ฟังทัศนะสื่อมวลชนอเมริกันที่ไร้อคติสะท้อนความจริง...
~Thomas Friedman นักข่าวของนสพ. นิวยอร์คไทม์ ได้สร้างความสั่นสะเทือน…ต่อทำเนียบขาว …ด้วยบทความ...
“เปรียบเทียบช่วงเวลา7 ปี ของจีนและ 7 ปี ของสหรัฐฯ” ตามความจริงที่เป็นจริงที่ไม่ถูกบิดเบือนด้วยอคติว่า
~ ผมได้หวนคิดถึงช่วงเวลา7 ปีที่ผ่านมาของประเทศจีน และ ของสหรัฐฯ ได้พบความจริงที่แตกต่างกันมากมาย
~ในขณะที่จีนมุ่งมั่นกับโครงการก่อสร้างใหญ่ๆจำนวนมาก (Infrastrutureprojects)แต่สหรัฐฯกลับมุ่งมั่น…จัดการกับปัญหาผู้ก่อการร้าย Al-Qaeda
~จีนมุ่งสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเช่น สนามกีฬา รถไฟใต้ดิน สนามบิน ถนน และสวนสาธารณะ แต่…เราสหรัฐฯกำลังสร้างอาวุธ…เครื่องตรวจจับอาวุธ …รถหุ้มเกราะและโดรนสำหรับทำสงครามเพื่อการเข่นฆ่า
~คุณจะเห็นความแตกต่าง…ระหว่างสนามบินเก่า…และ…สกปรกของเราสหรัฐฯ (dirty old LaGuardia Airport) กับสนามบินที่สวยงาม…และ…ทันสมัย…คือสนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้(Shanghaiinternational Airport)
~เมื่อคุณขับรถในแมนฮัตตันนิวยอร์ค …คุณจะเห็นสิ่งก่อสร้างเก่า…ทรุดโทรมตลอดสองข้างทาง …แต่ถ้าคุณเดินทางในเซี่ยงไฮ้..คุณจะมองเห็นรถไฟฟ้าพลังแม่เหล็กความเร็วสูง(Shanghai’s maglev train) ที่วิ่งด้วยความเร็ว220 ไมล์ต่อชั่วโมง…ซึ่งใช้พลังแม่เหล็กไฟฟ้า …ขณะที่รถไฟของเราสหรัฐฯ…ยังคงใช้ล้อและรางเหล็กกล้าแบบโบราณ …
~ดังนั้น…เมื่อคุณเข้าไปอยู่ในเซี่ยงไฮ้แล้ว…เราชาวอเมริกัน…ควรจะย้อนถามตัวเราเองว่า… “ระหว่างคนจีน กับ เราคนอเมริกัน…ใครกันแน่ …คือ…ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศโลกที่สาม? ”
~ผมคิดว่าในฐานะประเทศสมัยใหม่ จีนยอมรับในเอกราชของแต่ละประเทศ…และสิทธิมนุษยชนของประชาชน…แต่ด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายของจีน…ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว…ลักษณะหนึ่งของโมเดลการพัฒนาแบบจีน…คือ การพัฒนาประเทศที่มีประชากรจำนวน 1,400 ล้านคน…ทำให้ผลที่เกิดจากการเรียนรู้ ผลจากการสร้างนวัตกรรม…ผลจากขนาดของประชากร …ส่งผลกระทบต่อประเทศจีน…และ โลกทั้งหมด
~หลายบริษัทที่ลงทุนในจีนมีคำขวัญว่า…ถ้าบริษัทใดประสบความสำเร็จในจีน…ก็จะประสบความสำเร็จได้ในระดับโลก…การผงาดขึ้นของจีน …เริ่มขยายตัวไปสู่ภาคต่างๆ…เช่น การท่องเที่ยว …การบิน …ภาพยนตร์และทีวี …การกีฬา …พลังงานใหม่ๆ …การศึกษา…เท็คโนโลยีใหม่…แฟชั่นยุคใหม่ …และรถไฟความเร็วสูง……พวกเราชาวอเมริกัน…อาจรู้สึกอิจฉา…คนที่อยู่ในประเทศอื่น แต่ในความเป็นจริง …ปัญหาของประเทศเหล่านี้…คือ…ขาดกำลังในการต้านทานต่อปัญหาวิกฤตการณ์ต่างๆ…ในขณะที่ประเทศขนาดใหญ่…จะมีกำลังต้านทานปัญหามีทรัพยากร…และโอกาสในการแก้ปัญหาได้มากกว่า
~ในกรณีชิลี…ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาระดับสูง …แต่เมื่อต้องประสบภัยแผ่นดินไหวในปี 2010 ทำให้ GDP ลดลงมาก…และเศรษฐกิจไม่เติบโต…เป็นเวลา2 ปี…ในขณะที่ประเทศจีน…พบกับภัยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มากกว่า…ที่เหวินชวน เฉิงตู…แต่เศรษฐกิจของทั้งประเทศ…ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
~สำหรับประเทศอื่นๆ…การพัฒนา…ยกระดับอุตสาหกรรม…มักจะดำเนินการด้วยการย้ายอุตสาหกรรมเก่าออกไป…ยังต่างประเทศ…แต่ประเทศจีน…ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ …มีระดับการพัฒนาที่แตกต่างกันในหลายพื้นที่…สามารถเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมต่างๆ …ภายในประเทศ…จากเขตชายฝั่ง…ภาคตะวันออก…ไปยังเขตภาคตะวันตก…ที่มีการพัฒนาต่ำกว่าได้…ทำให้ยืดอายุอุตสาหกรรมการผลิต…ของจีนได้ยาวนานกว่าประเทศอื่นๆ
~ทุกวันนี้…ชาวจีน…ยึดถือและปฏิบัติตามหลักจริยธรรม…ของขงจื๊อ…ให้ความเคารพต่อผู้เป็นครูบาอาจารย์ ยึดหลักการท่องจำหลักปรัชญาดั้งเดิม…คลั่งไคล้ในอักษรภาพ…และภาพเขียนโบราณ …เห็นคุณค่าของพิธีชงน้ำชา…บูชาบ้านเมืองโบราณ …เห็นคุณค่าวัตถุโบราณ…เชื่อถือในคุณค่าของการรักษาสุขภาพแบบจีน…และยาจีน…ซึ่งแสดงถึงการกลับมาเข้มแข็ง…ของวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนอีกครั้งหนึ่ง
~วัฒนธรรมอาหาร…วัฒนธรรมสุขภาพ …และ…รูปแบบการพักผ่อน…ที่สืบเนื่องจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน…ก็แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตก
~ภัตตาคารริมถนน(Streetrestuarants)ทั่วประเทศจีน…มีอาหารให้เลือกทานได้ถึง30-40 เมนู…แต่…ร้านอาหารอเมริกันส่วนใหญ่ มักจะมีเพียงแฮมเบอร์เกอร์…และมันฝรั่งทอด (hambergers andpotato chips)หรืออย่างมากก็มีแค่3-4 เมนู
~สำหรับภัตตาคารในยุโรป…จะมีอาหารให้เลือกมากกว่าของอเมริกันแต่ก็มักจะไม่เกิน 7-8 เมนู……
~เราชาวตะวันตกบางคน…มักจะวิตกว่า…ชาวจีนไม่มีศาสนา…แต่ในความเป็นจริงแล้ว..คนที่เคยเรียนประวัติศาสตร์ทุกคน…จะทราบว่า…ความขัดแย้งทางศาสนา…นำไปสู่สงครามนับครั้งไม่ถ้วน…ความขัดแย้งระหว่างความเชื่อต่างนิกายในคริสต์ศาสนา…หรือ…ความขัดแย้งระหว่างคริสต์…กับ…มุสลิม…ที่กินเวลาหลายพันปี…ได้นำหายนะมาสู่สังคมมนุษย์…ทำให้มีการผลาญชีวิตคนจำนวนมาก…ดังนั้น…จึงไม่จำเป็นต้องมีความเชื่อในศาสนาอย่างงมงาย
~ระบบเศรษฐกิจจีน…เป็นระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม(Traditionaleconomics)ไม่ใช่เศรษฐกิจแบบใช้ตลาดนำ(Marketeconomy)แต่เป็นระบบเศรษฐกิจ…ที่เห็นอกเห็นใจกัน/เศรษฐกิจเพื่อมวลชน(Humanisticeconomics)
~ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน…พบว่าถ้าผู้นำประเทศ…ไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจ…และปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนได้…และไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติได้…ประชาชนจะเสื่อมศรัทธา…ในผู้นำ…และอาจถูกโค่นล้มโดยประชาชน
~ปัจจุบันพรรคการเมืองของจีนคือการพัฒนาทางประวัติศาสตร์ที่ต่อเนื่องโดยสืบทอดวัฒนธรรม…ของระบบจารีตในการปกครองแบบขงจื๊อ…
~ซึ่งแตกต่างจากระบบพรรคการเมืองในตะวันตก…ที่ใช้ระบบการเสนอตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ที่ต่างกัน…เข้าแข่งขันในการเลือกตั้ง…เพื่อขึ้นสู่อำนาจบริหาร……คนจำนวนมากในประเทศตะวันตก…เพียงแต่เห็นด้วยว่า…ระบบการแข่งขันเลือกตั้ง…จากหลายพรรคของตะวันตก…เป็นระบบการปกครองที่ถูกกฎหมายแค่นั้น ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ตื้นเขินมาก(ไม่มีประสิทธิภาพ แต่?)
~ครั้งหนึ่ง…ผมพบกับนักวิชาการอเมริกันที่มีขื่อเสียงท่านหนึ่ง…ซึ่งถามผมถึงความชอบธรรม…และถูกกฎหมาย…ของระบบการปกครองของจีน…แต่ผมถามเขากลับไปว่า …ทำไม…คุณไม่ลองตั้งคำถามก่อนว่าระบบการปกครองของอเมริกันบ้านเรา…มีความชอบธรรม…และถูกกฎหมายจริงหรือเปล่า ?
~เพราะสหรัฐฯยึดดินแดนของอินเดียนแดง…เป็นอาณานิคม…แล้วอพยพเข้ามาอยู่อาศัยแทน…และ…กำจัดชาวอินเดียนแดงออกไปเพื่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนี้
~ผมขอให้เขาอธิบายว่าการกระทำของสหรัฐฯ …มีความถูกต้องชอบธรรมอย่างไร …ในที่สุด…เขาก็ตอบว่ามันก็เป็นแค่ประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งเท่านั้น
…เราจะตั้งคำถามในเรื่องความถูกต้องชอบธรรมและถูกกฎหมายของระบบการปกครองตะวันตก …โดยใช้หลักการ/แนวความคิด…ในการคัดเลือกและเลือกผู้มีความสามารถ…แบบในประเทศจีนได้หรือไม่ (การสอบจอหงวนบุ๋น และ บู๊)
~ ประธานาธิบดีบุชจูเนียร์ (คนที่เป็นลูก) บริหารสหรัฐฯ โดยทำให้เกิดเศรษฐกิจตกต่ำในช่วง 8 ปีที่เป็นผู้นำ และสร้างความหายนะ…แก่ประเทศอิรัก…โดยข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง…จนในปัจจุบัน ก็เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าไม่เป็นความจริงที่สหรัฐตั้งข้อกล่าวหาต่ออิรักว่า ซัตดัมผลิตอาวุธที่มีอานุภาพอันตรายร้ายแรงต่อโลก…รวมถึง…สหรัฐเอง เป็นผู้ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกด้วย
~จุดเด่นสำคัญของความถูกต้องชอบธรรมในการมีอำนาจปกครอง…ตามประวัติศาสตร์จีน …คือ…ประเพณีทางการเมือง…ในการคัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถ…ในการบริหารและปกครองประเทศ…เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับ…และความสนับสนุนจากประชาชนจีน
~ในวัฒนธรรมทางการเมืองของจีน…มีแนวคิด/หลักการแก้ปัญหาทีละเรื่อง แก้ปัญหา…ทีละอย่าง (one game at a time) และ…มีความสามัคคีรวมพลังทุกฝ่าย…เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้ผู้เดือดร้อน (hardship on oneside, support from all sides) ซึ่งประเทศอื่น…ไม่มีวัฒนธรรมเช่นนี้
~ครั้งหนึ่ง…ผมเคยแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องระบบการปกครองของจีน…กับนักวิชาการอินเดีย …ชาวอินเดียกล่าวว่า…ภาพที่เห็นการปกครองของจีน…เป็นการรวมศูนย์อำนาจ (Centralized) …ในความเป็นจริง…การปฏิรูปทุกครั้ง…จะมีพลังการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง…มาจากท้องถิ่นต่างๆ…มีทั้งแง่มุมของการแข่งขันและการช่วยเหลือ/การร่วมมือกันดังนั้น…ระบบของจีนจึงดีกว่าของอินเดีย …เพราะมีพลวัต/ยืดหยุ่น …ปรับเปลี่ยน…เคลื่อนไหว …และมีพลังตลอดเวลา (dynamic)
~จีนได้ศึกษาบทเรียนของตะวันตก…และได้จัดตั้งระบบการปกครอง…ที่มีอำนาจสูง…และทันสมัยขึ้น…รวมถึงมีเอกลักษณ์…และวัฒนธรรมทางการเมืองของตนเอง…ด้วยองค์ประกอบทั้งสองด้าน…ที่จีนนำมาใช้ประโยชน์ได้สำเร็จ…ทำให้เรา/ประเทศตะวันตก …สามารถนำมาใช้เป็นแบบอย่าง…ในการเอาชนะปัญหาต่างๆที่เราเผชิญอยู่ ในระบอบประชาธิปไตย…เช่น
~ปัญหาในระบอบประชาธิปไตย ที่ใช้ระบบประชานิยม(Populism) ในการหาคะแนนเสียง ปัญหาการมองประโยชน์เฉพาะหน้า/มองการณ์สั้นๆ(short-sightness) และปัญหาการติดยึดกฎระเบียบกฎหมายต่างๆ (Legalism) ฯลฯ
~ซึ่งเป็นปัญหาและโรคร้ายที่เกาะกิน…ระบบประชาธิปไตยของตะวันตก…ในทุกวันนี้…รวมถึงเรื่องปัญหาอื่นๆ ด้วย
~ในมุมมองทางการเมืองชาวตะวันตกจำนวนมากคาดว่า (Take it for granted) ถ้าจีน…มีการพัฒนาต่อไป…และจำนวนชนชั้นกลาง…ในระบบการปกครองของจีนเพิ่มในสัดส่วนที่สูงขึ้น…การเมืองของจีน…จะยิ่งทวีความขัดแย้งเพิ่มขึ้น แต่ข้อเท็จจริงในขณะนี้พบว่ากลุ่มชนชั้นกลางในจีน…เป็นกลุ่มชนที่เห็นความสำคัญของเสถียรภาพ…ทางการเมืองจีน…สูงกว่ากลุ่มชนชั้นอื่นๆ…กลุ่มชนชั้นกลาง…ตระหนักดีว่าระบบประชาธิปไตยของตะวันตกเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย …ความขัดแย้ง…และการจราจล …ในหลายประเทศ
~ชนชั้นกลางของจีน…ตระหนักดีว่า…ความมั่งคั่งร่ำรวย…ที่สะสมมาด้วยความยากลำบาก…ในช่วงกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา …ได้รับการเอื้ออำนวยอย่างมาก…จากความมั่นคงทางการเมือง…ที่ต่อเนื่องยาวนานกว่า30 ปี ของจีน
~ผมอาจพูดตรงๆได้ว่า …ประเทศจีนในขณะนี้ …ได้แสดงให้เราชาวตะวันตกเห็นชัดเจนว่า…ไม่ควรอธิบายอย่างง่ายๆ…ด้วยความหลงตัวเอง…ที่ยกตัวเองเหนือกว่าขาติอื่น…หรือ…ให้ความหมายตื้นๆของคำเหล่านี้ คือ ก้าวหน้า (advanced)…ความล้าหลัง (backwardness)… ประชาธิปไตย (democracy) …ระบบเผด็จการ (autocracy) …สิทธิมนุษย์ชนสูง(highhuman rights)…สิทธิมนุษย์ชนต่ำ(lowhuman rights)
~คำกล่าวปราศัยข้อหนึ่งของผู้นำจีน...“เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล…สำหรับชาวจีนทุกคนที่จะมุ่งมั่น…จริงจัง…และทำให้ครอบครัวของพวกเขา…เป็นครอบครัวที่รักชาติจีน (It is veryworthwhile for every Chinese to take a serious look and have a patriotic family!)”ที่ในระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตกไม่สามารถทำได้...
กราบขอบพระคุณศ. ดร. เขียน ธีระวิทย์ ที่กรุณา forward มาให้ และขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ
วิจารณ์พานิช
๑๘ม.ย. ๖๓
ไม่มีความเห็น