เช้ามืดวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ผมออกจากบ้านไปเดินออกกำลังในหมู่บ้าน พร้อมกับฟังข่าวจากวิทยุ เอฟเอ็ม ๑๐๐.๕ มีแต่ข่าวโควิด ๑๙ ในแง่มุมต่างๆ รวมทั้งข่าวมิจฉาชีพที่หากินจากสถานการณ์โควิด และมีข่าวเว็บกระทรวงการคลังล่ม เพราะมีคนรุมเข้าไปลงทะเบียนขอเงินช่วยเหลือคนละ ๕ พันบาทต่อเดือนเป็นเวลา ๓ เดือน เป็นจำนวนถึง ๒๐ ล้านคน โดยที่เขาคาดคะเนไว้เพียง ๒ ล้านคน สรุปได้ว่าสถานการณ์การระบาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และข่าวออกมาชัดเจนขึ้นว่า เราจะต้องทนไป ๑๒ ถึง ๑๘ เดือน จึงจะมีวัคซีนมาช่วย
เช้านี้อากาศร้อน ๒๗ องศา และอับลม ผมเดินไปบอกตัวเองไปว่าร้อนคือร้อนอากาศ แต่ไม่ร้อนใจ ทำจิตใจให้สงบและหาความสุขจากธรรมชาติรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงนกร้อง เช้ามืดเช่นนี้เสียงที่ไพเราะมากคือเสียงนกปรอดหน้าขาว สลับกับเสียงนกเขา แทรกเสียงนกตีทอง สักครู่ก็มีเสียงดุเหว่าแว่ว แปลกที่เช้านี้นกกางเขนยังไม่ตื่น
เพราะออกไปเดินตอนยังมืดอยู่ จึงได้เสพความสดชื่นเฉพาะทางโสตประสาท ไม่ได้เสพความสดชื่นทางจักษุประสาท แต่ผมก็มีภาพดอกไม้งามที่ถ่ายในวันก่อนๆ ตามบ้านของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน เอามาให้ดูว่าผมเป็นคนมีบุญเพียงไร ต่อการมีชีวิตที่มีความสุขสดชื่น แม้จะร้อนระอุอากาศและโควิด ๑๙
กลับมาถึงบ้าน จักจั่นร้องต้อนรับเสียงระงม
วิจารณ์ พานิช
๓๐ มี.ค. ๖๓
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
Take care ครับอาจารย์