อไรที่ปล่อยให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ได้นั้น ความงดงามของท้องทะเลแห่งนี้ย่อมไม่มีวันสวยงามเช่นเดิมเป็นแน่นอน เห็นถึงความสามัคคีของชาวบ้านที่ร่วมมือการต่อต้านจนสำเร็จและสามารถรักษาขุนทะเลไว้ให้คงอยู่ต่อไป ลูกสาวแห่งท้องทะเลจึงเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความพยายามที่จะสะท้อนเรื่องราวต่าง ๆของคนในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากพวกนายทุนได้รับรู้ และพร้อมที่จะดูแลรักษาธรรมชาติให้คงอยู่กับชาวขุนทะเล

           จากการพิจารณานวนิยายเรื่องลูกสาวแห่งขุนทะเลนั้น มีความเป็นเอกภาพ มีการยึดเนื้อเรื่องให้ดูสมจริง มีการกล่าวถึงเรื่องเล่าหรือตำนานของพื้นที่ ทั้งยังมีการเชื่อมโยงเข้ากับตัวละครเอก ให้ตัวละครเอกเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งยังมีการนำพระพุทธศาสนาเข้ามาประกอบกับความเชื่อให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน เป็นนวนิยายที่มีทั้งเรื่องของความรัก ความเศร้า และความโกรธปะปนอยู่แทบทุกตัวละคร ส่วนฉากและโครงเรื่องมีส่วนประกอบที่สมบูรณ์ รูปแบบการเขียนอยู่ในแบบบันเทิงคดี เนื้อหาได้มีการสอดแทรกแนวคิดในการดำเนินชีวิตไว้หลายๆด้าน เหมาะสำหรับนักอ่านทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะอ่านเพื่อหาความรู้หรือเพื่อความสนุกสนานก็เหมาะสมยิ่งนัก

หมายเลขบันทึก: 687684เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2020 10:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 ธันวาคม 2020 16:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท