บทเรียนกิจกรรมบำบัดและเรื่องราวพ่อของฉัน


หลังที่ได้เรียนในเกี่ยวกับCommunity survivors and learning skills และได้รับการมอบหมายงานให้สัมภาษณ์สัมภาษณ์คนใกล้ชิดที่เคยมีอาการป่วยทางกายหรือทางจิตแล้วส่งผลต่อกิจวัตรประจำวัน ฉันก็เกือบจะลืมไปแล้วว่าคนใกล้ชิดของฉันอย่างพ่อนั้นมีอาการป่วยเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เพราะในปัจจุบันพ่อฉันใช้ชีวิตอย่างคนปกติที่ไม่เหมือนมีอาการป่วยใดๆ และยังคงทำกิจกรรมที่รักอย่างการเล่นกีฬาเป็นประจำ ซึ่งนั่นก็ทำให้ตัวฉันเริ่มมีความสนใจในเรื่องราวที่พ่อผ่านมา และเริ่มยกหูคุยกับพ่อ

ย้อนกลับไปมากกว่า20ปีที่แล้ว พ่อฉันเล่าว่าอยู่ๆก็ไม่สามารถยกขาเพื่อใส่กางเกงได้ ณ ตอนนั้นพ่อตกใจมาก แต่ก็ยังพอมีสติในการเรียกแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงและตรวจร่างกายด้วยวิธีต่างๆ พ่อก็ได้รู้ว่าพ่อมีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่บริเวณก้นกก และด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนของคุณหมอจึงทำให้พ่อมีความตกใจไม่มากนัก ในตอนนั้นพ่อมีไม่สามารถที่จะแต่งตัวร่างกายส่วนล่างได้ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องมีคนช่วยจับกางเกงและตัวของพ่อ พ่อสามารถอาบน้ำเองได้ แต่ไม่สามารถทำความสะอาดท่อนล่างได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากทุกครั้งที่มีการยกขา พ่อจะมีอาการปวดแบบเสียวบริเวณก้น พ่อไม่สามารถไปทำงานได้1สัปดาห์ เนื่องจากคำสั่งของคุณหมอคือให้นอนพัก พ่อไม่สามารถทำกิจกรรมที่พ่อรักอย่างการเล่นกีฬาได้ แต่พ่อก็เล่าว่าพ่อไม่ได้รู้สึกเสียใจ เนื่องจากพ่อคิดว่าการหยุดงานก็เป็นกรพักผ่อนที่ดี อีกทั้งข้อมูลและคำแนะนำที่ครบถ้วนจากหมอก็ทำให้พ่อคิดว่า แค่รักษา กินยา ทำกายภาพบำบัด ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดก็สามารถมีอาการที่ดีขึ้นได้ พ่อเล่าว่าพ่อต้องกินยาและทำกายภาพบำบัดอยู่ราว2เดือน แต่ด้วยการมีครอบครัวและคนรักที่เป็นกำลังใจ ทำให้พ่อคิดว่าพ่อต้องหายอย่างแน่นอน และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อตั้งใจทำทุกอย่างอย่างเคร่งครัด  แม้พ่อยังเป็นโรคนี้อยู่แต่อาการของพ่อแทบจะไม่เหลืออยู่เลย พ่อสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างอิสระ เพราะพ่อยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างการไม่ยกของหนักหรือการเข็นรถอยู่ ทำให้การกลับมาของอาการปวดแทบจะไม่กลับมา ปัจจุบันพ่อมีการออกไปเล่นกีฬาและออกกำลังกายสัปดาห์ละ4วัน เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้พูดถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับพ่อ คนอื่นคงจะไม่รู้ว่าพ่อกำลังป่วยและเคยผ่านเหตุการณ์เกี่ยวกับร่างกายมาขนาดนี้

พ่อเล่าว่าได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดระเบียบร่างกายกับการยกของ ซึ่งถ้าไม่ป่วยก็คงไม่รู้ว่ายกของผิดท่ามาตลอดชีวิต อีกทั้งพ่อยังกลับมาออกกำลังกายซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความหมาย ดีต่อสุขภาพและเป็นกิจกรรมที่พ่อเชื่อว่าเป็นการป้องกันโรคได้ดี ปัจจุบันฉันมักเห็นพ่อนำประสอบการณ์ตนเองไปแนะนำและชักชวนคนอื่นออกกำลังกายเสมอ เพราะพ่อเชื่อว่าถึงแม้อาการป่วยจะมีการรักษาให้คงอาการได้ แต่การไม่ป่วยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

หมายเลขบันทึก: 687307เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2020 22:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2020 22:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท