ไม่เกี่ยวข้องกันเลยสักนิดกับเรื่องราวของรัฐบาลในเวลานี้ ที่กำลังจะซื้อยุทโธปกรณ์เพื่อกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถถัง หรือเรือดำน้ำ...
ในยามศึกสงครามแบบนี้..ไม่อยากคิดว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ควรหรือไม่ควร.......
พอดี..เหลือบไปเห็นรถน้ำของเทศบาล ที่วิ่งบรรเทาภัยแล้งให้ชุมชนในเขตบริการ กับภาพข่าวที่มีคนใส่ชุดคลุมร่างอย่างมิดชิด สะพายถังน้ำยา เดินฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามบ้านเรือนและทุกตรอกซอกซอย..
ตราบใด..ที่โควิดยังติดง่ายและฟุ้งกระจายไปทุกหย่อมหญ้า ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องวิตกกังวล ผมคิดว่า..การเอาน้ำยาฆ่าเชื้อใส่รถน้ำที่เป็นรถดับเพลิงแล้วฉีดพ่น โดยมีเจ้าหน้าที่ถือสายยางอันหนักอึ้ง..น่าจะไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสม..
รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สะพายถังฉีดพ่น ก็น่าจะไม่คลอบคลุมทั่วถึง....
อย่ากระนั้นเลย..ผมจึงคิดออกแบบรถถังโควิด๑๙..จากนั้นก็จะเสนอไปยังฝ่ายเทคโนโลยียานยนต์ระดับประเทศ และผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องกล เพื่อหารือและออกแบบรถถังรุ่นใหม่..
เราจะไม่เรียกว่ารถแท๊งค์(น้ำ) แม้ว่าจะไม่ได้หุ้มเกราะไม่มีตีนตะขาบ แต่สมรรถนะและรูปร่างใกล้เคียงกัน ส่วนที่ต่างกันอย่างชัดเจนก็คือ.เคลื่อนที่ได้เร็วกว่า..
ลองนึกดูครับ..ลำกล้องปืนใหญ่บนรถถัง แทนที่จะใช้กระสุนเพื่อยิง แต่แท้จริงคือท่อ(ปืน)แทนที่กระสุนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ตัวถังของรถจะลึกและกว้าง จุน้ำยาได้ประมาณ ๕,๐๐๐ ลิตร
คอนโซลหน้ารถ มีแผงควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มีกระจกมองได้รอบทิศทาง ตัวปืนหรือท่อยิง..ปรับสูงต่ำได้ทุกระดับ และหมุนได้โดยรอบ ๓๖๐ องศา
ปากลำกล้อง..ก็ปรับขนาดได้ จะให้น้ำพุ่งในรูปแบบไหน เป็นเม็ดฝนหรือละอองฝอย ปรับน้ำหนักเบาหรือรุนแรงได้ตามความต้องการของแต่ละพื้นที่
โควิด ๑๙ คงจะอยู่กับเราไปอีกนาน การคิดอ่านเรื่องรถถังใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อฉีดพ่นตามบ้านเรือนและชุมชน ก็คงจะยังไม่สายเกินไป..
ลองนึกภาพอีกครั้ง..หากมีรถถังแบบที่ว่านี้..ทุกอำเภอ..ทุกอบต./เทศบาล..ทำงานทุกวัน..เวียนไปทุกหมู่บ้าน ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ เอาแบบที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน แต่ทำให้โควิดไม่อดทนที่จะอยู่เมืองไทยอีกต่อไป..
รถถัง..จอดที่ไหน..จะต้องทำงานได้นาน ฉีดพ่นได้ซ้ายขวาหน้าหลัง พรมทุกหลังคา ฉีดพ่นรอบอาคารบ้านเรือน คอกสัตว์และฟาร์มขนาดใหญ่ ตลอดจนถนนหนทางต่างๆ
อาจมีคนย้อนแย้งว่า..จะคุ้มเหรอ..ก็มิอาจตอบได้ แต่ให้คิดว่าวันนี้เรามีสงครามอยู่จริง เจ็บจริงตายจริงยิ่งกว่าสงครามโลกด้วยซ้ำ.ทำไม?..เราถึงไม่คิดวิธีการป้องกันที่ยั่งยืน
หาก..โควิด๑๙ เกิดใจเสาะ อยู่กับเราไม่นาน..รถถังคันนี้ก็สามารถประยุกต์ใช้นำไปฉีดน้ำยาป้องกันไข้เลือดออก และฉีดพ่นหมอกควัน ลดปัญหาPM 2.5 ก็ได้
ผมก็แค่ออกแบบความคิด..บริษัทไหนผลิตก็จดลิขสิทธิ์กันเอาเอง ใครทำก่อนได้เปรียบ ส่งจำหน่ายขายทั่วโลก ขายได้และขายดีอย่างแน่นอน นำเงินเข้าประเทศได้มหาศาล และน่าจะขายดีกว่ารถถังในวงการทหารเสียอีก ซึ่งหลายประเทศเขาไม่คิดจะซื้อกันแล้ว..
ผมคิดว่า..เรื่องนี้..ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์น่าจะปรึกษาผู้นำประเทศก็ได้ เผื่อท่านจะเห็นดีเห็นงาม..อย่างน้อยก็เป็นวิธีการหยุดเชื้อเพื่อชาติ แถมยังมีรายได้เข้าประเทศ..ก่อนที่การเงินการคลังของประเทศจะหมดลงเสียก่อน..
ดีไม่ดี..รัฐบาลอาจเปลี่ยนใจ ติดต่อขายดาวน์รถถังและเรือดำน้ำที่สั่งซื้อไปก็เป็นได้..หันมาใส่ใจสุขภาพประชาชน ด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดด้วยรถถังพลังน้ำ
อย่าลืมเขียนข้างรถถังด้วยนะว่า..ใช้เพื่อการสาธารณสุขเท่านั้น...
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓ เมษายน ๒๕๖๓
ไม่มีความเห็น