กักตัวอยู่กับบ้านตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด มีเวลาได้อ่านหนังสือหลายเล่ม
“ประวัติการศึกษาไทย” ของอาจารย์พงศ์อินทร์ ศุขขจร อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยครูจันทรเกษม เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมได้อ่าน ซึ่งท่านเขียนเล่าเรื่องการศึกษาของไทยไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2512 ทำให้เข้าใจเรื่องการศึกษาบ้านเราได้มากขึ้น ผมเกรงว่าหนังสือเล่มนี้จะสูญหายไป ก็เลยนำข้อเขียนของท่านมาแบ่งปันกันอ่าน โดยเลือกเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆมานำเสนอ และแบ่งเป็นตอนๆไปครับ
---------------------------
เมื่อสิ้นรัชกาลที่ 2 แล้ว เหตุการณ์ในประเทศเริ่มผันแปรผิดแปลกไปจากที่เคยเป็นมาแล้วในอดีต เพราะสภาพการณ์ของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก บรรดาประเทศใกล้เคียงของเรากำลังประสบชะตากรรมจนกระทั่งในที่สุดถึงขั้นสูญเสียเอกราช โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศพม่ากำลังมีเรื่องกับอังกฤษ เพราะฉะนั้นเราจึงพบกับความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง คงมีแต่การสงครามเล็ก ๆ น้อย ๆ กับชาติที่อ่อนแอกว่าพม่าข้าศึกเดิม เช่น ปราบพวกเจ้าอนุวงศ์บ้าง เขมรบ้าง และกระทบกระทั่งกับญวนบ้าง
ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นไป เราต้องติดต่อกับชาติตะวันตกมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ เป็นการติดต่อกับชาติจักรวรรดินิยมที่กำลังกระหายอาณานิคมเป็นอันมาก ฉะนั้นประเทศเราจึงตกอยู่ในฐานะที่ยากลำบากต้องระมัดระวังการดำเนินนโยบายการต่างประเทศเป็นพิเศษ ถ้าหากพลาดพลั้งไปแม้แต่น้อยก็จะต้องตกไปเป็นอาณานิคมของพวกตะวันตกโดยไม่ต้องสงสัย แต่เดชะบุญที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ สุขุมคัมภีรภาพ ทรงรอบรู้เหตุการณ์ที่ผันแปรของโลก และตระหนักในสมรรถภาพของชาติ เมื่อเปรียบเทียบกับของชาติตะวันตกว่ามีแค่ไหนเพียงไร จึงดำเนินวิเทโศบายชนิดผ่อนผันสั้นยาวด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ยอมเสียเมื่อถึงคราวจำเป็นจะต้องเสีย เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีชาติตะวันตกเข้ามาติดต่อหลายชาติด้วยกัน อังกฤษเป็นชาติที่พยายามจะผูกไมตรีกับเราให้ดีที่สุดในตอนต้นรัชกาล เพราะกำลังทำสงครามกับพม่า และเห็นว่าพม่ายังมีกำลังมากและเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ส่วนอังกฤษนั้นมีกำลังไม่พอเพียงแก่การที่จะทำสงครามขนาดใหญ่ จึงพยายามผูกมิตรไมตรีกับเราเพื่อเอาใจเราให้ไปช่วยรบกับพม่า อังกฤษไม่ต้องการให้เราขัดเคืองเรื่องที่เกี่ยวกับเมืองไทรบุรี ที่อังกฤษเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ต่อมาภายหลังเมื่ออังกฤษรบชนะพม่าโดยเด็ดขาดแล้ว ท่าทีของอังกฤษที่มีต่อเราก็เริ่มแข็งกร้าวขึ้น
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ยังไม่ได้ครองราชย์ งานที่ทรงโปรดอย่างยิ่งก็คือการสร้างวัด ปรากฏว่าในรัชสมัยของพระองค์ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดทั้งในพระนครและนอกพระนครถึง 35 วัด สร้างขึ้นใหม่ 4 วัด เจ้านายและขุนนางสร้างขึ้นทั้งที่ถวายเป็นวัดหลวงและไม่ได้ถวายอีก 5 วัด บูรณะปฏิสังขรณ์อีก 25 วัด ที่เป็นวัดเล็ก ๆ อีกมากมาย จึงมีคำกล่าวว่าในรัชกาลที่ 3 นั้น ใครสร้างวัดเป็นคนโปรด บรรดาเชื้อพระวงศ์และข้าราชการเศรษฐีมีทรัพย์นิยมการทำบุญให้ทาน
การสอบไล่พระปริยัติธรรมก็ทำกันอย่างจริงจัง ให้พระภิกษุสามเณรเข้าไปศึกษาพระปริยัติธรรมได้ในพระมหาปราสาทและจัดการสอบไล่ภายในพระบรมมหาราชวัง มีภิกษุสามเณรสอบได้เปรียญเอก โท ตรี คราวหนึ่ง ๆ เป็นอันมาก องค์ใดได้เลื่อนเป็นพระราชาคณะ บรรดาญาติโยมที่เป็นไพร่หลวงหรือไพร่สมอยู่ก็โปรดยกพระราชทานให้เป็นโยมสงฆ์ พ้นจากการเป็นไพร่ ที่เป็นทาสเขา ทรงออกพระราชทรัพย์ไถ่ถอนจากนายเงินขึ้นเป็นไทแก่ตัว
ติดโควิด ก็ติดตามบทความดีๆของพี่ทางนี้ครับ
ผอ.ปรีชา เป็นสมาชิก gotoknow ด้วยขอบใจนะน้องที่ติดตามอ่านบันทึกของพี่ ดูแลสุขภาพนะ