ตอน Relation หรือ Reception
งานประชาสัมพันธ์นั้น บางครั้งผลที่ได้ไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขหรือสถิติ บางครั้งค่าที่ได้กลับมามีคุณค่าเกินกว่าจะประเมินเป็นราคา เช่น ภาพลักษณ์ ความเชื่อถือ ความศรัทธา ความรู้สึกที่ดีต่อหน่วยงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วยากที่จะลบเลือน และสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นสิ่งที่ต้องสะสมอย่างต่อเนื่องกันมายาวนาน ประชาสัมพันธ์ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อ
ปัจจุบันมีคำที่กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากก็คือ การทำประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก นั่นหมายถึงผู้ที่เป็นนักประชาสัมพันธ์จะต้องมีคุณสมบัติในการวางแผน การวิเคราะห์สถานการณ์ มีความสามารถทางด้านการพูด การเขียน (ที่ไม่ใช่เขียนแบบน้ำท่วมทุ่ง หรือเขียนแบบนวนิยายที่อ่านไปพลางตบยุงไปพลาง) มีความสามารถในการติดต่อสื่อสาร ประสานงาน บุคลิกดูดี ไม่จำเป็นต้องสวย เพราะความสำเร็จ ของการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เข้ามาประยุกต์ร่วมใช้ ต้องรู้จักยืดหยุ่น พลิกแพลงสถานการณ์ สามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงด้วยดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความสามารถเฉพาะตัว และความชำนาญของแต่ละบุคคล
หากมีความสวยเป็นที่ตั้งแต่ทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างแม้แต่เครื่องใช้สำนักงานก็ใช้ไม่เป็น ระวังจะถูกประณามได้ว่า สวย แต่ โ....
มีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับงานประชาสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่น่าเสียดายที่ท่านเหล่านั้นแยกไม่ออกว่า Relation กับ Reception มีความต่างกัน
ในขณะที่ต้องการให้ทำประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก แต่มอบหมายภาระหน้าที่ไม่รู้สิ้นสุดจนลุกไม่ขึ้นมาให้จึงกลายเป็นว่าในหนึ่งวันงานประจำที่ทำหมดไปกับการทำหน้าที่ Reception and Service เสียมากกว่า
ลองพิจารณาดูขอบข่ายภาระหน้าที่ตามสายงานให้ดี ๆ มิใช่ว่างานที่ไม่มีใครทำ งานที่หาคนรับผิดชอบไม่ได้ ท่านก็ให้เกียรติประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบเสีย รวมถึงงานที่หลวมตัวมีน้ำใจกลับกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกยินดีที่จะยกมอบให้เป็นรับผิดชอบตลอดกาลอันเนื่องมาจากคำว่าก็เคยทำมาก็ต้องทำต่อไป
นี่ยังไม่นับกรณีเหตุเจ้าหน้าที่ของส่วนงานไม่มาหรือว่าไม่ว่างก็เรียกประชาสัมพันธ์หรือยกงานมาให้ประชาสัมพันธ์ช่วยพิมพ์ ช่วยถ่ายเอกสารซะอย่างนั้น ยังไม่นับงานบริการที่อยู่ในสายงาน อาทิ รับ ต่อ โอน โทรศัพท์ ตอบคำถาม บริการข้อมูลผู้มาติดต่อด้วยอัธยาศัยไมตรีและรอยยิ้ม ยังมีการบริการนอกเครือข่าย เช่น น้ำไม่ไหล ไฟไม่มา โทรศัพท์เสีย สุขาเต็ม เป็นต้นอีกต่างหาก เพราะประชาสัมพันธ์ต้องบริการ
หนึ่งวันจึงหมดไปกับการทำหน้าที่ Reception and Service มากกว่า Relation ทั้งที่ Reception เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Relation
เหตุนี้จึงกลายเป็นว่าไม่ใช่ประชาสัมพันธ์ที่ไม่ทำงานในเชิงรุก แต่กลับเป็นประชาสัมพันธ์กำลังลุกไม่ขึ้นต่างหาก
ดังนั้นหน่วยงานต้องแยกให้ออกว่า Relation กับ Reception นั้น มีความต่างกัน
สวัสดีค่ะป้าเม้า
ติดตามอ่านบล็อกมานานตั้งแต่ยังไม่ได้สมัครสมาชิก วันนี้ได้ฤกษ์เปิด(เผย) ตัวเองเสียทีค่ะ อ่านเรื่องนี้รู้สึกโดนใจอย่างจังค่ะ โดยเฉพาะตรงประโยค งานที่ไม่มีใครทำ งานที่หาคนรับผิดชอบไม่ได้ ท่านก็ให้เกียรติประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบเสีย รวมถึงงานที่หลวมตัวมีน้ำใจกลับกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกยินดีที่จะยกมอบให้เป็นผู้รับผิดชอบตลอดกาลอันเนื่องมาจากคำว่าก็เคยทำมาก็ต้องทำต่อไป
ทำงานพีอาร์มานานแต่ไม่เคยได้รับการเห็นว่าสำคัญสักเท่าไรค่ะ เมื่อเทียบกับสายงานหลักในองค์กรที่เราอาศัยอยู่ งานสะเปะสะปะที่ได้รับมอบหมาย เรายินดีทำ ทำเสียจนเกิดความชำนาญไปเลยก็มี (บางทีเหมือนจะไปแย่งงานตำแหน่งอื่นทำด้วย) ควบคู่กับความเคยชินของผู้ติดต่อใช้บริการเรานะคะ แต่นั่นเราก็ไม่ว่ากัน เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราสามารถทำอะไรได้มาก (ไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ) สามารถคิดเรื่องงานเป็นระบบ ตีโจทย์ออก รู้วิธีทำตัวให้สนุกกับงานด้วยซ้ำค่ะ ทว่ายุคนี้แต่ละหน่วยงานก็เร่งเร้าให้เราทำประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกกันจังนะคะ แต่ (อีกนั่นแหละค่ะ) ท่านก็ไม่ค่อยจะสนับสนุนงบประมาณ ตามที่เราร้องขอ สำหรับการใช้งานสื่อทันสมัยต่าง ๆ ที่เราหวังจะนำมาเป็นตัวช่วยสร้างภาพลักษณ์ ในระยะยาว เพราะมันราคาแพงนะคะ
จะติดตามงานของป้าเม้าไปตลอดค่ะ