ผมมักออกตัวเสมอว่าผมไม่ได้จบโท จบเอก แต่ผมโฟกัสเรื่องการสอนมาก เนื่องด้วยผมศึกษาเรื่องจิตมา 29 ปี ตั้งแต่บวช ทีแรกก็เพื่อประโยชน์สุขของตัวเอง โดยฝึกฝนยอดคุณสมับติของจิต คือ สติ สมาธิ และปัญญา พอถึงปี 2553 ปณิธานอันหนึ่งปรากฏขึ้นเองแก่จิต เมื่อจิตถึงรอบด้วยอาการโพลงขึ้นมา (ปัจจุบันเรียกปิ๊งแว้บ หรือ Blink) ปณิธานนั้นคือความปรารถนาให้ผู้คนมีความสุข เก่ง และมีนิสัยอันดีงาม ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็เริ่มศึกษาเรื่องการสอนคนอื่น โฟกัสเรื่องนี้มาก
ตามที่ผมทราบ การเรียนรู้จะเกิดจากฐานจิต เป็นอันดับแรก / ฐานคิด คือสมองเป็นอันดับสอง / พฤติกรรมหรือฐานกาย เป็นอันดับสาม
การออกแบบการสอนให้เกิดประสิทธิผล จึงต้องให้สอดคล้องกับทั้ง 3 ฐาน
การสอนจึงต้องเรียงร้อย การทำ Ice brake (เปิดจิต), การปรับทัศนคติ, การให้ความรู้ทั้งหลักการ ทฤษฎี และวิธีการ, การเล่าเรื่อง, การตั้งคำถาม, การแชร์, การทำ Work shop, การระดมสมอง และการทำให้จิตมีสติ สมาธิ เพื่อผลลัพธ์ที่จะนำให้เกิดปัญญา คือเกิดการเรียนรู้จริง แบบที่นำไปใช้ได้จริง และยังเกิดแรงบันดาลใจด้วย คือการยกระดับการเรียนรู้
หมายความว่า ไม่ใช่สอนให้แค่ "รู้"
- แต่ต้องสอนให้"รู้สึก "
- ต้องสอนให้ "ทำได้"
- และต้องสอนให้ "อยากลงมือทำ"
ฝรั่งมีทฤษฎีกระบวนการสอนเยอะอยู่ครับ ผมก็เรียนรู้มาเยอะพอสมควร แต่รู้เยอะแค่ไหนก็ตาม พอลงมือปฏิบัติจริงแล้ว ต้องดู"หน้างาน" เป็นหลัก คือต้องสังเกตุปฏิกริยาผู้เรียนว่าเกิดสติปัญญามากน้อยแค่ไหน บางทีกระบวนการที่เรียนมาก็ไม่เหมาะกับสถานะการณ์ที่ปรากฏ ต้องรักษาคลื่นสมองของผู้เรียนให้อยู่ในโหมดอัลฟ่าอันเป็น Ratio ที่เกิดปัญญาได้มากที่สุด ที่สำคัญอย่าให้เกิดบรรยากาศเฉื่อยขึ้นในคลาส - ความเบื่อจะทำให้เสียสมาธิ พอมากเข้าจะทำให้การเรียนรู้เป็นโมฆะ เสียเวลาผู้เรียนเปล่า ถือเป็นความเสียหายในวิชาชีพเลยทีเดียว อันนี้ต้องคอยระวัง หากเกิดบรรยากาศเริ่มเฉื่อยต้องปรับเปลี่ยนวิธีสอนอย่างฉับพลันด้วยปฏิภาณ เรื่องนี้สอนไม่ได้แล้วครับ ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์เท่านั้น....
จริงๆ แล้ว ผมยืดถือ "ลีลาการสอนของพระพุทธเจ้า" บรมครูของโลก เป็นหลัก ด้วยทึ่งที่ท่านสามรถสอนคนให้บรรลุสัจธรรมได้อย่างฉับพลัน เรียกว่า Transform คนอย่างสายฟ้าแล่บ ซึ่งพอผมมาเทียบเคียงตำราของฝรั่งแล้ว ผมว่าท่านมีครบถ้วนทุกทฤษฎี ไม่ว่าทฤษฏีไหนก็ลงได้หมด เหมือนรอยเท้าสัตว์บกทุกชนิดบนโลกย่อมลงในรอยเท้าช้างได้ และยิ่งกว่านั้นมีสิ่งที่ล้ำไปกว่าของฝรั่งทุกสำนัก เพราะฝรั่งแทบไม่ได้พูดเรื่อง สติ สมาธิ และปัญญาญาณ อันเป็นยอดคุณสมับติของจิตที่จะนำให้เกิดการเรียนรู้ขั้นสุดยอดเลย
ผู้ที่เป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นวิทยากร ผมขอแนะนำให้ Search key word "ลีลาการสอนของพระพุทธเจ้า" ของท่าน ปอ. ประยุต นี้ดู จะทราบว่าพระพุทธเจ้าท่านทรงลึกซึ้งขนาดไหน เสียดายที่พระไตรปิฎกไม่ได้บันทึกกระบวนการสอนของท่านเอาไว้อย่างละเอียด ต้องอาศัย "แกะรอย" จากพุทธประวัติเอาเอง ซึ่งผมพยายามทำอยู่ตลอด
ถ้าการสอนเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลจริง ผู้เรียนจะ Recap มาประมาณๆ คลิปที่ผมแชร์ไว้นี้ครับ
ไม่มีความเห็น