" สุขศึกษา " วิชาที่...(อาจ) ถูกลืม


เด็ก ๆ ที่มาจาก ครอบครัวที่รวย กับครอบครัวที่ยากจน ก็สามารถเรียนรู้ และปฏิบัติตามหลักอนามัยที่เกิดจากการเรียนรู้ได้เช่นกัน เด็ก ๆ สามารถดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองให้สะอาด และแข็งแรงได้ สามารถเลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ได้เท่า ๆ กัน

ครูรุ่น...เก๊า...เก่า พอ ๆ กับคุณมะเดื่อ

คงจะได้เรียนรู้และปฏิบัติตาม...สุขบัญญัติ ๑๐ ประการ..

กันมาแล้วไม่ว่าจะสมัยเป็นเด็กประถม หรือ มัธยม...

ลองย้อนไปดูคร่าว ๆ ทวนความจำกันนิดหน่อยก่อนนะ...

-  ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ

- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ  ๒  ครั้ง

- ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังขับถ่าย

             ฯลฯ
ตอนเป็นนักเรียน คุณครูจะให้เด็ก ๆ ท่องจำกันเลยละ

ย้อนไปสักปีแรก ๆ ที่คุณมะเดื่อเป็นครู  สอนประจำชั้น

สอนทุกวิชา  ก็จะเน้นวิชาสุขศึกษาเป็นสำคัญ...

แต่หลัง ๆ จากนั้น เมื่อคุณมะเดื่อไม่ได้สอนทุกวิชา

ก็จะสอนเฉพาะ ภาษาไทย กับศิลปะ  จึงไม่ได้สอน

วิชาอื่น ๆ  แต่ก็มักจะแวะเข้าหาวิชาสุขศึกษาอยู่เสมอ ๆ 

เพราะมันเกี่ยวข้องกับเด็กโดยตรง....


แต่...หลัง ๆ นี้  เหมือนกับว่า เรื่องราวของวิชาที่ว่าด้วย

"  การเรียนรู้เกี่ยวกับความสุข " หรือ " สุขศึกษา" มันได้

ห่างและค่อย ๆ จางหายไปจากห้องเรียนแล้ว...!

อาหารหลัก ๕  หมู่...เด็ก ๆ ก็ไม่สามารถแยกได้ว่า

อะไรเป็นอะไร...โรคอหิวาต์  โรคไข้มาลาเรีย...

โรคบิด...ซึ่งเป็นโรคพื้น ๆ เด็กก็ไม่รู้จัก  เคยถามครูผู้สอน

ว่า  " เดี๋ยวนี้เขาไม่มีในหลักสูตรแล้วหรือ ? "  ...  ครูก็บอกว่า

" สอนตามหนังสือ แต่ถ้าเด็กอยากรู้ก็จะเพิ่มเติม..."  ( อ๊าววว...!

เราตกยุคเองนี่หว่า )  



ในโรงเรียนบ้าน ๆ แบบเรา ๆ เคยสังเกตกันไหมว่า....ภาวะโภชนาการ

สุขภาพอนามัยของนักเรียนของเราทุกวันนี้เป็นอย่างไร...

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของอนามัยส่วนบุคคล  ฐานะทางครอบครัว

คงจะแทบไม่มีผลต่อเด็กเลยก็ว่าได้....เพราะเด็ก ๆ ที่มาจาก

ครอบครัวที่รวย กับครอบครัวที่ยากจน  ก็สามารถเรียนรู้

และปฏิบัติตามหลักอนามัยที่เกิดจากการเรียนรู้ได้เช่นกัน

เด็ก ๆ สามารถดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองให้สะอาด

และแข็งแรงได้  สามารถเลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์

ได้เท่า ๆ กัน.....ใช่ไหม  ?

 แต่.....ลองมาสังเกตดูนะ....มันเป็นเช่นนี้หรือไม่  ?

ทุกครั้งที่มีการตรวจเล็บนักเรียน  ....  ยาวเกินครึ่งโรงเรียน

ทุกครั้งที่ตรวจขี้ไคลนักเรียน.........ดำปื้อตั้งแต่ หู ไปถึงเท้า

นักเรียนหญิง...(ชายบางคน).......เหาเต็มหัว...(เผลอ ๆ ลามไปถึงผมครูด้วย)

นักเรียนชาย (หญิงบางคน) ........ถนัดถอดรองเท้า และเดินด้วยถุงเท้า

นักเรียนชายและหญิง...............จุ่มมือในน้ำสะบัด ๆ ก่อนกินข้าว

นักเรียนทั้งชายและหญิง............(ต้อง ) กินผัก (เพราะครูเดินตรวจจานอาหาร)

นักเรียนชายและหญิง...............พึงพอใจกับขนมกรุบกรอบและน้ำอัดลมมาก ๆ

นักเรียนชายและหญิง..............สนใจขนมในร้านสะดวกซื้อมากกว่าขนมไทย ๆ   

นักเรียนชายและหญิง...............น้ำหนักเกินเกณฑ์และต่ำกว่าเกณฑ์ เพิ่มขึ้น

                            ฯลฯ



สงสัยนะว่าเพราะอะไร...จึงไม่ให้ความสำคัญกับวิชาแห่งความสุข

" สุขศึกษา"  กันเท่าที่ควร...รึว่า...ไม่มีการสอบ ทั้ง NT และ o-net

โรงเรียนรวมทั้งครูจึงไม่ค่อยจะได้เน้นซ้ำย้ำทวนสักเท่าใด...?

ทั้ง ๆ ที่ วิชานี้น่าจะสำคัญยิ่ง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า STEM  หรือ ๕ วิชาหลัก

นั่นทีเดียว  ลองคิดดูว่า  หาก..สุขศึกษา...  กลายเป็น...

...ทุกขศึกษา... แล้วนักเรียนจะเอาสติปัญญาที่ไหนมาทำคะแนนสูง ๆ ให้โรงเรียน

จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมานั่งเรียนและฟังครูสอน...ได้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง



เอาเหอะนะ...!  ถึงแม้จะไม่มีการสอบระดับประเทศ  ก็ช่วยสอน  หรือ

ช่วยกันสอดแทรก  บูรณาการวิชาที่ว่าด้วยความสุข...สุขศึกษา...นี้

ในวิชาสำคัญ ๆ ที่สอนด้วยเถอะคุณครู....อย่างน้อย ๆ ได้

ผ่านหูเด็ก ๆ บ้างก็ยังดี....อย่าคิดว่า ไม่มีการสอบ  หรือ ไม่มีใน

หนังสือ  ก็สอน ๆ ไปงั้น ๆ เลยนะ....ช่วย ๆ กันนะ  เพื่อเด็กของเรา

เด็กที่..." ครอบครัว "  มอบหมายให้เราดูแลแล้วอย่าง (เกือบ ๆ )

เต็ม ๑๐๐  %   

หมายเลขบันทึก: 662099เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2019 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2019 20:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

You have pointed to the very important part of education –learning to be healthy–. With good health, we can go places, do wonders and think happy.

In today’s political climate, you have my vote for the top job in MoE ;-)– real Future is healthy children– with healthy mind like yours.

-สวัสดึีครับครู-โภชนาการ คือสิ่งที่ควรให้ได้เรียนรู้-สุขอนามัยสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กๆ ด้วยนะครับ-ขอเป็นกำลังใจให้ไร่เคียงตะวันพันดาว ที่จะเป็น Home School ซึ่ง บ้านไร่ Hi Hug House Farm School คงจะได้มีโอกาสได้ไปเรียนรู้ร่วมกันด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท