881. จิตวิทยาบวกสำหรับงานด้านวิศวกรรม


จิตวิทยาบวกกับงานด้านวิศวกรรม

โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์

พื้นฐานผมเป็นวิศวกร เคยทำงานรับเหมามาก่อนไปเรียนต่อ แล้วกลับมาทำงานเป็นอาจารย์และที่ปรึกษาด้านการบริหาร และทุกวันนี้ยังคงเกี่ยวพันกับเพื่อนฝูงและธุรกิจด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี จำนวนมาก  และเนื่องจากผมเรียนมาหลายอย่างเลยเห็นโอกาส เอาเครื่องมือใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านจิตวิทยาบวกที่ผมเรียนมาเอามาแนะนำพี่น้อง เพื่อนฝูง ลูกค้าวงการนี้ เพราะผมเองยังถือว่าตัวเองเป็นวิศวกร

และจะว่าไปคุณจะเป็นวิศวกร หรือไม่คุณก็เป็นคน องค์กรก็คือคนหลายๆ คนมาอยู่รวมกัน หากคุณต้องการพัฒนาองค์กร คุณต้องพัฒนาคน วิธีการที่เป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญยุคนี้ คือการดึงจุดแข็งคนมาใช้ให้ถูกที่ถูกทาง เครื่องมือในการประเมินจุดแข็งคนคือ VIA Character Strengths (VIA) คุณสามารถเข้าไปประเมินตัวเองได้ฟรีที่นี่ https://www.viacharacter.org/survey/account/register   แต่แนะนำ Version เสียตังค์ จะได้รายงานเต็มครับ  VIA คือระบบประเมินจุดแข็ง ที่มาจากงานวิจัยว่าจุดแข็งของมีหกประเภท แยกเป็นประเภทย่อยได้  24 ข้อ  ในทุกคนมีเท่ากัน เพียงแต่ไม่เหมือนกัน  จุดแข็งห้าข้อแรก จะเรียกว่า Signature Strengths  ตัวนี้คุณต้องเอาไปใช้มากๆ ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง คุณต้องรู้ว่าเขามีจุดแข็งอะไรในห้าข้อแรก ให้เอามาใช้งานให้ถูกที่ถูกเวลา  

จุดแข็งของมนุษย์แบ่งเป็น 6 ประเภทหลักดังนี้ Wisdom (ปัญญา), Courage (ความกล้า), Humanity (ความเป็นมนุษย์), Justice (ความยุติธรรม ), Temperance (การควบคุมอารมณ์) และ Trancendence (จิตวิญญาณ) 

1.Wisdom (ปัญญา) หมวดนี้หากคุณต้องการให้งานในองค์กรล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง เช่นคุณต้องการออกแบบอุปกรณ์ใหม่ Design ใหม่ๆ  หรือลดต้นทุน จนได้เปรียบในการต่อรอง คุณต้องการคนที่มีจุดแข็งในหมวดนี้มาทำงานให้คุณ  Wisdom ประกอบด้วย Creativity, Curiosity, Judgement, Love of Learning, Perspective 

Courage  (ความกล้า) หากคุณต้องการให้องค์กรกล้าคิดใหม่ ทำใหม่ เสี่ยงเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย คุณต้องการคนกลุ่มนี้ครับ ประกอบด้วย 2.Bravery,  Honest, Perseverance และ Zest 

3.Humanity (ความเป็นมนุษย์) หากคุณต้องการพัฒนาที่ทำงาน หรือความสัมพันธ์ในระยะยาว เกิดความสุข สร้าง Engagement ทำให้คนทุ่มเทให้คุณ ลูกค้าคิดถึงคุณก่อน ตัวนี้ช่วยได้ ประกอบด้วย Kindness, Love และ Social Intelligence 

4.Justice (ความยุติธรรม) หากคุณอยากให้องค์กรมีความเสถียร เป็นระบบ ยุติธรรม คนได้รับโอกาส คนเก่งได้เติบโต มีบรรยากาศการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ประกอบด้วย  Fairness, Leadership,Teamwork

5.Temperance (การควบคุมอารมณ์) หมวดนี้ หากคุณต้องการให้คนในองค์กรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ทำอะไรเป็นระบบ ลดความเสี่ยงทั้งในเรื่องงานและเรื่องคน ประกอบด้วย Foregiveness, Humility, Prudence และ Self-regulation

6.Trancendence (จิตวิญญาณ)  หากต้องการให้องค์กรคุณมีมิติของจิตวิญญาณ เรียกว่าดีทั้งภายนอกภายใน ที่อาจสู้คู่แข่งไม่ได้ทางเทคโนโลยี แต่ลูกค้ารัก เพราะคุณตรงไปตรงมาเป็นต้น   ประกอบด้วย Appreciation of Beauty and Excellence, Gratitude, Hope และ Spirituality   

การใช้งาน

ให้ดูทิศทางหลัก หรือวัตถุประสงค์หลัก เช่น

สมมติว่าผมผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า คู่แข่งผมเป็นรายใหญ่  แน่นอนถ้าผมอยากแข่งกับเขา ไม่อยากสู้ด้วยราคา ผมต้องการคนที่คิดนอกกรอบมาช่วย นั่นคือคนในกลุ่มคนมีปัญญา (Wisdom)  หรือ อยากไปเปิดตลาดผลิตสินค้าใหม่ขาย คุณต้องการเซลล์ หรือฝ่ายการตลาดประเภทหมูไม่กลัวน้ำร้อน นั่นคือกลุ่มคนกล้า (Courage)  ในขณะเดียวกันคุณรู้สึกว่า ไม่อยากให้องค์กรของคุณโตแล้วแตก เพราะคนเก่งทนกันไม่ได้ หรือลูกค้ารู้สึกเซลล์คุณเอาแต่ได้ เอาแต่ขายของ ทีมบริการหลังการขายไม่สนใจลูกค้า เป็นไปได้ว่าคุณอาจต้องหาคนประเภทมีความเป็นมนุษย์ (Humanity) สูงมาอยู่ในทีม  

แต่การมีคนใจดี มีความกล้า มีนวัตกรรม แต่หากบรรยากาศการทำงานเป็นทีม ไม่มีภาวะผู้นำ ก็ยากจะบรรลุเป้าหมาย ทำงานมากแต่ได้ผลน้อย หรือทีมแตกไปในที่สุด ที่สำคัญองค์กรดีๆ ถ้าไม่รอบคอบ ทำงานไม่ดูเหนือดูใต้ อาจเกิดความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง ได้ลูกค้าเร็วแต่เสียหายระยะยาวก็ไม่ไหว หรือระบบการประเมินความดีความชอบไม่ดีพอ ที่สุดคนเก่งคนดีบางกลุ่มอยู่ไม่ได้ ระบบที่ดีจะเกิดได้คุณต้องการคนประเภทมีความยุติธรรม (Justice) มาพัฒนาระบบ หรือดูแล   

ในส่วนของวัฒนธรรมองค์กรคุณคงไม่อยากให้คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เคยเจอบางที่ติดหนี้นอกระบบเกินครึ่ง (เคยเจอจริง) คุณว่าคนจะเหลือความคิดอ่าน พลังอะไรไปทำงานให้คุณไหมครับ คงไม่ นั่นคือคุณต้องเลือกคนที่สามารถควบคุมตนเอง ในจำนวนที่มากที่สุดมาทำงาน  คุณต้องการคนประเภท ควบคุมอารมณ์ได้ (Temperance)  ใครอ่อนตรงนี้ขึ้นเป็นผู้นำไม่ได้ 

สุดท้ายผมถามว่าคุณชอบคนเก่ง หรือคนดีครับ ผมว่าคุณคงเลือกสองอย่าง แต่ถ้าได้ คุณจะเลือกทำธุรกิจกับใคร คุณคงเลือกคนดี  เช่นองค์กรแห่งหนึ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่น ผมลองให้ไปถามหมอมาว่าทำไมถึงซื้อของบริษัทเขา ประหลาดใจเลย ... “คุณเป็นบริษัทที่ซื่อสัตย์ เวลาขายของมันต้องมีผลวิจัย ผลวิจัยคุณไม่มาก แต่คุณก็บอกตามตรง ไม่เหมือนคู่แข่งที่ขนาดมากอยู่แล้ว ยังพยายามเต้าข้อมูลอีก”  คุณอยากให้คนมองคุณแบบนี้คุณต้องการคนที่อยู่ในหมวดจุดแข็งที่เรียกว่า จิตวิญญาณ (Trancendence) มาช่วยคิดครับ 

หลังจากนี้มาลงรายละเอียดกัน  รายละเอียดจุดแข็งทั้ง  24 ประเภท จัดเข้า 6 ประเภทได้มีดังนี้

Wisdom (ปัญญา)  ประกอบด้วย Creativity, Curiosity, Judgement, Love of Learning, Perspective 

Creativity  เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์   ลองให้เขาระดมความเห็นกัน คุณอาจได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ หากต้องการลดขั้นตอนอะไรที่มันเสียเวลา คนกลุ่มนี้อาจให้วิธีการที่นอกกรอบ นำไปสู่การลดความสูญเสีย หรือขั้นตอนได้

Curiosity  เป็นคนชอบแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ ลองถามเขาดูว่าช่วงนี้มีอะไรน่าสนใจ หรือขอให้ไปหาอะไรที่น่าตื่นเต้น ทั้งในและนอกองค์กร รับรองคุณจะได้แนวทางการทำงานใหม่ๆ กลับมา บางทีเอาเป็นหนทางของธุรกิจใหม่ๆ ความรู้ที่จะทำให้คุณไปไกลกว่าคู่แข่งได้ 

Judgement  เป็นคนที่มีความคิดเชิงวิเคราะห์ คุณอาจให้เขาช่วยมาดูงานของคุณ เขาจะเจออะไรที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น อาจลองเชิญเขาเข้าประชุมในหลายๆ งาน เพื่อให้เขาช่วยมองว่า อะไรที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ อาจสร้างปัญหาอะไรตามมา  

Love of Learning คนนี้รักการเรียนรู้ ลองได้สนใจอะไรแล้ว ลงลึก deep เลย ลองถามช่าง วิศวกรชอบอะไรเช่นคนหนึ่ง ที่ได้คะแนนนี้สูง บอกว่าชอบ Artificial Intelligence ลองปล่อยให้เขาศึกษา เปิดโอกาสให้ลงลึก ไม่นานคุณอาจได้ผลิตภัณฑ์ที่มี AI 

Perspective เป็นคนมีมุมมองที่ดี สามารถใช้ความรู้หรือประสบการณ์ให้แง่คิดคุณได้ ลองไปถามสิ ยกปัญหามาสักเรื่อง อะไรที่ดูเป็นไปไม่ได้ อาจเป็นไปได้ เช่นปัญหาเรื่องคนดูทำงานไม่ทัน อาจได้คำตอบที่ทำให้แก้ปัญหาในระยะยาวได้ 

Courage  (ความกล้า) ประกอบด้วย Bravery,  Honest, Perseverance และ Zest 

Bravery ความกล้าหาญ คนนี้กล้าเผชิญอะไรที่น่ากลัว ท้าทาย เป้าหมายมีไว้พุ่งชน หากคุณต้องการเปิดตลาดใหม่ๆ หรือเผชิญคู่แข่งที่น่ากลัว ใช้งานคนนี้เลย ประกาศเลยครับว่าจะท้าชนเจ้าใหญ่ ที่อาจเสนอราคาลูกค้าต่ำกว่าคุณครึ่งหนึ่ง ขณะที่คนอื่นบอกเป็นไม่ได้ คนนี้เขาจะกล้าไปลุยคู่แข่งแม้ว่า จะดูเสียเปรียบสุดๆ เอาไปบุกเบิกตลาดใหม่ๆ 

Honest ความตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ต่อตนเองและคนอื่น คุณอยากรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์จริงๆ เป็นอย่างไร คนแบบนี้จะให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมากับคุณ ทำให้เห็นปัญหาได้ชัดกว่า เอามาเป็น QA/QC หรือ Auditor ก็ได้ ดีมากๆ  อะไรที่จะผ่านไปหาลูกค้าคนๆนี้เป็นคนตรวจสอบ รับรองธุรกิจของคุณจะขึ้นชื่อเรื่องความแม่น การรักษาสัญญา 

Perseverance มีความเพียรพยายาม อยากทำอะไรที่ยาก ท้าทาย ต้องใช้เวลาทุกเท เช่นสร้างองค์กรใหม่ๆ เปิดแผนก R&D อะไรยากๆ ให้คนนี้ทำเลย ไม่มีทางทิ้งงาน เขาจะหาทางทำจนสำเร็จ  แนะนำว่าลองตั้งเป้าหมายที่ท้าทายมากๆ เช่น จะไปขายผลิตภัณฑ์ที่ตปท.ประมาณเปิดตลาดใหม่ที่พม่า รับรองไม่เกิน 10 ปี คนๆนี้ทำฝันให้คุณเป็นจริงได้แน่ 

