วีรบุรุษขี่ม้าขาว เมื่อไหร่จะมา

#บทความ

วีรบุรุษขี่ม้าขาว เมื่อไหร่จะมา

โดย วาทิน ศานติ์ สันติ (29/3/2560)

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงแสนสวยคนหนึ่ง ถูกกลุ่มโจรลักพาตัวมาจากปราสาทราชวังยังอาคารร้างแห่งหนึ่ง เหล่าโจรพยายามจะลวนลามเจ้าหญิง คนหนึ่งจับแขน คนหนึ่งจับขา คนหนึ่งถอดเสื้อ คนหนึ่งพยายามจะข่มขืน เจ้าหญิงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ "ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! อย่าทำฉันเลย ฉันกลัวแล้ว ไอ้โจรบ้า" ในขณะที่เจ้าหญิงกำลังอ่อนแรง ท้อและสิ้นหวัง น้ำตาอายแก้ม ในขณะที่ไอ้โจรใจทรามกำลังจะยัดเยียดความเป็นชายให้กับเจ้าหญิง เมื่อนั้นเอง แสงสีขาวก็สว่างวาบจากบานประตู และแล้วบุรุษขี่ม้าขาวก็ปรากฏร่างขึ้น

เรามักจะคุั้นชินกับคำว่า "วีรบุรุษขี่ม้าขาวมาช่วย" อยู่บ่อย ๆ ในโลกของนิทาน ภาพยนตร์หรือเรื่องเล่าต่าง ๆ เขามาเพื่อมาแก้ไขสถานการณ์ยามคับขันเช่น ช่วยนางเอกไม่ให้ถูกคนร้ายข่มขืน ช่วยกอบกู้สถานการณ์บ้านเมือง แล้ววีรบุรุษขี่ม้าขาวคือใครกันแน่ ทำไมเขาต้องมาช่วยด้วยละ วันนี้ผมจะอธิบายให้ฟังว่าเขาคือใคร

ในคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์กล่าวถึงพระนารายณ์ผู้เป็นเทพสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ (ร่วมกับพระศิวะและพระพรหมในนาม ตรีมูรติ) พระนารายณ์จะมีหน้าที่ปกป้องรักษา อภิบาล ต่อสู้กับเหล่าร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์และชาวสวรรค์ ดังนั้นเราจะเห็นงานประติมากรรม งานจิตรกรรม ที่แสดงภาพบุรุษ มีหลายมือ ถืออาวุธทุกมือ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะต้องการแสดงให้เห็น ว่าเป็นผู้มีฤทธิ์ สามารถปราบปรามและปกป้องได้

การปฏิบัติหน้าที่ของพระนารายณ์ในการปราบคนพาลอภิบาลคนดีนั้น พระนารายณ์ไม่ต่อสู้เองตรง ๆ แต่จะทรงอวตาร คือการแบ่งภาคลงมา อยู่ในภาคของบุคคล หรือสัตว์ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับเหตุการณ์ต่างๆ หรือผู้ร้ายผู้นั้นด้วย เช่น การอวตารมาเป็นปลาก็เพื่อหนุนรองโลกไม่ให้จมน้ำ การอวตารเป็นหมูป่าก็เพื่อขุดแผ่นดินลงไป ดูๆ แล้ว พระนารายณ์ จะทำหน้าที่เหนื่อยกว่าเทวดาองค์อื่น

ในคัมภีร์นารายณ์ 10 ปาง หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม ลิลิตนารายณ์สิบปาง บทพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กล่าวถึงการอวตารของพระนารายณ์ โดยร้อยเรียงเป็นโคลง และร่าย กล่าวถึงนารายณ์ปางที่ 10 เรียกว่า "กัลกยาวตาล" นับเป็นอวตารปางสุดท้ายของพระนารายณ์ เพื่อทำลายความคดโกง ความโง่เขลา ความสับสนวุ่นวาย ความมืดมน หรือแม้แต่ทำลายผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้า ในยุคกลียุค ซึ่งยังเป็นยุคที่ยังมาไม่ถึง เป็นยุคแห่งอนาคต

คัมภีร์ในศาสนาพราหมณ์ได้แบ่งยุคต่างๆออกเป็น 4 ยุค ดังนี้

สัตยยุค ยุคแห่งสัจธรรมอันมั่นคง ไม่มีความโลภ โกรธ หลง คดโกง เศร้าโศกเสียใจ มนุษย์มีแต่คนดี 100% นับเป็นยุคแรกเริ่มของการสร้างโลกนั้นเอง ยุคนี้มีอายุ 4,800 ปีสวรรค์ หรือ 1,728,000 มีมนุษย์

