เป็นห้วงเวลาที่ตัวเองโหยหาอิสระเสรีภาพมากอีกครั้งหนึ่ง แถมดูหนักหนาสาหัสกว่าทุกๆครั้ง อาการนี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อห้าหกปีที่แล้ว เท่าที่สังเกตที่ผ่านมาไม่ดีขึ้นเลย ไม่ว่าจะเยียวยาด้วยวิธีการใดๆก็ตาม ชุ่มชื่นหัวใจขึ้นในบางครั้งก็แค่ชั่วครู่ยาม สุดท้ายกลับไปสู่โหมด"อีหรอบเดิม"
นับวันมีแต่ทรงกับทรุด คำถามที่เข้ามารุมเร้าจิตใจถี่ขึ้นเป็นคำถามเดิมๆซ้ำๆ "แล้วเมื่อไหร่จะมีอิสระจริงๆเสียที" อายุอานามก็เข้าโค้งสุดท้ายของการรับราชการแล้ว หรือจะได้แค่กำหนดเวลาที่เขาขีดให้ ไม่อาจเลือกได้เลยหรือ ชีวิตจริงใช่ไหม "ชีวิตที่มิได้อบอวลไปด้วยความสุขสมหวังอย่างเดียวหรอก"
ไม่ได้เอาเงินหรือความร่ำรวยมั่งมีเงินทองเป็นตัวตั้งอยู่แล้ว พยายามเรียบง่าย ทั้งเรื่องกินเรื่องอยู่ อยู่กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ เชื่อและปฏิบัติอย่างนี้เรื่อยมา ผลลัพธ์..ทำไปทำมาชีวิตถูกขังด้วยกำแพงเงินไปแล้วอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว กับดักที่ติดอยู่จนขยับเขยื้อนไม่ได้เป็นรายจ่ายในแต่ละเดือน
เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นพันธนาการชีวิตที่ต้องสลัดให้หลุด กรงหรือคอกที่กักขังนี้ต้องรื้อสถานเดียว ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะต้องเร่งเครื่องเดินหน้าเต็มสูบ จุดหมายปลายทางที่โหยหามานานต้องตะบึงไปให้ถึงอย่างเร่งด่วน ด้วยวันเวลาที่เริ่มเหลือน้อย
สถานีปลายทางที่เคยเห็นอยู่ลิบๆ คืบคลานเข้ามาในใจจนแนบชิด หมู่บ้านในชนบทแห่งหนึ่งที่ชาวบ้านแถวนั้นมักเรียกกันจนติดปาก..หมู่บ้านอิสระเสรีภาพ!
-สวัสดีครับอาจารย์-เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ถวิลหาสิ่งนี้นะครับ-สถานีปลายทางที่ไม่ไกลเกินไป…-ด้วยความระลึกถึงครูนะครับ
ใกล้มากๆแล้ว ช่วงนี้พยายามเต็มที่ครับ เพื่อจุดหมายปลายทางที่ใครๆต่างถวิลหา..
ขอบคุณมากๆครับ!