กักตัวอยู่กับบ้านตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด มีเวลาได้อ่านหนังสือหลายเล่ม
“ประวัติการศึกษาไทย” ของอาจารย์พงศ์อินทร์ ศุขขจร อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยครูจันทรเกษม เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมได้อ่าน ซึ่งท่านเขียนเล่าเรื่องการศึกษาของไทยไว้เมื่อ พ.ศ.2512 ทำให้เข้าใจเรื่องการศึกษาบ้านเราได้มากขึ้น ผมเกรงว่าหนังสือเล่มนี้จะสูญหายไป ก็เลยนำข้อเขียนของท่านมาแบ่งปันกันอ่าน โดยเลือกเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆมานำเสนอ และแบ่งเป็นตอนๆไปครับ
--------------------------------------
เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435 ได้มีประกาศพระบรมราชโองการตั้งกรมธรรมการขึ้นเป็นกระทรวงธรรมการ มีเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ แต่ครั้งยังมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยา เป็นเสนาบดีคนแรก มีกรมในสังกัดรวม 5 กรม คือ 1. กรมธรรมการกลาง(คล้ายกับสำนักงานปลัดกระทรวงในปัจจุบัน) 2.กรมศึกษาธิการ 3.กรมพยาบาล 4.กรมพิพิธภัณฑ์ 5.กรมสังฆการี
สถานที่ตั้งกระทรวงธรรมการครั้งแรกอยู่ที่สำนักงานพระคลังข้างข้างที่ ริมประตูพิมานชัยศรี ด้านตะวันออก อยู่มาได้หกปีจึงย้ายจากพระบรมมหาราชวังไปตั้งอยู่ที่ตึกสุนันทาลัย ปากคลองตลาด เมื่อพ.ศ. 2441 อยู่มาได้จนพ.ศ. 2447 ย้ายจากปากของตลาดไปตั้งอยู่ที่ตึกสร้างใหม่ที่พระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งขณะนี้เป็นที่ตั้งโรงละครแห่งชาติ จนถึงพ.ศ. 2452 ย้ายไปตั้งอยู่ที่บ้านเจ้าพระยารัตนาธิเบอร์ ริมคลองโอ่งอ่าง (ต่อมาเป็นที่ทำการกรมกสิกรรม) จนกระทั่งพ.ศ. 2483 จึงได้ย้ายมาอยู่ที่วังจันทรเกษม ถนนราชดำเนินนอกอีกครั้งหนึ่งจนทุกวันนี้
นายพิชิต โสภณ ปาลบุตร อาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้เขียนสถานที่ตั้งของกระทรวงศึกษาธิการเป็นโคลงสี่สุภาพไว้ดังนี้
หนึ่งเมษาสามสิบห้า เป็นกระทรวง
ในพระราชวังหลวง ถิ่นยั้ง
ชื่อ “ธรรมการ” ปวง ชนทราบ ทั่วแฮ
เจ้าพระยาภาสฯ ถูกตั้ง แต่งให้ว่าการ
มินานก็ถูกย้าย ออกมา
ตั้งที่ตึกสุนันทาฯ ชื่ออ้าง
ปากคลองตลาดปรา- กฎต่อ มาแล
ที่หนึ่งตุลสี่สิบสร้าง สืบท้ายพุทธกาล
เสริมงานกอบกิจตั้ง เป็นตรา
ทำนุกการศึกษา สืบไว้
ที่หกกรกฎา- คมมาส
สองสี่สี่แปดไซร้ จึงย้ายอีกหน
กังวลการโยกย้าย สถานงาน
อยู่ราชวังบวรฐาน ที่กว้าง
กอบกิจศึกษาสาน เสริมประโยชน์
พอจักเป็นหลักบ้าง ถูกย้ายต่อไป
ที่ใหม่คือที่บ้าน พระยารัตน์
คลองโอ่งอ่างนามชัด แน่แท้
กระทรวงสืบการจัด สิกขกิจ
เป็นหลักมั่นคงแล แต่นั้นหลายปี
พอดีศกพ่วงท้าย แปดสาม
ยี่สิบสี่มิถุนตาม โยกย้าย
วังจันทร์สถานงาม แดนใหม่
ตั้งมั่นคงมิย้าย อีกแล้วกระมัง
ส่วนผู้ที่ดำรงตำแหน่งเสนาบดีตั้งแต่เริ่มตั้งกระทรวงธรรมการ จนถึงก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475 มีรายพระนามดังนี้
พ.ศ. 2435 - 2445 เจ้าพระยาภาสกรวงศ์
พ.ศ. 2445 - 2454 เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร
พ.ศ. 2454 - 2458 เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี
พ.ศ. 2458 - 2469 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
พ.ศ. 2469 - 2475 พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
เมื่อตั้งกระทรวงธรรมการแล้ว การจัดการศึกษาของไทยก็มีการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความเห็น