หลังเลิกงานเกือบทุกวัน ผมไปคลุกคลีตีโมง กับ "ชาวบ้าน" งานเกษตรทฤษฎีใหม่ภาคปฏิบัติ ผ่านไปหลายเดือน ผมตกผลึกถึงเหมือนและความแตกต่างของ "ชาวบ้าน" กับ "ชาวเมือง" อย่างน้อย ๒ ประการ ดังต่อไปนี้
๑) ค่านิยม ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย นี่คือ "วิธีคิดหนึ่งที่นำมาสู่การเผาเศษวัสดุต่างๆ เผาต่อฟางเผาไม้ในคันนา ข้างถนน หรือแม้แต่ในที่นา ที่นาต้องไม่รก หญ้าคือศัตรูตัวฉกาจของการเกษตร เห็นหญ้าแห้ง ๆ ไม่ได้ เป็นอันต้องใช้ไฟเผา ... แปลงเกษตรฯ ของผมซึ่งไม่คิดว่าหญ้าคือศัตรู หญ้าเป็นวัสดุคลุมดินและปุ๋ยอินทรีย์ในอนาคต จะถูกแซวบ่อย ๆ
๒) ค่านิยม เงินสำคัญที่สุด ถ้า "ชาวบ้าน" ไปหาปลา แล้วได้ปลาตัวโต ๆ เขาจะคัดเอาไปขาย เหลือขายค่อยกิน ครอบครัวจึงได้กินแต่ปลาตัวกลางเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ตายและเหลือจากการขาย ... ค่านิยมแบบนี้ทำให้ "ชาวเมือง" คนมีเงินในระบบทุนนิยมจึงรู้สึกว่า "เงิน" เนรมิตรได้ทุกอย่าง
คุณครูทุกคนควรจะศึกษาเรื่องนี้ และเติมปัญญาที่จำเป็นในการมองเห็น "คุณค่าแท้" "คุณค่าเทียม" ให้กับเด็ก ๆ
ถึงวันหนึ่ง .... ผู้ผลิตอาหารจะไม่หลงกลตกเป็นทาสทางการเกษตร จะผลิตเท่าที่จำเป็น และแบ่งปันสำหรับผู้ที่สมควรได้รับ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่มีเงิน เงินจะต้องไร้ค่าไปในเร็วพลัน จะเหลือเพียงการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเท่านั้น
ไม่มีความเห็น