บาส : “ป๊า บาสจบแล้วนะ”
ป๊า : “ดีใจด้วยลูก” แล้วเดินกอดคอลูกบาส (ทั้ง ๆ ที่บาสสูงกว่าป๊าเกือบยี่สิบเซ็นต์)
...
...
ป๊า : บาสจำได้ไหม ตอนปี ๑ บาสงอแงว่าไม่อยากเรียนแล้ว ไม่ชอบเลยสาขานี้ บาสอยากไปเรียนสาขาอื่น บาสอยากไปเป็นนักกีฬา ไปในสายกีฬาที่บาสถนัด ตอนนั้นป๊ากับอาจารย์นพมาศก็ให้กำลังใจบาส ถ้าป๊าจำไม่ผิด ป๊าก็บอกบาสว่า เรียนไปเถอะ เอาพอผ่าน ๆ ก็ได้ลูก ให้พอจบ ป๊าเชื่อว่าบาสจะทำได้ดี เพราะบาสไม่ใช่คนเกเร แค่มันอาจจะไม่ใช่จริตบาส ส่วนเรื่องกีฬาก็แบ่งเวลาดี ๆ ทำหลายอย่างพร้อมกันมันคงไม่ดีนัก แต่ความรู้มันติดตัวบาสไปตลอดชีวิต ป๊าอยากให้บาสเรียน แต่ถ้าบาสกับที่บ้านคุยกันและตัดสินใจแล้ว ป๊าก็เคารพการตัดสินใจนะ แต่วันนี้ บาสเรียนจบแล้ว สี่ปีนี่ไวมากเลย ดีใจด้วยนะ ที่บาสอดทนจนสำเร็จ
...
...
...
ป๊า : เรียนจบแล้ว บาสจะไปทำอะไรที่ไหนลูก
บาส : บาสยังติดสัญญากับกีฬาจังหวัดอยู่อีกหนึ่งปี ต้องครบสัญญาก่อน ถึงจะไปหางานอื่นทำได้
ป๊า : ดีแล้ว ก็ทำหน้าที่ต่อไป อย่างน้อยก็เรียนจบแล้ว
...
...
ดีใจที่ลูก ๆ เรียนจบ หลายคน ตอนเรียนมัธยมปลาย ช่วง ม.๖ อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ หลายคนก็เลือกมหาวิทยาลัย คณะ หรือสาขาวิชาตามที่ตั้งใจอยากเรียน ใฝ่ฝันมานานปีเพราะมีไอดอล แต่บางคนเลือกเพราะไม่รู้จะเลือกอะไร ขอให้สอบติด มีที่เรียนก็ดีแล้ว... แต่เมื่อเข้าไปเรียนแล้วก็ได้คำตอบว่า “มันไม่ใช่อะ” ... จะไปต่อหรือพอแค่นี้ แล้วไปสอบเข้าเรียนในที่ใหม่
... บางคนไปเรียนในที่ใหม่ ก็รู้สึกดีกับที่ใหม่ที่ “ใช่” บางคนไปที่ใหม่แล้วก็ได้แต่คิดเสียดายว่า ไม่น่าเปลี่ยนเลย และบางคนก็จำทนในที่ใหม่ ถูไถให้เรียนจบ แล้วก็จบ
... หลังเรียนจบก็คล้าย ๆ กัน บางคนรีบหางานทำ ได้อะไรก็เอาก่อนเพราะมีเงินเป็นที่ตั้งและเป็นสิ่งจำเป็นต้องมีต้องใช้ บางคนเปลี่ยนงานอยู่บ่อยครั้ง บางคนเลือกแล้วเลือกอีกจนไม่มีงานทำสักที... หลังเรียนจบก็ไม่มีสูตรสำเร็จ จังหวะชีวิตและเงื่อนไขหรือข้อจำกัดที่ต่างกันของแต่ละบุคคล ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจ “เลือก” ในสิ่งที่ดีที่สุดในขณะนั้น
...
...
...
แล้วป๊าก็ดีใจที่ลูก ๆ จบ แล้วปลายปี เราก็จะได้ถ่ายรูปตอนงานรับปริญญาด้วยกัน
ณ มอดินแดง
๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น