การให้สุขภาพถ้วนหน้าแต่ปราศจากการทดสอบถ้วนหน้า การมาถึงในการทดสอบช้าในประเทศไทยอาจค่าใช้จ่ายมากมาย

โดยปกติประเทศไทยได้รับเกียรติในเรื่องระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และการให้สุขภาพแบบถ้วนหน้า ความแข็งแกร่งของระบบสุขภาพคือการให้ความสำคัญกับการรณรงค์เรื่องสุขภาพและการรักษาสุขภาพขั้นปฐม ซึ่งมันจะบ่งชี้และสนับสนุนประชาชนในเรื่องปัญหาสุขภาพโดยผ่านเจ้าหน้าที่สุขภาพระดับชุมชน ที่น่าประทับใจคือประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับกลางที่อยู่ในระดับต้นๆของดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพของโลก ซึ่งจะให้แก่ประเทศที่มีความสามารถในการรักษาสุขภาพที่เกิดขึ้นจริง เช่น โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ

เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพระบบสาธารณสุขไทย ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมประเทศไทยจึงไม่มีความพร้อมในการทดสอบโรคโควิท 19 ให้มากกว่านี้เสียที ประเทศไทยยังคงทดสอบเพียงแค่คนที่มีความเสี่ยงทางโรคระบาดเท่านั้น เช่น คนที่เดินทางไปต่างประเทศสู่ประเทศที่มีโรคเกิดขึ้น และมีอาการถึงเข้าโรงพยาบาลเท่านั้น คนเป็นจำนวนน้อยที่จะผ่านการทดสอบ

สิ่งนี้ไปกันได้กับรายงานว่าคนที่สงสัยว่าติดเชื้อ และไม่ได้รับการทดสอบ และถ้าคนไข้ต้องการที่จะทดสอบ พวกเขาต้องควักเงินจ่ายเอง ค่าใช้จ่ายมีจำนวนสูง โรงพยาบาลเอกชนยิ่งแพง บางครั้งถึงกับทำให้คนป่วยไม่อยากไปรักษาที่นั่น โดยรวมทั้งหมดคนประมาณ 6,000 คนที่ได้รับการทดสอบ และจะได้ผลประมาณวันที่ 22 มีนาคม คิดเป็นก็ราวๆ 100 การทดสอบต่อประชากรล้านคน สิ่งนี้ทำให้ประเทศไทยมีอัตราการทดสอบที่ต่ำที่สุดในโลก

การทดสอบโควิท 19 จำเป็นต้องอาศัยการนำเข้าหลายประการ เช่น การเก็บตัวอย่าง, เครื่องมือห้องทดลอง, เครื่องมือในการป้องกันส่วนบุคคล (PPE) มีหนึ่งในการนำเข้าสามารถเป็นตัวจำกัด ซึ่งต้องมีทั้งหมด

การตรวจสอบที่จำกัดมีหลายเหตุผล หมอไทยหลายคนไม่ต้องการคนไข้ที่มีอาการเล็กน้อยมาทดสอบ เพราะหากผลเป็นลบ คนไข้จะรู้สึกว่าตนเองปลอดภัยจากไวรัส ซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้ทางสังคมโดยคนไข้เอง ในขณะที่มีความเป็นจริงที่ว่าผลที่เป็นลบ จะทำให้เชื้อโรคมีคนติดมากขึ้น แต่ข้อเป็นจริงที่ใหญ่กว่านั้นมากคือการแพร่เชื้อโดยที่ไม่ได้วินิจฉัย ความสามารถของไวรัสในการแพร่เชื้อก่อนที่อาการที่หนักขึ้นหมายความว่าผู้คนไม่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านหรืออยู่ในบ้านน้อยครั้ง ถ้าพวกเขาไม่แน่ใจว่าติดเชื้อแล้วเท่านั้น รัฐบาลและสาธารณชนต่างตำหนิเยาวชนที่มีพฤติกรรมทางสังคมที่ไม่รับผิดชอบในการอยู่ร่วมกันตอนกลางเดือนมีนาคม แต่มันจะสมเหตุสมผลในการสรุปว่าหากเป็นเรื่องง่ายที่มีการทดสอบ พวกวัยรุ่นจะรู้ถึงสถานภาพและเก็บตัวอยู่บ้าน

