เคลื่อนทัพจัดการความรู้ กรมอนามัย ตอนที่ 9 ... KM - Reality Show (3.1) ... KM ห้องคลอด ตอน Story Telling


มองผู้รับบริการเหมือนญาติ เหมือนเป็นคนหนึ่งในบ้าน ไม่ได้มองเป็นคนไข้ หรือคนอื่น ทำให้เขาให้บริการคนไข้ได้ดีที่สุด

 

ตอนนี้ก็เป็นการนำมาเล่าที่เป็นความลำบากใจ ของดิฉันอีกตอนหนึ่งนะคะ เพราะว่า อยากเล่าทั้งหมด แต่มันย๊าว เลยต้องแบ่งตอนอีกแล้วละค่ะ

เรื่องนี้ Reality Show แบบจริงๆ จังๆ เลยเกิดเหตุการณ์แบบไม่คาดฝันขึ้นระหว่างการแสดงด้วย ... ติดตามนะคะ

เริ่มที่จัดฉาก Reality Show ละค่ะ ... เหมือนซะไม่มี


ณ สถานที่จำลองห้องคลอด รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 1

น้องอุ๋ม “คุณแม่คะ ตอนนี้เราอยู่ในห้องคลอดแล้วนะคะ คุณแม่จะต้องเตรียมพร้อมที่จะคลอดแล้วนะคะ ... คุณแม่จำได้มั๊ยคะ ตอนที่ได้พามาเยี่ยมคนในห้องคลอด จำได้มั๊ยคะ ว่าเขาต้องทำกันยังไง “

“คุณแม่รู้สึกเจ็บท้องหรือยังคะ .... ลองสูดหายใจ แบบที่เราเคยทำกันน่ะค่ะ ลองสูดหายใจดูนะคะ สูดเต็มปอดเลยคะ สูด ... เบ่งยังไงคะ อืด ด ด ด ด ด ด ย๊าว ยาว ... เก่งมากเลยค่ะ ... คุณแม่เหนื่อยหรือยังคะ พักก่อนนะคะ พักก่อนเน๊าะ นะคะ ...”

แล้วน้องอุ๋ม ก็ป้วนเปี้ยนที่เตียงคุณแม่น่ะแหล่ะค่ะ คอยให้กำลังใจ “คุณแม่เบ่งอีกนิดนึง นะคะ อดทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวก็จะได้เห็นหน้าลูกนะคะ”

และแล้ว ... คุณแม่ Reality Show ก็คลอดลูกออกมาเป็นตุ๊กตา ... เพศชายค่ะ

อีกวันหนึ่ง ...

อุ๋ม ...“พี่ปอยคะ พี่ปอยจำได้มั๊ยคะ ว่า เมื่อวานนี้ที่อุ๋มเชียร์เบ่งคลอดน่ะค่ะ ... เผอิญคุณแม่ตอนที่คลอดเสร็จ ก็มาคุยกับหนู ว่า อยากจะเอาชื่อหนูไปตั้งชื่อให้ลูกชายเขาค่ะ”

พี่ปอย ... “อ้าว แล้วหนูไปทำอะไรล่ะ คุณแม่เขาจึงจะเอาชื่อหนูไปตั้งชื่อเขาน่ะ”

อุ๋ม ... “ก้อ คงดูแลตอนที่เบ่งคลอด หนูเชียร์เขา”

พี่ปอย (ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ง ง ง) ...“ดีมากเลย หนูเก่งมากเลย พี่จะยังไม่ถามหนูหรอกนะว่า หนุทำยังไงบ้าง เดี๋ยวพี่จะเปิดเวทีให้ ให้คนอื่นได้ฟังด้วย พี่ว่า มันคือ KM เลยล่ะ เป็นปิ๊งของพี่เลยนะ เดี๋ยวกี่จะเปิดเวทีให้หนูได้เล่าให้คนอื่นๆ ฟังด้วยนะ ว่า หนูทำยังไง คุณแม่เขาถึงได้มาขอเอาชื่อหนูไปตั้งชื่อให้ลูกของเขา ...”

...

“มาเร้ว มาเร้ว ส่งเวรกันเสร็จแล้วนะคะ ... อย่างที่พี่เคยบอกไว้นะคะ ว่า ตอนนี้เรามีเรื่องของการจัดการความรู้เข้ามา และเราก็ตั้งประเด็นหัวปลาว่า เราจะปรับพฤติกรรมบริการ เพื่อให้ผู้รับบริการพึงพอใจ ตอนแรกๆ พี่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มได้อย่างไร แต่ว่า ตอนนี้มันมีเหตุการณ์อยู่เหตุการณ์นึง เกิดขึ้น และพี่มีความรู้สึกว่า อันนี้มันคือ KM เลย เพราะพี่ดูจากหน้าตา ท่าทาง คนเล่านะ เขาเล่าอย่างอิ่มเอิบ มีความสุข และเล่าลักษณะที่ว่า อยากให้เราชื่นชม ชมเชยเขา แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือ ผู้รับบริการพึงพอใจ ซึ่งเราคิดว่า อันนี้นะ คือ KM เลย ... แต่พี่จะไม่เล่าเองนะ พี่จะให้น้องคนที่เขาเจอเหตุการณ์นี้มาเล่าให้ฟังค่ะ”

“อุ๋ม อุ๋ม จำเหตุการณ์ที่เมื่อวาน อุ๋มมาเล่าให้พี่ฟังได้มั๊ยว่า มีคนไข้ที่มาขอเอาชื่ออุ๋มไปตั้งชื่อให้ลูกของเขาน่ะ อุ๋มเล่าให้พี่ๆ ฟังด้วยนะ ว่าอุ๋มไปทำยังไงว่า”

อุ๋ม “ก้อ ตอนที่อุ๋มเตรียมจะไปวัดความดันให้คนไข้หลังคลอดบนวอร์ด คนไข้ก็ถามว่า น้องชื่ออะไรค่ะ อุ๋มก็บอกไป พี่เขาก็บอกว่า พี่ประทับใจอุ๋มมากเลย ตอนที่เชียร์พี่เบ่งตอนคลอด งั้นพี่ขอใช้ชื่อของหนูไปตั้งชื่อให้ลูกนะคะ อุ๋มก็บอกว่า แล้วจะดีหรือคะ เพราะว่าลูกของพี่เป็นผู้ชาย ชื่ออุ๋มเป็นผู้หญิง เขาก็บอกว่า ดีคะ ดี พี่จะเอาไปตั้งเป็นชื่อเล่น ... เขาบอกว่า เขาประทับใจค่ะ”

“แล้วหนูทำอย่างไร”

อุ๋ม “อุ๋มก็คิดว่า เวลาที่คุณแม่รอคลอด เขาก็มีความรู้สึกว่า กลัวอยู่แล้ว และก็มีความเจ็บปวดด้วย คือ มีความเครียดหลายด้าน อุ๋มก็เลยคิดว่า เราควรจะผ่อนคลายให้กับเขา จับเนื้อต้องตัวเขา อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่า เราน่ะ ไว้ใจได้ ฝากความหวังไว้ที่เรา และเราก็ดูแลเขาเหมือนญาติมิตร ทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกลัวอะไร”

“เหนื่อยมั๊ย”

อุ๋ม “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ เพราะทำแล้วก็มีความสุข และเราก็ได้เป็นกำลังใจให้เขาด้วยค่ะ”

“หนูคิดยังไงล่ะ หนูถึงต้องทำขนาดนั้น เพราะว่าทำทุกรายเลยนะ เหนื่อยก็ไม่เหนื่อย”

อุ๋ม “หนูรักที่จะทำงาน ชอบการบริการอย่างนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ยากที่เราจะทำให้ไม่ได้ เพราะว่าการจับตัว ถูกตัวกัน ก็เหมือนกับการดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่อยู่ในบ้านน่ะค่ะ แต่นี่ก็เป็นการดูแลคนไข้คลอดที่เขากำลังเจ็บปวดอยู่”

“อยากชมเชยค่ะ เพราะว่ารู้ ว่า น้องเขาดูแลคนไข้จริงๆ ดูแลคนไข้ดี สีหน้า แววตา คำพูดของน้อง พูดจาเหมือนมีพลังให้คนไข้ทำตาม เสียงอ่อนโยน ... พี่ก็กำลังเลียนแบบน้องอยู่ จะปรับตามน้อง ... และน้องคิดว่า สิ่งที่ทำไปนั้น จะเกิดผลอะไรย้อนกลับมาหาตัวเราหรือไม่คะ

อุ๋ม “ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นเลยค่ะ แค่ตั้งใจทำ และทำให้ดีที่สุดเท่านั้นละค่ะ ไม่ได้คิดอย่างอื่น”

“พี่ฟังแล้วรู้สึกว่า ดี พี่ก็อยากจะลองทำบ้างนะ”

“วันนั้น พี่ก็อยู่ในเหตุการณ์ พี่ก็ไม่คิดจะทำอย่างที่อุ๋มทำเลย พี่เพียงแต่ยืนปลายเท้า ได้แต่เชียร์เฉยๆ พี่ก็ทำไม่เป็นนะ ที่ว่า ต้องไปสัมผัส ดูแลอย่างใกล้ชิด”

“แล้วน้องรู้ได้ยังไงว่า ตอนนี้คนไข้เบ่งแล้วละ เราต้องเชียร์เบ่ง ตอนไหน ยังไง”

อุ๋ม “ก้อจับดูที่หน้าท้องของเขาค่ะ ดูว่าเริ่มท้องแข็งหรือยัง ถามคุณแม่ว่า คุณแม่มีลมเบ่งหรือยัง และก็ช่วยเชียร์เขาตอนที่เขาเริ่มเบ่งค่ะ”

การคุยกลุ่มวันนั้น ได้มีการดึงเอาปัจจัยความสำเร็จของน้องอุ๋มออกมาด้วยค่ะ ได้ประเด็นว่า

  • มีใจรักที่จะให้ โดยไม่คำนึงถึงอะไร ตั้งใจจะให้อย่างเดียว
  • ให้แบบองค์รวม ซับเหงื่อให้ เชียร์เบ่ง ช่วยให้คลอดให้ได้
  • มีการสื่อสารกันระหว่างเจ้าหน้าที่พยาบาล กับน้อง และคนไข้ ให้ถูกต้อง ว่าจะเบ่งตอนไหน เพื่อที่พี่จะได้เตรียมคลอด
  • มีความรู้เรื่องการคลอด
  • มองผู้รับบริการเหมือนญาติ เหมือนเป็นคนหนึ่งในบ้าน ไม่ได้มองเป็นคนไข้ หรือคนอื่น ทำให้เขาให้บริการคนไข้ได้ดีที่สุด

ยังไม่จบนะคะ นี่แค่การแสดง เพิ่งไตเติ้ลเองค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 66189เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2006 11:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • สวัสดีครับคุณเพื่อนร่วมทาง
  • เป็นการสาธิตที่น่าตื่นเต้นและน่าตื่นตูมมาก ๆ เลยครับ
  • ถ้าผมได้ไปนั่งดูด้วยคงจะขอยืนอยู่ชิดขอบจอเลยครับ
  • เป็น Reality Show ที่เยี่ยมมาก ๆ ครับ

ขอบคุณค่ะ อ.ปภังกร ที่มาเยี่ยมชม

คราวหน้าอย่าพลาดนะคะ เชิญมาชมให้ได้ ศูนย์อนามัยที่ 1 เขามีแผนขยายกิจการ KM ไปที่งานอื่นๆ ต่อไปแล้วละค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท