๑,๑๗๖ อดทนนะ..ต้นหอม


" ผมเอื้อมมือไปจับแขนต้นหอม เห็นมีริ้วรอยแดงๆเป็นจ้ำๆ ผมอยากกอดเธอเหลือเกิน ทำไมเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆที่อดทนยิ่งนัก ที่ผ่านมาต้นหอมไม่เคยขาดเรียน ใบหน้าที่สดใส ดวงตาที่ใสซื่อ ไม่มีริ้วรอยของบาดแผลให้เห็น แต่ตอนนี้ความจริงเริ่มปรากฏแล้ว..."

          “เธอบอกกับครูซิ..เกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อคืน” ผมถามด.ญ.ต้นหอม นักเรียนชั้นป.๒ ที่มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ต่อหน้าครูประจำชั้น

       ต้นหอมนิ่งเงียบ..คงคิดไม่ถึงว่าผมจะถาม หน้าตาเธอที่เคยสดใส ร่าเริง ดูหม่นหมองลงไปมาก....”พ่อตีเธอหรา”    “ค่ะ” ต้นหอมก้มหน้า ไม่ยอมสบตาผม

          “ตอนนั้นเธอกำลังทำอะไร” ผมถาม  “หนูกำลังกินข้าวค่ะ”

          ผมอยากให้ต้นหอมพูดความจริง เพื่อที่ผมจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง ที่สำคัญจะตรงกับที่แม่ต้นหอมเล่าให้ผมฟังหรือเปล่า...

          เมื่อตอนเช้า ยังไม่ถึงแปดโมง ผมกำลังดูแลนักเรียนทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน แม่ต้นหอมขับมอเตอร์ไซค์มาหาผม หน้าตาหมองเศร้าเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน...

          เธอเล่าให้ผมฟังทั้งที่น้ำตานองหน้า..ผมต้องคอยปลอบให้แม่ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด

          “เมื่อคืนต้นหอมถูกพ่อตี พ่อเขาไล่ขับออกจากบ้าน ต้องไปอาศัยเพื่อนบ้านนอน หนูเอาเสื้อผ้าไปให้ ถึงได้มาโรงเรียน...”

          “ต้นหอมทำอะไรผิดล่ะ” ผมถามด้วยความสงสัย เด็กตัวนิดเดียว ทำไมต้องใช้ความรุนแรง

          “ต้นหอมไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกครู แต่พ่อเขาตีประจำ เขาไม่เคยรักต้นหอมเลย เพราะเขาคิดว่าพ่อแม่เขารักแต่ลูกผู้หญิง ไม่เคยรักเขาเลย” ผมนิ่งไปพักนึง...”อาจจะไมใช่ก็ได้นะครับแม่”

          “ฝากครูด้วยนะ ถ้าพ่อเขามาตีหรือมารับต้นหอมกลับบ้าน ครูอย่าให้ไปนะ”     “ครับ”

          แม่ต้นหอมเอามือปาดน้ำตา ใจคอคงจะชื้นขึ้นเมื่อได้ยินผมรับปาก..ก่อนลากลับ ผมถามแม่ต้นหอมตรงๆ และแม่ก็ไม่ปิดบัง...

          ผมถามเกี่ยวกับ...สิ่งที่กำลังระบาดอย่างหนักในหมู่บ้าน ราคาไม่กี่ตังค์ หาซื้อกันได้โดยง่ายยิ่งกว่าขนม..มันเกี่ยวกับพ่อของต้นหอมด้วย..”ใช่ไหม?”   “ใช่ค่ะ”

          เรื่องนี้ ด.ญ.ต้นหอมก็เล่าให้ผมฟัง..แต่ก่อนหน้านี้ ต้นหอมบอกว่า “หนูโดนพ่อตีตั้งแต่ชั้น ป.๑ หนูไม่ผิดพ่อก็ตีค่ะ”    “พ่อใช้อะไรตีหนู”  ผมถาม

          “ทั้งมือและไม้ค่ะ”   “เจ็บไหมต้นหอม”  “เจ็บมากค่ะ”

          ผมเอื้อมมือไปจับแขนต้นหอม เห็นมีริ้วรอยแดงๆเป็นจ้ำๆ ผมอยากกอดเธอเหลือเกิน ทำไมเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆที่อดทนยิ่งนัก ที่ผ่านมาต้นหอมไม่เคยขาดเรียน ใบหน้าที่สดใส ดวงตาที่ใสซื่อ ไม่มีริ้วรอยของบาดแผลให้เห็น แต่ตอนนี้ความจริงเริ่มปรากฏแล้ว...

          “เมื่อคืนเธอนอนที่ไหน?”  “หนูนอนข้างๆบ้าน ค่ะ”

          ทำให้ผมนึกถึงผู้หญิงที่เป็นเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ที่มากับแม่ต้นหอม ในวันที่แม่ย้ายต้นหอมมาเรียนวันแรก วันนั้นแม่ต้นหอมบอกว่า..จะย้ายต้นหอมมาเรียนนานแล้ว แต่พอดีต้องรอให้น้องต้นหอมจบชั้นอนุบาลจากศูนย์เด็กเล็กเสียก่อน...วันนี้แม่สบายใจที่เห็นต้นหอมได้เรียนที่เดียวกับน้องชายที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล ๒

          ผมเห็นความใจดีของเพื่อนบ้านก็อดสงสัยไม่ได้ “คุณป้าเป็นอะไรกับแม่ต้นหอมครับ”

          “ฉันเป็นแค่เพื่อนบ้าน แม่ต้นหอมเขามาจากประเทศลาว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ขยันทำมาหากินเหลือเกิน ทำงานรับจ้าง หนักเอาเบาสู้ เลี้ยงลูกสองคน ฉันเลยรู้สึกสงสาร”

          ผมสังเกต ด.ญ.ต้นหอมที่มีหน้าตาไม่เหมือนแม่ ปากนิดจมูกหน่อย ตากลมโต วันที่แต่งหน้าทำผมและแต่งชุดเพื่อรำอธิษฐานในงานบุญกฐินที่ผ่านมา ต้นหอมดูน่ารักน่าเอ็นดูมาก

          “เวลาที่หนูโดนพ่อตี..แม่เขาว่าอย่างไรบ้างล่ะ”

          “แม่เข้ามาช่วยหนูค่ะ แม่ก็ถูกตีด้วย” ต้นหอมเริ่มร้องไห้ น้ำตาใสๆไหลออกจากดวงตา

          “ต้นหอมรักแม่ไหม?”   “หนูรักแม่ที่สุดเลยค่ะ”

          โรงเรียนเลิกแล้ว...ผมยื่นกล่องขนมให้ต้นหอม เธอยกมือไหว้ นัยน์ตาเหมือนมีความวิตกกังวล ผมพูดเบาๆพอให้เธอได้ยิน...”อดทนนะ..ต้นหอม รักแม่ก็ต้องดูแลแม่ช่วยแม่เลี้ยงน้องด้วยนะ”  ต้นหอมเดินจากไป ทิ้งให้ผมอยู่กับน้ำตาอุ่นๆ ที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว...

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๔  พฤศจิกายน  ๒๕๖๓


         

หมายเลขบันทึก: 686891เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2020 21:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2020 21:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

คงต้องฝาก “ต้นหอม” อยู่ในความดูแลของท่าน ผอ. ด้วยครับ ;)…

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท