ศิษย์เก่ารุ่นแรกๆมาหาเพื่อแจกการ์ดบัตรเชิญให้ไปงานบวช ต่างคนก็ต่างจำกันไม่ค่อยจะได้ แน่นอน..ผอ.ก็แก่เฒ่าลงไป แต่เขาผู้เป็นลูกศิษย์หนุ่มแน่นกำยำ
ศิษย์เก่าระยะกลาง กำลังเรียนม.๓ มาเยี่ยมเยือนช่วงเย็น ไม่มีอะไรมากแค่มาบอกกล่าวว่าคิดถึงผอ. และศิษย์ทั้งสองจะพูดเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง..
นั่นคือ...โรงเรียนเปลี่ยนไปมาก ผมจำแทบไม่ได้..ผอ.ก็เลยต้องบอกไปว่า..มัวแต่ก้มหน้าทำงาน ก็เลยไม่ค่อยจะเห็นการเปลี่ยนแปลง..จริงๆแล้วมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างล่ะ
ลูกศิษย์ก็เลยต้องบรรยายให้ผอ.ฟัง..”อาคารสถานที่ แปลกใหม่ มองแล้วสะดุดตา ต้นไม้ก็โตขึ้น..มองดูไม่เหมือนโรงเรียนที่ผมเคยเรียน...”
ผมคิดในใจ..สงสัยสมัยที่เธอเรียน..โรงเรียนคงแย่มาก...(ฮา)
ผมต้องอธิบายให้นักเรียนฟัง เพื่อเสริมความรู้ความเข้าใจ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเขาสนใจหรือเปล่า แต่ก็เห็นเขาตั้งใจฟัง และแสดงอาการว่าเห็นด้วย...ในทุกอย่างที่ ผอ.พูด
“ผอ.มีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องรับและปฏิเสธความ”ยั่งยืน”ไปพร้อมๆกัน มันจึงดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น..ในเชิงบวกมากกว่าด้านลบ..
ลูกศิษย์มีสีหน้างุนงงเล็กน้อย..ผอ.ก็เลยต้องขยายความ..”ความสะอาดของอาคาร ถนนหนทางและห้องน้ำห้องส้วมยังสะอาดเหมือนเดิม นี่คือสิ่งที่ต้องทำให้ยั่งยืนเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน...”
“อาคารเก่าแก่อายุ ๓๙ ปี ยังสภาพดีอยู่ก็ต้องรักษาไว้ ต้นไม้นานาพันธุ์บำรุงและดูแลให้เติบโต ความยั่งยืนอยู่ที่เราอนุรักษ์ไม่ทุบหรือตัดทิ้ง...”
นี่คือ..ความดีงามที่ยั่งยืนให้เธอได้เห็นและสัมผัสได้ แต่ความดีงามในหัวใจของครู นักเรียนและผู้ปกครอง..ที่เธออาจมองไม่เห็น มันมีอยู่จริงจึงทำให้โรงเรียนอยู่ได้
“ครูไม่เคยคิดที่จะนำพาโรงเรียนให้ก้าวทันยุค 4.0 ขอแค่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ อย่าได้คิดฝันเกินและไกลตัว..ยึดหลักของราชการไว้ จะไม่มีอะไรต้องเสียหาย..”
โรงเรียนเป็นสถานที่ราชการ ครูเป็นข้าราชการ..ก็ต้องทำหน้าที่และมีความรับผิดชอบดูแลรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ...เท่านี้เอง..
“ครูอยากบอกเธอว่า..ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง พอเพียง ก็ใช่ว่าจะก้าวอยู่กับที่ พอเพียงก็ใช่ว่าจะมีสิ่งใหม่ไม่ได้ พอเพียง..ก็มีความสุขได้นะ..”
“ครูถึงบอกว่าบางสิ่งจะไม่ยั่งยืนก็ได้ ความขาดแคลนที่ทำให้ครูและนักเรียนลำบากครูจะไม่ดูดาย อุปสรรคที่บั่นทอนการศึกษา ครูจะไม่ให้มันยั่งยืนต้องกำจัดมันออกไป..”
“เธอจึงเห็นอาคารและห้องเรียนใหม่ ตลอดจนแหล่งเรียนรู้ที่เป็นสื่อการสอน เป็นห้องเรียนธรรมชาติ..ที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนที่มองอย่างไรก็พอเพียงและพอดี”
ลูกศิษย์ยิ้มให้ผม ใจก็คงคิดว่า..ผอ.ก็ยังพูดเก่งอย่างยั่งยืนเหมือนเดิม (ฮา)
ก่อนจะลากลับ ลูกศิษย์ของผมหยอดคำหวาน ในทำนองว่าครูมัธยมชื่นชมโรงเรียนของเรา..ที่นักเรียนที่จบไปเป็นเด็กดีมีความรับผิดชอบและตั้งใจเรียน..
ศิษย์เก่ากลับไปทิ้งไว้แต่ความทรงจำดีๆ ที่ได้จากการสนทนา ผมเดินไปตรวจตราโรงเห็ดนางฟ้าที่ปรับปรุงใหม่ และเดินไปที่สนามฟุตบอลที่รถไถกำลังปรับพื้นที่..
ผมเดินครุ่นคิด..การศึกษาขั้นพื้นฐานไม่ง่ายเลยจริงๆ ต้องอยู่ควบคู่กับนิยามของความยั่งยืน ซึ่งเป็นมุมมองที่ต้องตระหนักและลงมือปฏิบัติจริงจึงจะเกิดมรรคผล
อย่างเช่นนักเรียนที่เราเฝ้าอบรมบ่มนิสัย ให้วิชาและทักษะชีวิต เหมือนรดน้ำพรวนดินและใส่ปุ๋ย..วันนี้..เติบใหญ่ผลิใบออกดอกแตกหน่อที่งดงาม..อยู่ที่มัธยม
ความยั่งยืน...ต้องใช้เวลา อาจต้องอดทนและรอคอยบ้างก็เท่านั้นเอง
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น