ทำไมเวลาที่คุณโดนอาจารย์สุ่มตอบคำถามอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้คุณพูดตะกุกตะกัก จนบางครั้งก็ตอบคำถามผิด แม้จะรู้คำตอบอยู่เต็มอก
ทำไมเวลาที่คุณต้องออกไปพรีเซนต์แบบปุปปับ อาจทำให้คุณกลายเป็นตัวตลก ทั้งๆ ที่ปกติคุณเป็นคนพรีเซนต์งานดี จนทุกคนต้องยกนิ้วให้
เป็นเพราะ “ความกดดันแบบฉับพลัน” รึเปล่า
แล้วความกดดันเหล่านั้น เกิดจากอะไร?
สวัสดีค่ะ ดิฉันนักศึกษากิจกรรมบำบัดปีที่1 จะมาแบ่งปันประสบการณ์การเรียนวิชาพื้นฐานกิจกรรมบำบัดในคาบแรก ครั้งแรกในชีวิต
“ทุกคนต้องแนะนำตัวให้คนอื่นจำได้ภายใน 10 วินาที”โจทย์แรกที่ได้รับก็สร้างความกดดันตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกับอาจารย์ การที่เราออกไปแนะนำตัว แน่นอนว่า เราจะต้องคิดอย่างหนักว่า จะออกไปทำอะไรดี หรือคนอื่นจะมองว่าเราเป็นคนยังไงเมื่อเราแสดงออกแบบนี้
ถึงแม้เราจะคิดมากมายก่อนออกไปแนะนำตัว แต่ในวินาทีสุดท้าย เราก็จะแสดงออกไปในแบบที่เราคิดว่าดีที่สุดในตอนนั้นการที่ต้องทำอะไรอย่างปุปปับฉับพลัน จะดึงตัวตนบางอย่างออกมา เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นแบบกระทันหัน
และโจทย์สุดโหดต่อมานั่นก็คือ
“สร้างวิดีโอโดยมีหัวข้อกำหนดให้ภายใน 1 ชม.ครึ่ง”
ซึ่งคลิปนี้มีความยาว 1 นาที แถมยังมีโครงการนำไปเผยแพร่ในทางสื่อช่องทางต่างๆ รวมถึงร้านอาหารชื่อดังอีกด้วยเมื่อมีการกำหนดเงื่อนไขมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เราเครียดมากขึ้น อีกทั้งยังมีการทำร่วมกับกลุ่มเพื่อน ทำให้ความคิดเห็นที่แตกต่างกันของแต่ละคน ยิ่งดูขัดแย้งกัน แต่สิ่งที่พวกเราทุกคนคาดหวังคือให้งานชิ้นนี้ออกมาดีที่สุดน่าสนใจที่สุด มีเนื้อหาดีที่สุด ความคาดหวัง “ที่สุด” ของตัวเองยังไม่หนักพอ ก็ยังมีความคาดหวังของคนอื่นอีก
“อาจารย์ป๊อปจะชอบมันรึเปล่า”“คลิปนี้จะโดนใจเพื่อนมั้ย”“คนที่ร้านอาหารจะเข้าใจเนื้อหาพวกนี้มั้ย”“มันจะเป็นไวรัลรึเปล่า”
สารพัดความคาดหวังที่ทำให้การทำคลิปครั้งนี้มันช่างหนักหนาซะเหลือเกินเวลาเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ แต่เราก็ยังหาบทสรุปที่ดีไม่ได้หลังจากลองผิดลองถูกในการถ่ายทำ พวกเราก็ท้อใจในที่สุดกลุ่มของดิฉันได้หัวข้อเกี่ยวกับการปั้นดิน ซึ่งก็ถือว่าเป็นหัวข้อที่สื่อออกมาได้ยาก และหาตัวอย่างได้ยากระดับนึง
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ทุกคนในทีมต่างก็ถอนหายใจพร้อมกัน
“อาจารย์คงไม่ได้คาดหวังให้เราทำออกมาได้สำเร็จหรอก”
เสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้นมา ทำให้พวกต่างหยุดคิดหยุดทำ และซึมซับคำพูดเหล่านั้น
ใช่..
เราไม่สามารถสร้างผลงานที่น่าสนใจที่สุดได้ในเวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเราไม่สามารถสร้างคลิปที่มีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายที่สุดในความยาวเพียง 1 นาทีในตอนนี้และเราไม่จำเป็นต้องทำคลิปที่ดีที่สุดออกมาก็ได้!
เหมือนยกภูเขาออกจากอก สีหน้าของทุกคนดูผ่อนคลายมากขึ้นเราเริ่มถ่ายคลิปกันใหม่อีกครั้ง ด้วยความรู้สึกใหม่มีครั้งหนึ่งดิฉันลืมกดอัดวิดีโอ ซึ่งส่งผลให้การทำงานช้าลงไปอีกน่าแปลกที่ไม่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นแต่กลับมีเสียงหัวเราะดังขึ้น และเริ่มได้ไอเดียแปลกใหม่มากขึ้น
แม้จะเป็นกลุ่มเกือบสุดท้าย แต่เราก็ทำคลิปออกมาได้สำเร็จถึงแม้ว่าคลิปวิดีโอของกลุ่มดิฉัน จะไม่ได้มีการตัดต่อดีๆ หรือมีการใส่ดนตรีดีๆ ลงไป ไม่มีการแสดงที่น่าสนใจ ไม่มีเนื้อหาที่ครบถ้วนแต่ดิฉันก็ยังชอบวิดีโอที่พวกเราสร้างขึ้น เพราะเบื้องหลังของมันมีเสียงหัวเราะอยู่
สุดท้ายดิฉันก็ได้เรียนรู้ว่า ความผิดพลาดเกิดจากความกดดัน และความกดดันเหล่านั้น ก็เกิดจากความคาดหวังที่เราหวังจากตัวเองและผู้อื่นถ้าเราลองอยู่กับปัจจุบัน ทำในตอนนี้ไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดยังไง จงทำให้ดีที่สุดไม่ใช่ทำให้ผลงานออกมาดีที่สุด
แต่ให้ตัวเรา
ได้ลงมือทำอย่างเต็มที่และมีความสุขที่สุด
ไม่มีความเห็น