เหตุผลอีกอันหนึ่งในการทดสอบที่มีอยู่อย่างจำกัดคือความสามารถที่ถูกจำกัดด้วย สิ่งนี้จริงบางส่วน ในขณะที่ประเทศไทยขยายความสามารถในการทดสอบไปยังตัวอย่างเป็นจำนวนหลายพันต่อวัน แต่ความขาดแคลนในเคมีก็เกิดกับห้องทดลองจนไม่สามารถจะตรวจได้ การเตือน 2 เดือนล่วงหน้า ความพยายามคือการผลิตเคมีที่ใช้ตรวจ

อย่างไรก็ตาม กำไรจากการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจยังคงฟุบต่อไป ตอนจุดเริ่มต้นของแพร่กระจาย นโยบายของรัฐบาลคือต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ในขณะที่ประเทศอื่นๆสั่งห้าม ตอนนี้ประเทศจีนประกาศว่าควบคุมไวรัสได้ในประเทศแล้ว แต่เจ้าหน้าที่พูดว่าพวกเขาเตรียมตัวการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง เรื่องเล่าจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทำเนียบรัฐบาลเป็นไปในทำนองว่าประเทศไทยยังไม่เกิดการติดเชื้อในชุมชน (ที่พวกเขาเรียกว่าระดับ 3) การยังคงเรื่องเล่า ถึงแม้ว่าจะขัดแย้งจากสถานการณ์จริงเพียงใดสามารถถูกประเมินได้ว่าเป็นเพียงความต้องกาในการจำกัดผลของคำปฏิญญาทางเศรษฐกิจเท่านั้น

จุดมุ่งหมายคือพยายามจะบ่งชี้คนติดเชื้อน้อยกว่า และเพิ่มการไม่ให้เผยแพร่ทางสาธารณะ ในตัวอย่างที่เหมาะสมคือ คนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งมีผลเป็นบวก เขารับผิดชอบต่อตนเอง และพยายามเผยแพร่เนื้อหาการเดินทาง และเตือนคนอื่นๆให้รู้ถึงสภาพที่เป็นอยู่ นี่คือองค์ประกอบที่สำคัญของผู้สัมผัสโรค ต่อมารัฐบาลตั้งข้อหาเขาในเรื่องการฝ่าฝืนพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

ความสำคัญของการทดสอบไม่ใช่เรื่องโม้เกินจริง การถอยห่างทางสังคม (social distancing) ยังไม่เพียงพอ องค์การอนามัยโลกกระตุ้นให้ทุกประเทศทดสอบคนที่น่าสงสัย เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกชี้แจงว่า ความพยายามเหล่านี้ควรผสมไปกับการมีผู้สัมผัสโรคและการแยกขาดจากสังคม การศึกษาหลายแห่งเสนอว่ายิ่งหาคนที่ติดเชื้อได้ตั้งแต่เริ่มต้น และการแยกขาดจากสังคมมีประสิทธิภาพมากกว่าการห้ามการเดินทาง และยิ่งมีการรักษาตั้งแต่เริ่มต้นก็ยิ่งลดระดับการแพร่เชื้อมากขึ้นเท่านั้น ประสบการณ์จากฮ่องกง, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, และไต้หวันสอดคล้องกับการวิจัย