Zest มีพลังเหลือร้น มีชีวิตชีวา ลองให้คนแบบนี้ไปร่วมทีมกับใครก็ได้ เขาจะทำให้ทีมมีชีวิตชีวา เห็นความเป็นไปได้  ลองถามเขาดูว่าทำอย่างไร งานที่ทำอยู่ บรรยากาศการทำงานจะมีชีวิตชีวา ลองให้เขาคิดโครงการที่จะทำให้ทีมมีชีวิตชีวา  ลองปล่อยลงไปในโรงงาน เสนอมาสิว่าจะทำให้งานที่แสนน่าเบื่อในสายการผลิตมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้อย่างไร 

Humanity (ความเป็นมนุษย์) ประกอบด้วย Kindness, Love และ Social Intelligence 

Kindness ทำความดีแบบไม่หวังผล ส่งคนๆ นี้ไปทำการตลาด CSR ผูกสัมพันธ์คนในชุมชน  หรือให้มองปัญหาคนในองค์กร ลองถามเขาเคยช่วยใครมาบ้าง อาจเจอปัญหาที่เกิดจากสายการผลิต เช่นในโรงงานแห่งหนึ่งเพื่อนสงสารแผนกรถยก เพราะเจ็บหลัง ต้องยกถังแก๊สเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน เลยกลายเป็นข้อมูลมาพัฒนาต่อยอดสร้างอุปกรณ์อย่างง่ายที่ทำให้ลดจำนวนการยกถังลง

Love  ความรักความอบอุ่น  เห็นคุณค่าเรื่องความสัมพันธ์ จริงใจ  เอาเขามาออกแบบระบบว่าทำอย่างไรจะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับเรา เอามาอยู่บริการหลังการขาย หรืออะไรก็ตามที่สัมพันธ์กับลูกค้า ให้มาออกแบบว่าจะรับมือกับลูกค้าอย่างไร

Social Intelligence มีความฉลาดทางสังคม เข้าใจความรู้สึกตนเอง และคนอื่น  แนะนำว่าเชิญคนคนนี้มาพัฒนาการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมทั้งทำ HR ในองค์กร 

Justice (ความยุติธรรม) ประกอบด้วย  Fairness, Leadership และ Teamwork

Fairness  ความยุติธรรม  ปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกัน ให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกัน  คนแบบนี้ให้เอามาพัฒนากฏระเบียบ หรือเอามาดูว่าในสายการผลิต มีใครทำงานหนักกว่าใครไหม จะได้พัฒนาระบบให้สมดุลขึ้น 

Leadership เป็นคนรับผิดชอบ และนำกลุ่มให้ไปสู่เป้าหมายที่ดีได้ รวมทั้งรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในกลุ่มได้ด้วย คนที่ได้คะแนนนี้ให้ตั้งเป็นหัวหน้า 

Teamwork  ช่วยเหลือ มีรับผิดชอบ ทำงานเป็นทีม ให้ทีมบรรลุเป้าหมาย คนแบบนี้เอามาทำงานสร้างสรรค์ ออกแบบ หรือทำงานที่ต้องการอาศัยพลังของทีมได้ในทุกจุด เช่นทำงาน Kaizen ต่างๆ 

Temperance (การควบคุมอารมณ์) ประกอบด้วย Forgiveness , Humility, Prudence และ Self-regulation

Foregiveness ยกโทษให้คนอื่น โดยใครทำอะไรไม่ดีก็ยกโทษให้ ไม่เอามาแก้แค้น เอาบทเรียนมาพัฒนาความสัมพันธ์ คนที่มีบุคลิกแบบนี้อาจเอามาทำงานในส่วนที่ต้องบริหารความสัมพันธ์กับคนในวงกว้างที่อาจมีการกระทบกระทั่งกันสูงเช่น HR   การคุยกับคนกลุ่มนี้อาจทำให้เราเห็นปัญหาความสัมพันธ์ในองค์กร  และอาจหาทางแก้ไขได้ก่อนจะเกิดเหตุการณ์บานปลาย 

Humility ถ่อมตัว รู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งและพรสวรรค์แต่ไม่แสดงตัวเป็นจุดสนใจ เหมาะกับการเอามาพัฒนางาน R&D  หรืองานที่ต้องอาศัยทักษะสูง 

Prudence คนรอบคอบ ทำอะไรระมัดระวัง คิดถึงอนาคต และการป้องกันความเสี่ยง เพราะกับเอามาทำงานที่ต้องระมัดระวังต้นทุน บัญชี งาน Estimate  งาน Bidding 

Self-regulation รู้จักควบคุมตัวเอง ควบคุมความรู้สึก  มีวินัย  เหมาะกับงานที่ต้องเผชิญแรงปะทะสูง ต้องอาศัยวินัย  เช่นฝ่านบัญชี หรือฝ่ายที่ต้องติดต่อประสานงานกับลูกค้า 

Transcendence (จิตวิญญาณ)  Appreciation of Beauty and Excellence, Gratitude, Hope และ Spirituality

Appreciation of Beauty and Excellence ชื่นชมความสวยงามและทักษะ   คนกลุ่มนี้คิดอะไรแตกต่าง สามารถเห็นโอกาส ที่คนอื่นมองไม่เห็น เข้าใจว่าจะทำให้ของธรรมดามีมูลค่าได้อย่างไร เหมาะกับการมาทำ R&D  การค้นหาจุดแข็งของคนในองค์กร เอามาเพิ่มมูลค่าสินค้า 

Gratitude  รู้สึกสำนึกบุญคุณ เห็นคุณค่า แสดงความขอบคุณ คนที่เป็นอย่างนี้จะเห็นคุณค่าองค์กร สำนึกรักองค์กร สามารถเอามาหาจุดแข็งองค์กร  จุดที่เป็น Softside เช่น ขอบคุณที่นายสอนงาน อาจได้คนที่เป็นคนสอนงานเก่งๆ จากการที่คนกลุ่มนี้พูดถึง 

Hope มีความหวัง ในแบบที่มองโลกด้วยความเป็นจริง มีความหวังต่อนาคตอย่างเต็มเปี่ยม เชื่อในการกระทำและมีความรู้สึกเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะออกมาดี  คนกลุ่มนี้น่าเอามาร่วมงานในโครงการที่มีลักษณะบุกเบิก

Humor มีอารม์ขัน เป็นคนที่ทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ทำให้คนอื่นมีความสุข เหมาะกับการนำไปร่วมงานที่ต้องเจอกับความกดดัน เพื่อช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น

Spirituality เชื่อในจุดประสงค์ และความหมายในชีวิต ความดี คุณธรรม   เหมาะกับการนำมาคิดหาแนวคิด พัฒนาระบบคุณธรรม และการบริหารงานที่เน้นความยั่งยืนไม่ฉายฉวย  ที่สุดอาจทำให้องค์กรขึ้นชื่อว่า “ซื่อสัตย์” ที่สุด 

ที่ผมทำมาหลายปี คุณสามารถดึงคนมาสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ โดยหัวใจของทุกคนไม่ว่าบุคลิกไหน เท่าที่ผมสัมผัสมา โดยให้เล่าประสบการณ์ที่ตัวเองทำงานสำเร็จบางเรื่อง ตอนสำเร็จที่สุด มีจุดร่วมเหมือนๆ กันคือ ความเพียรพยายาม (Preservarence), ความฉลาดทางสังคม (Social Intelligence), ภาวะผู้นำ (Leadership), และการทำงานเป็นทีม (Teamwork)  ตรงนี้คือเครื่องยนต์ครับ ..ไม่มีเครื่องยนต์ไปไหนไม่ได้ครับ 

ลองผสมผสานทดลองกันนะครับ 

ยาวหน่อยหวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ ติดตามความรู้ ความเคลื่อนไหวด้านจิตวิทยาบวกได้ที่นี่ครับ  เป็นกลุ่มของผมเองใน FB   https://www.facebook.com/groups/1048380931894730/

Credit ภาพ 

https://www.topuniversities.com/courses/engineering-electrical-electronic/studying-electrical-engineering-uk-alumnus-profile

Note: ปลายปีนี้.. ผมมีหลักสูตรที่สอดคล้องกับ Purpose ของผมเองสองหลักสูตร สนใจมาเรียนได้ หรือไม่สะดวก ผมมีบทความ มี Youtube เกี่ยวกับเรื่องที่ผมทำเต็มไปหมด ลองให้ดูใน Google ถ้าเจอตัวยินดีสอนให้ นะครับ  

1.Positive Psychology Coaching รุ่น 2 ดูได้ที่นี่ https://www.facebook.com/byAIThailand/
2. Theory U for Coach ดูได้ที่นี่  https://www.facebook.com/Theory-U-Thailand-308440079616162/

หมายเลขบันทึก: 663211เขียนเมื่อ 17 กรกฎาคม 2019 07:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน 2019 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท