ภายใต้สารพัดข้อจำกัด ผมหมั่นฝึกฝนตนเองให้ใช้ชีวิตแบบไม่ปรุงแต่ง หรือปรุงแต่งน้อยที่สุด กล่าวใหม่ว่า พยายามใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่สร้างความยุ่งยากแก่คนรอบข้าง ทำมาตลอดชีวิต จริงจังมากขึ้นในวัยชรา
ที่ง่ายอย่างหนึ่งคือการแต่งกาย การแต่งกายแบบไม่เน้นหรูหรา แต่เน้นสุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ ช่วยให้ประหยัด และสร้างบุคลิกประจำตัว ของฟุ่มเฟือยหรูหราราคาแพงถือเป็นสิ่งต้องห้ามประจำใจ
บุคลิกง่ายๆ ไม่ฟุ่มเฟือยนี้ เชื่อมโยงสู่ยานพาหนะที่ใช้ ผมใช้รถเพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ใช้แสดงฐานะ ซึ่งที่จริงฐานะของผมก็ไม่เอื้อให้ซื้อรถราคาแพง
ข้างบนนั้นเพื่อวาง positioning ของตนในสังคม แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือเพื่อสันติสุขภายในตนเอง เพื่อความสงบเย็นทางใจ ความมั่นคงทางใจ ฝึกให้ใจไม่หวั่นไหวง่าย ฝึกให้มั่นใจตนเองด้วยตัวตนภายใน ไม่ต้องอาศัยสิ่งปรุงแต่งภายนอก ไม่ต้องโก้ก็มั่นใจตนเองได้ แทนที่จะใช้เปลือกนอกอวดตัว กลับใช้ถ่อมตัว มองความถ่อมตนเป็นคุณธรรม
วิธีฝึกอย่างหนึ่งคือการฝึกให้อยู่ง่ายกินง่าย ตอนนี้บ้านผมผูกปิ่นโตจากบ้านลูกสาวที่อยู่ติดกันและมีแป๋มเป็นแม่ครัวระดับเชลล์ชวนชิม (เราให้ชามเชลล์กันเอง) โดยเขาจะส่งอาหารเที่ยงกับอาหารเย็น แล้วผมจะเก็บเข้าตู้เย็นเอามากินมื้อเช้าได้ด้วย โดยผมเลี่ยงข้าวเพื่อลดความอ้วน สภาพการกินอาหารเช้าจึงอยู่ในสภาพทำหน้าที่ “เทศบาล” กำจัดอาหารเหลือในตู้เย็น
สาวน้อยมานั่งดูผมกินที่ระเบียงหน้าบ้าน แล้วชมว่า “กินง่ายจริงๆ” แรกๆ ผมเอาไปอุ่นก่อน แต่ในที่สุดก็กินโดยไม่ต้องอุ่น คือไม่ปรุงแต่งด้วยความร้อน
นี่คือ “การปฏิบัติธรรม” ของผม เพื่อ “ฝึกจิต” ให้เข้มแข็ง เอาไว้เผชิญสิ่งเย้ายวนทางอารมณ์
วิจารณ์ พานิช
๘ เม.ย. ๖๓
ชีวิตเรียบง่าย ทำให้เราสุขสบายด้วยค่ะ อาจารย์เป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตที่มีความสุข เห็นจากการทำทุกสิ่งด้วยตนเอง เช่น ถือกระเป๋าเอง ไปไหนมาไหนในงานประชุมด้วยตัวเองไม่ต้องให้คนดูแล และยังให้แนวคิดที่ดีต่อสังคมเสมอ สุดยอดของครูค่ะ ดีใจที่ได้รู้จักและได้เรียนรู้กับอาจารย์นะคะ