ฮื่อก๊วยผัดเยื่อไผ่

อาหารที่มีเยื่อไผ่เป็นส่วนประกอบสำคัญมักเป็นอาหารประเภทต้มตุ๋น เช่น ตุ๋นซี่โครงหมูเยื่อไผ่ ซุปเยื่อไผ่ ไก่ตุ๋นเยื่อไผ่ แต่ในวันนี้นำฮื่อก๊วยผัดเยื่อไผ่มาเป็นเมนูในครัวครูแป๊วค่ะ

เยื่อไผ่เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "เห็ดร่างแห" ไม่ใช่เยื่อจากต้นไผ่ตามที่เข้าใจกัน ชาวจีนมักเรียกเห็ดชนิดนี้ว่า "เห็ดไผ่" เนื่องจากเป็นเห็ดที่เติบโตมากับต้นไผ่ เป็นอาหารยอดนิยมในร้านอาหารจีน นิยมใช้ในการเซ่นไหว้เพราะเป็นของมงคล และยังเป็นของฝากราคาแพงอีกด้วย

เห็ดไผ่มีลักษณะเป็นตาข่ายถักทอสวยงามตามธรรมชาติ ก้านเห็ดมีรูพรุนเหมือนฟองน้ำ เวลาโตเต็มที่จะคล้ายกระโปรงผู้หญิง จึงมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Dancing Mushroom ส่วนที่ญี่ปุ่นรู้จักเห็ดชนิดนี้เป็นอย่างดีในชื่อ เห็ดราชา หรือ King of Mushroom เห็ดชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ มีทั้งสีส้ม สีแดง สีขาว สีชมพู และสีเหลือง แต่ที่สามารถรับประทานได้มีแค่ 4 ชนิดเท่านั้น

จากการวิจัยพบว่าเห็ดชนิดนี้อุดมด้วยสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งมะเร็ง ป้องกันโรคสมองเสื่อม มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดริ้วรอยและเร่งผลิตเซลล์ผิวใหม่ ตามตำรายาจีนกล่าวไว้ว่าเห็ดเยื่อไผ่เป็นยาบำรุงร่างกายเมื่อร่างกายอ่อนแอหรืออ่อนเพลียจากอาการท้องเดิน ช่วยรักษาโรคหวัด โรคความดันโลหิตสูง ตับอักเสบ และโรคที่เกี่ยวกับ ไต ตา และปอด

เยื่อไผ่มีคุณค่าทางทางโภชนาการสูง มีโปรตีน 1ด5-18% มีกรดอะมิโนถึง 16 ชนิด จากกรดอะมิโน 20 ชนิดและเป็นกรดอะมิโนถึง 7 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ มีวิตามินบี 2 ค่อนข้างสูง นับว่าเป็นเห็ดที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมาก ปัจจุบันในเมืองไทยสามารถเพาะพันธุ์เห็ดเยื่อไผ่ได้แล้ว ไม่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน จึงควรจะนำ เยื่อไผ่ เห็ดไผ่ หรือเห็ดร่างแหมาประกอบอาหารให้แพร่หลายยิ่งขึ้น

(ภาพเห็ดเยื่อไผ่จากอินเทอร์เน็ต)

[สุจิตรา]

มองดูเหมือนเป็นเห็ดที่กินไม่ได้เลยค่ะ

[ครูแป๊ว กัลยาณี]

เห็ดไผ่หรือเห็ดร่างแห กินอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารสูงค่ะ แต่ราคาก็สูงด้วยเช่นกันเพราะต้องนำเข้าจากจีน ตอนนี้ในเมืองไทยมีการเพาะพันธุ์เห็ดชนิดนี้แล้วค่ะ อีกหน่อยคงจะหาซื้อได้ง่ายขึ้น