หากไม่มีการทดสอบ ประเทศของเราจะเดินทางไปสู่ความมืด ในขณะที่ประเทศพัฒนาอาจพลาดหนึ่งในสิบของผู้ติดเชื้อ แต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจพบเจอได้หนึ่งในแปดร้อยหรือสองพัน ผลของการไม่เจอผู้ติดเชื้อสามารถสั่นสะเทือนถึงยุทธวิธีของประเทศ หากไม่มีข้อมูล นโยบายก็จะเหมือนๆกัน หากไม่มีผลไปในทางบวก การมีผู้สัมผัสโรคก็จะไม่มี หากไม่รู้สถานภาพ ปัจเจกบุคคลก็จะรวมตัวกันมากขึ้น ดังนั้นทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องถูกกระตุ้นให้สร้างการตอบในกรณีนี้ด้วย

ความล่าช้า หรือความไม่มั่นใจกับการทดสอบอาจส่งผลที่ไม่สามารถแก้ไขได้

หลายๆประเทศกำลังต่อสู้กับการทดสอบ ในประเทศสหรัฐ ยังมีความล่าช้าไป 1 เดือน สำหรับการทดสอบที่มีประสิทธิภาพ ออสเตรียก็ขาดน้ำยาทดสอบ การทะเลากันทางการเมืองก็ขัดขวางการทดสอบในอิตาลี อังกฤษตัดสินใจจะไม่ใช่การทดสอบ เราได้เห็นความเติบโตและการตายในทุกประเทศ

ในอีกแง่มุมหนึ่งประเทศอย่างเกาหลีใต้และไอซ์แลนด์ ต่างกะเกณฑ์ภาคเอกชนและห้องทดลองของรัฐเพื่อที่จะทำให้ความสามารถในการทดสอบดีขึ้น ผลของไวรัสในประเทศเหล่านี้ยังคงคงที่ ไม่เพิ่มขึ้น

ถึงแม้ว่าระบบสาธารณสุขพร้อมกับการให้บริการแบบถ้วนหน้าและระบบห้องทดลองแห่งชาติ แต่ความล่าช้าในการทดสอบในหมู่ประชาชน และความผิพลาดในการรับมือกับการติดเชื้อในชุมชนทำให้นักระบาดวิทยาต้องไล่ล่าเชื้อโรคเสียเอง เรายืนบนกระต่ายขาเดียวว่า การทดสอบยิ่งหยุดการติดโรค แต่ตอนนี้มันสายเกินไปเสียแล้ว

ในวันที่ 22 มีนาคม ประเทศไทยได้ก้าวไปถึงจุดที่สำคัญ กล่าวคือ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 100 คนภายในวันเดียว การผ่านขั้นตอนนี้นำไปสู่ความเติบโตที่เหนือกว่าประเทศอื่นๆ นอกจากนี้สถาบัน PUIs ได้สะท้อนภาพการแพร่กระจายของโควิท 19 ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ข้อมูลจากฝรั่งเศสได้แสดงให้เห็นว่าการเกิดขึ้นของไข้หวัดใหญ่มีสหสัมพันธ์กับโรคโควิท 19 และมีแนวโน้มที่จะเป็นการติดโรคที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยด้วย

ในไม่ช้าทางเลือกที่เหลืออยู่คือการปิดเมือง เราเห็นโรงเรียนถูกปิด และหนึ่งจังหวัดได้ปิดตนเองลง ในเดือนเมษายน มีแนวโน้มว่าความเคลื่อนไหวทุกอย่างจะถูกจำกัด เหมือนกรณีของประเทศจีนและอิตาลี ที่สถานการณ์เหนือการควบคุม สิ่งนี้ใกล้เคียงกับสุภาษิตไทยที่ว่า ขี่ช้างจับตั๊กแตน มันอาจมีประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตายหมู่เกิดขึ้น การที่จะทำให้การโต้ตอบของเราชัดเจน คือ เราต้องการข้อมูลที่จะมาบอกพวกเราเอง เราต้องการการทดสอบ และเราต้องการมันตอนนี้  

แปลและเรียงโดย

Anthony C. Kuster. Universal coverage without universal testing: Thailand’s delay in access to testing may be costly.

https://www.newmandala.org/universal-coverage-without-universal-testing-thailands-delays-in-access-to-testing-may-be-costly/