เตรตายุค ยุคที่มนุษย์มีดีสามส่วน มีคนไม่ดีหนึ่งส่วน มนุษย์ปฏิบัติธรรมเพื่อหวังอานิสงส์จากการปฏิบัติธรรม ยุคนี้มีอายุ 3,600 ปีสวรรค์ หรือ 1,296,000 ปีมนุษย์

ทวาปรยุค ยุคที่มีคนดีและคนเลวในอัตราส่วนที่เท่ากัน คือ ส่วนละ 50 % ยุคนี้มีอายุ 2,400 ปีสวรรค์ หรือ 864,000 ปีมนุษย์

กลียุค ยุคมืดเพราะผู้คนห่างเหินจากพระเจ้าอย่างถึงที่สุด ไม่อยู่ในศีลในธรรม คนเลวมากกว่าคนดี กุศลกรรมและยัญญกรรมจะเสื่อมถอยลงไป ยุคนี้มีอายุ 1,200 ปีสวรรค์ หรือ 432,000 ปีมนุษย์

ทั้ง 4 ยุครวมกันเรียกว่า "มหายุค" เมื่อโลกดำเนินมาถึงมาถึงกลียุค พระนารายณ์จะอวตารเป็นบุรุษขี่ม้าขาว หรือ กัลกี มาปราบคนชั่วคนพาลคนสันดานบาปให้หมดสิ้น แล้วพระอิศวรผู้มีหน้าที่ทำลายล้าง จะทรงเปิดพระเนตรดวงที่สามกลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ไฟบรรลัยกัลป์จะพวยพุ่งออกมาทำลายโลก เพื่อการปรับสมดุลสร้างโลกขึ้นใหม่ให้สะอาดสวยงามราวกับผ้าขาว แล้วโลกก็เข้าสู่ยุคเริ่มใหม่หมุนวนต่อไป

ไม่รู้ว่ายุคปัจจุบันที่เราอยู่เข้าสู่ยุคกลียุคหรือยัง พอดูๆ แล้วก็มีแต่เรื่องราวมากมายมีแต่โจรผู้ร้ายเต็มบ้านเต็มเมือง จะรอบุรุษขี่ม้าขาวมาช่วยก็ไม่รู้ว่าจะรอไหวมั้ย จะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือจะรอพระอิศวรมาเผาให้สิ้นไปก็ไม่รู้ว่าจะกี่ปี คนดีคงตายกันก่อนพอดี

ลิลิตนารายณ์สิบปาง พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กล่าวถึง นารายณ์อวตารปางที่ 10 หรือ กัลกยาวตาล ว่า

๐อวตารปางสิบนั้น กำหนด

ว่าวิษณุจะลง สู่หล้า

ในกาลอนาคต คราวหนึ่ง

ผลาญบาปเผื่อภายหน้า สดใส

๐ในว่าท่านนั้นชื่อ กัลกี

เปนบุรุษผิวขาว ผ่องแผ้ว

จะทรงมิ่งพาชี ถือดาบ

เปนเอกวีระแกล้ว กลางสมร

๐จะรอนบำราบ ผู้ใจพาล

ที่บ่ได้เคารพ พระเจ้า

หากใครจะเหิมหาญ แขงขัด

กัลกิจะบ้่นเกล้า เกศี

๐อันกลียุคสิ้น สุดลง

กฤตยุคเผดิม ใหม่แล้ว

ทุกคนที่งวยงง หลงอยู่

จะกลับเปรื่องปราชญ์แผ้ว ผ่องสม จินตนาฯ

หากจะพิจารณาดี ๆ เรื่องเล่าอวตารปางที่ 10 ของพระนารายณ์ อาจเป็นภาพแทนของความหวังของมวลมนุษยชาติว่า สักวันหนึ่งจะมีบุคคนดีๆผู้ที่มีความสามารถ จะมาเป็นผู้แก้ไขโลกใบนี้ ที่อยู่ในช่วงสับสนวุ่นวายมีแต่คนพาลเต็มบ้านเต็มเมืองให้สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม

ภาพและข้อมูลจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. (2515). ลิลิตนารายณ์สิบปาง. โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.