เชจู เกาะสวรรค์(เกาหลีใต้) ตอนที่ 1

ประมาณ 23.30 น. วันที่  23  สิงหาคม  2562 เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ F พบกับเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ที่มารอต้อนรับเพื่อรับเอกสาร คณะนี้มีทั้งหมด 27 คน เมื่อรับเอกสารและเช็คอินเรียบร้อย ก็ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง การไปเกาะเชจูในครั้งนี้ พวกเราเดินทางไปไม่มีมัคคุเทศก์นำไป จะมีมัคคุเทศก์พาเราไปเที่ยวเมื่อถึงสนามบินเชจู เกาะเชจู เกาหลีใต้

ผ่านกระบวนการทุกอย่างแล้วเข้าไปด้านใน  ไปที่ Ais เพื่อเปลี่ยนซิมเป็น sim 2 fly ไปใช้ที่เกาหลีใต้ เเพคเกจ 8 วัน 399 บาท คุ้มมากเพราะใช้ 2 เครื่อง สะดวก สบายค่ะ  เวลา 03.25 น. ออกเดินทางสู่ประเทศเกาหลีใต้ โดยสายการบิน JEJU AIR เที่ยวบินที่ 7C2244 เป็นสายการบินโลว์คอสอันดับ1 ของประเทศเกาหลีใต้

แสงเรืองรองยามเช้า เมื่อเข้าสู่เกาะเชจู

10.20 น. เดินทางถึงสนามบินเชจู เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเกาหลีใต้ รองจากท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ได้ถูกจัดอันดับจาก OAG ว่ามีไฟลท์หรือการจราจรบนท้องฟ้าเยอะที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2511(ปรับเวลาให้เร็วขึ้น 2 ชั่วโมง เพื่อให้ตรงกับเวลาท้องถิ่นของประเทศเกาหลี) ผ่านพิธีการตรวจคน เข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่ เมืองมรดกโลก เกาะเชจู ที่องค์การ UNESCO ให้รางวัลเกาะเชจูเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งใหม่ของโลก (THE WORLD’S NEW 7 WONDERS OF NATURE) 

ออกมาด้านหน้าจะพบป้าย  EXCLUSIVE BUSAN & JEJU มารอรับ กว่าจะรวมได้ครบก็ใช้เวลาพอสมควร ระหว่างรอก็เก็บภาพสวย ๆ หน้าสนามบินไว้ดูเล่น

เที่ยวเกาะเชจู (Jeju Island) เกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮันลา เมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อน ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี และการระเบิดในครั้งนั้น ทำให้พื้นดินบนเกาะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ส่งผลให้ต้นไม้ ดอกไม้ และพืชพันธุ์นานาชนิดต่างเจริญเติบโตได้อย่างสวยงาม รวมทั้งสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอีกด้วย

เกาะเชจูตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศ ทำให้มีสภาพอากาศที่กำลังสบายตลอดทั้งปี ไม่หนาวหรือไม่ร้อนจัดจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 องศา ด้วยเหตุนี้ เกาะเชจูจึงมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวอย่างไม่ขาดสายในแต่ละปี โดยเฉพาะคู่รักที่เลือกมาฮันนีมูนกันที่นี่ เพราะนอกจากสภาพอากาศที่แสนบริสุทธิ์แล้ว ที่เกาะแห่งนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมายหลายแห่งอีกด้วยค่ะ

24/8/62...เมื่อทุกคนพร้มแล้วมัคคุเทศก์คนไทยและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น นำเราเดินทางด้วยรถบัสไปทานข้าวกลางวันเป็นมื้อแรก #ไก่อบวุ้นเส้น. เครื่องเคียง กิมจิ ถั่ว...วุ้นเส้นลักษณะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเมืองไทย.. มื้อแรกนี้ทุกคนที่กินต้องเก็บจาน แยกเศษอาหาร ให้เขาด้วย (ดีนะไม้ต้องล้างให้ด้วย)  แต่เป็นวัฒนธรรมที่น่าจะนำกลับมาใช้ในบ้านเรา เศษอาหารเขานำไปเลี้ยงหมูค่ะ ...อิ่มแล้วกลับขึ้นรถเดินทางไปไร่ชา 

ไร่ชา O’sulloc (제주 서광다원) เป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลี อยู่บนเกาะเชจู ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาชั้นยอดเพราะต้นชาจะได้รับแสงแดดที่พอเหมาะ ทำให้ได้ใบชาที่มีคุณภาพสูง ไร่ชา O’sulloc นี้คลอบคลุมพื้นที่กว่า 528,928 ตารางเมตร ปลูกอยู่บนเนิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมแวะมาเที่ยวและถ่ายรูป  ก่อนหน้านี้ชาวไร่ทั่วไปจะปลูกพืชแต่ไม่ได้ผลผลิตที่น่าพอใจเนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกจะเป็นหินและดินไม่อุดมสมบูรณ์ ไร่ชา O’sulloc ได้เริ่มปลูกชาแทนที่พืชไร่ทั่วไป และได้ใบชาที่ดี ทำให้ประสบความสำเร็จและเป็นตัวอย่างที่ดีในการเพาะปลูกบนพื้นที่ภูเขา  

บ่ายแล้วออกจากไร่ชาเดินทางไปชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ภูเขาซองอัค (SONGAK SAN)

ภูเขาซองอัค (SONGAK SAN) เป็นภูเขาไฟที่สวยงามอีก1 ลูกบนเกาะ เชจู สามารถชมวิวท้องทะเล ภูเขาไฟฮัลลานซานและเกาะแก่งกลางทะเลมากมาย มีชายหาดหินริมทะเล ชายหาดที่นี่จะไม่ได้เป็นทรายสีขาวแต่กลับเป็นหินสีดำน้ำทะเลสีดำแปลกตา เป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของกลุ่มแฮนยอ ตรงฐานภูเขา จะมีช่องที่ทหารญี่ปุ่ นบังคับให้คนเกาหลีขุดเจาะไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลก เพื่อเอาไว้จอดเรือแอบซ่อนไว้สำหรับทำลายเรือของอเมริกา โดยท่าเป็นเรือติดระเบิดแล้วพุ่งชนแบบพลีชีพ ก่อนนี้เปิดให้เข้าชม แต่มีเหตุการณ์เคยดินถล่ม
ลงมาเลยปิดไม่ให้เข้าชมอีกเลย และยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายท าเรื่อง "แดจังกึม"ตอนที่ถูกเนรเทศ ละครโทรทัศน์ยอดนิยมของเกาหลีใต้

#ทานอาหารทะเลสดๆ ฟินกับหอยเป๋าฮื้อสุดขึ้นชื่อที่อาชีพแฮนยอหรือนักประดาน้ำหญิงวัยชรางมขึ้นมาขายกันอยู่ริมชายฝั่ง สด อร่อยอย่าบอกใครเชียว กับเบียร์เย็นๆ เข้ากันดี.....ตามเราไปเที่ยว ตอนที่ 2 ที่เกาะเชจู ค่ะ