ผมขับรถกลับโรงเรียน..ด้วยหัวใจที่ชื่นมื่น มีความสุขเหลือเกินกับกิจกรรมงานบุญอุปสมบท ณ วัดบางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี..
นับเป็นสิริมงคลกับตัวเองและงานการศึกษาก่อนเปิดภาคเรียน ๒๕๖๒ เป็นการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่อย่างสวยงาม และสบายใจยิ่งนัก..
ถึงโรงเรียน..งานแรกที่ต้องทำก็คือ สำรวจตรวจสอบโต๊ะเทเบิลเทนนิสที่ให้ครูพลศึกษานำมาติดตั้ง ก็ดูดีสำหรับกิจกรรมกีฬาของนักเรียน รู้สึกดีใจที่ทำสำเร็จ
จากนั้น..ก็ยืนลังเลก่อนตัดสินใจว่าจะกลับบ้านหรือสะสางงานต่อ ท้องฟ้าเริ่มคำรามครืนๆ เมฆสีดำปกคลุมโรงเรียน..จนดูมืดมิดไปหมด
คิดแล้วว่าน่าจะอยู่ต่อ ใจยังจดจ่ออยู่กับตู้เอกสาร ๒ ตู้สุดท้ายในห้องพักครู มีเอกสารเก่าเก็บนานเกือบ ๑๐ ปี จุดประสงค์หลักอยากได้ตู้เก็บชุดนักกีฬา
ผมลงมือคัดแยก..จัดแบ่งไว้เป็นกองๆ แยกประเภทเอกสารจนเต็มห้อง มองเห็นแต่หนังสือกับกองกระดาษเกลื่อนกลาด..ไม่รู้สึกเหนื่อยเพราะได้กลิ่นไอฝน
ฝนเทลงมาอย่างหนัก ลมพัดกรรโชกแรง อุ่นใจที่โต๊ะเทเบิลเทนนิสตัวใหม่คลุมพลาสติกแล้ว ฝนตกแรงๆแบบนี้คิดว่า..ที่บ้านก็น่าจะตกเหมือนกัน
ผมเพลิดเพลินกับงานไปจนถึงฝนฟ้าซาเม็ด แต่งานไม่เสร็จต้องเก็บไว้จัดระเบียบในวันพรุ่งนี้ มีเวลาเหลืออีกหนึ่งวันก่อนเปิดภาคเรียน
นับเป็นอีกหนึ่งหน้ากระดาษของประวัติศาสตร์ชีวิต ที่ปิดเทอมตัวเองน้อยเหลือเกิน..๖ วันเท่านั้น ที่ห่างหายโรงเรียนด้วยมีภารกิจส่วนตัวที่สำคัญและจำเป็น
วันนี้..มีโอกาสได้สะสางงานสุดท้ายแต่ไม่อยากรีบเร่ง ทำไปอ่านไปเพื่อศึกษาความเป็นมาของเอกสาร..พบข้อมูลเก่าแต่รู้สึกได้ว่าเหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวันวาน
อย่างเช่น..สถิติจำนวนครูและนักเรียน เมื่อปี ๒๕๕๑ มีนักเรียน ๕๐ คน ครู ๓ คน..ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว..ทำไม?..ผมจะผ่านไปไม่ได้ในช่วงเวลาที่เหลือนี้
ผมพบปฏิทินตั้งโต๊ะเก่ามาก แต่มีคุณค่ายิ่งนัก หน้าปกพิมพ์ว่า “พออย่างเข้าใจ” ผมตั้งใจจะใช้ ๑ ในศาสตร์พระราชานี้บริหารจัดการสถานศึกษา
จากนั้น..ผมยังได้พบภาพแผ่นใหญ่ที่ผมเก็บไว้จนลืม มีด้วยกัน ๒ ชุด ผมให้โรงเรียนไว้ชุดหนึ่ง จะติดไว้ที่ห้องนอนชุดหนึ่ง เป็นภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙
ก่อนนอน ผมติดภาพในหลวงที่ทรง “ปิดทองหลังพระ”ไว้ที่ข้างฝา เสียงอึ่งอ่างร้องเซ็งแซ่ ดังระงมไปทั้งสวน ชวนให้ตื่นตาตื่นใจไปกับผลงานในช่วงปิดเทอม
ผมยอมรับ..ก็มีบ้างที่ทำงานในท่ามกลางโลกโซเชียล แต่ก็ไม่ได้คุยโม้โอ้อวดให้ใครฟังนอกจากบุคคลอันเป็นที่รักเท่านั้น..
ต่อไปนี้..ตั้งใจให้ลดน้อยลง เพื่อฝึกตนอย่างน้อยจะได้ไม่ยึดติดในผลผลิตแห่งคุณงามความดีที่ได้ลงมือทำ ผมคิดว่า..ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม
ผมอ่านพระบรมราโชวาทใต้ภาพ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน..พระผู้ปิดทองหลังพระ..อย่างแท้จริง
“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็น ก็ต้องปิด..ว่าที่จริงแล้ว คนโดยมากไม่ค่อยชอบ “ ปิดทองหลังพระ”กันนัก เพราะว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า…ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้….”
( พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๐๖ )
“งานทุกอย่างมีด้านหน้าและด้านหลัง เหมือนเหรียญบาท…งานด้านหน้านั้นมีคนทำกันเยอะแยะ และมีคนแย่งกันทำ…เพราะมีผลเห็นได้ชัดและก็ปูนบำเหน็จกันได้เต็มที่ แต่งานด้านหลังที่ไม่ปรากฏต่อสายตาของคน…ต้องเป็นคนที่เข้าใจงานและหน้าที่ของตัวจริงๆ ถึงจะทำได้ และต้องเสียสละด้วย…เพราะ…งานด้านหลังเป็น “งานปิดทองหลังพระ” ถ้าทำดีแล้วต้องไม่ให้เห็นปรากฏ…และต้องยอมรับว่าไม่ได้อะไรตอบแทนเลย นอกจากความภูมิใจในการทำงานในหน้าที่ของตน…
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น