ครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศไทยกำลังจะร่ำรวยยิ่งขึ้นเพราะการช่วยประเทศจีน


นายเจี่ย เอ็ก ซอร์ (Chia Ek Chor) อพยพจากหมู่บ้านที่ถูกทำลายด้วยไต้ฝุ่นในทางใต้ของประเทศจีน มาสู่ประเทศไทย โดยการขายเมล็ดพันธุ์ผัก กับน้องชายของเขาในปี 1921 เกือบๆจะร้อยปีต่อมา ทายาทของเขากำลังกำลังกลายเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจหลักของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน

ลูกชายของเจี่ย ชื่อ ธนินท์ เจียรวนนท์  ซึ่งเป็นกรรมการอาวุโสของเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด เครือนี้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกในเรื่องอาหารสัตว์, กุ้ง, รวมทั้งบริษัทการสื่อสารทางไกลในประเทศไทย  มันเป็นศูนย์กลางของการวางแผนอันทะเยอทะยานในการเปลี่ยนชายทะเลฝั่งตะวันออกของไทย ให้กลายเป็นฮับทางเทคนิค (a tech hub) ด้วยรถไฟหัวกระสุน, เครือข่าย 5G และโรงงานผลิตรถอัจฉริยะ (smart car factories)

สิ่งที่เรียกกันว่าการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกนั้นเป็นโครงการของระบบทหารในประเทศไทย เป็นการแข่งขันกันระหว่างการลงทุนของญี่ปุ่น กับยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน เช่นกลุ่มอาลีบาบา และเทคโนโลยีหัวเหว่ย ที่ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตถึง 4.1 % เมื่อปีที่แล้ว ระดับความเจริญนี้ต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การเลือกตั้งในวันที่ 24 ที่ผ่านมา มีนัยยะว่าโครงการจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะว่าผู้ตรวจสอบวิจารณ์ว่าการไล่ชาวนาในชุมชนออกไป เพราะเห็นแก่ผู้ลงทุนชาวจีน

“ชาวบ้านจะถูกลดเกรดลงเป็นพลเมืองชั้นสอง” Somnuck Jongmeewasin เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร ณ วิทยาลัยนาๆชาติ ที่ศึกษาเรื่อง EEC กล่าว “พื้นที่อาณานิคตมกำลังเกิดขึ้นใน EEC ผ่านนโยบายการลงทุนของจีนกับไทย”

การให้สัญญาณจากประธานาธิบดีสี เรื่องเส้นทางสายไหม (Belt and Road Initiative) กำลังถูกโจมตีในหลายๆประเทศ เช่น ศรีลังกา และ มาเลเซียในเรื่องโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งให้ประโยชน์กับประเทศนั้นน้อยเกินไป และทำให้ประเทศเหล่านั้นติดหนี้อย่างหนัก แต่ทหารที่ยึดอำนาจในปี 2014 ก็ยังคงเป็นพันธมิตรอยู่ โดยมีการคาดหมายว่าจะได้เงินจากการลง

ทุน 1.7 ล้านล้าน (53 พันล้านดอลลาร์) เพื่อการพัฒนาจังหวัดที่อยู่รอบๆชายฝั่งใกล้เคียงกับเมืองหลวง ได้แก่ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, และระยอง

ทั้งสามจังหวัดคือสิ่งที่เจริญเติบโตเร็วที่สุดของประเทศ ด้วยการมีการท่องเที่ยวจากเมืองไกล เช่น พัทยา ทำให้การอุตสาหกรรมอ่อนลง ถนนหลายสายตัดผ่านนาข้าว, ต้นมะพร้าว, และมะม่วง และฟาร์มจะถูกแทนที่ด้วยอุตสาหกรรม เช่น โรงงานเคมี จำพวกโรงงานของ Toyota แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสามารถหาได้จากแหลมฉบัง

กลุ่ม CP เป็นท่อสำหรับการลงทุนของจีนในภูมิภาค สมาคมที่นำโดย CP เช่น องค์การรถไฟของจีน เป็นผู้ประมูลด้วยสัญญาที่ต่ำที่สุด ประมาณ 225 พันล้านบาท เพื่อสร้างเครือข่ายรถไฟ 200 กิโลเมตร เชื่อมโยงกับสนามบินนาๆชาติใกล้กรุงเทพฯ และ อีกที่หนึ่งคือที่ใกล้พัทยา ที่มีโซนอุตสาหกรรมบนชายฝั่งทะเลตะวันออก กลุ่มนี้ยังเป็นผู้ประมูลโซนสนามบินด้วย

แต่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลสามารถนำไปสู่การตรวจสอบในเรื่องโครงการ EEC อย่างเข้มข้นมากขึ้น เพราะไม่มีพรรคใดเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง ดังนั้นทั้ง 7 ที่ต่อต้านทหาร มีการรวมตัวกันเป็นรัฐบาลผสม ในขณะที่พรรคทหารของประยุทธ์ ได้ตัดขาดจากพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเมื่อก่อนนำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ต่อมาลาออกเพราะได้คะแนนเสียงน้อย พ่อของเขาเป็นผู้จัดการ CP มากกว่า 15 ปี แต่เพราะไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก ดังนั้นจึงอาจเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือนในการสร้างรัฐบาล

“รัฐบาลทหารยังคงครองอำนาจแบบเต็มอยู่” Harrison Cheng กล่าว “ภาพนี้ยังคงวุ่นวาย จนกระทั่งรัฐบาลใหม่มีขึ้น ไม่ว่าการรวมจะอยู่ข้างไหนก็ตาม”

Bhokin Bhalakula กล่าวว่า “พรรคตรงข้ามกับทหารกำลังต่อสู้ เพื่อคัดค้านนโยบายทุนนิยมแบบผูกขาด” นอกจากนี้เขายังเสนอให้ขุดคลองคอคอดกระที่เชื่อมทางใต้ของประเทศ ในฐานะที่เป็นทางเลือกในโครงการ EEC โครงการ EEC เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ซึ่งจะต้องทำในทุกรัฐบาล ตรงนี้เป็นเหตุให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เพราะต้องทำตามแผน 20 ปี

เมื่อวานนี้สำนักงานตรวจการแผ่นดินกล่าวว่ายอมรับคำร้องที่เสนอว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่

“พวกเขาคิดว่าการนำยักษ์ใหญ่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่คนตัวน้อยๆจะไม่ได้ประโยชน์พืชผลอันใด” Bhokin กล่าว “มีเพียงคนที่ร่ำรวยจะได้ประโยชน์”

ในขณะที่ผู้ลงทุนชาวญี่ปุ่น เช่น Hitachi เป็นผู้นำในโครงการ EEC ตั้งแต่แรกเริ่ม แต่การเชื่อมโยงจจีนของCP จะช่วยลงทุนทางเทคโนโลยีให้ Kanit Sangsubhan กล่าว การลงทุนของจีนในเมืองไทยเป็นอันดับสาม รองลงมาจากญี่ปุ่น และสิงคโปร์

“คลื่นลูกต่อไปจะเน้นไปที่เทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งจีนมีความเข้มแข็ง” Kanit กล่าว เขายังพูดอีกว่า การประเมินสภาพแวดล้อมด้านการใช้ที่ดิน และจุดมุ่งหมายเรื่องการท่องเที่ยวจะส่งผลกระทบต่อชาวนาให้น้อยที่สุด”   

กลุ่ม CP ได้ลงทุนใน EEC หลายโครงการตั้งแต่การสร้างรถยนต์โดยร่วมมือกับกลุ่มยานยนต์ของจีน ไปจนถึงการพัฒนาที่ดิน ซึ่งร่วมมือกับกลุ่มวิศวกรรมการสร้างแห่ง Guangxi ของจีนในการพัฒนาที่ดินเชิงอุตสาหกรรมประมาณ 3,068 ไร่ ที่มีจุดมุ่งหมายให้รองรับผู้ลงทุนจากจีน

หัวเหว่ยกำลังลงทุนในด้านการทดสอบ 5G ในประเทศไทย ถึงแม้สหรัฐจะกีดกันบริษัทด้วยการหาว่าต้องการจะมาครอบครองเครือข่ายโทรศัพท์สำหรับคนรุ่นถัดไป CP ที่หนุนหลังบริษัท True ซึ่งกำลังสร้างห้องทดลองทางอินเตอร์เน็ท (Internet-of-Thing lab) กับหัวเหว่ย และใช้อุปกรณ์ของหัวเหว่ยในการให้บริการ 4G มาแล้ว โฆษกของหัวเหว่ยพูดว่ามีการเชื้อเชิญบริษัทให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการทดสอบ 5G ในโครงการ EEC

ในการแสดงว่าการที่โครงการ EEC ใช้การลงทุนจากจีนในเรื่องยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี คือการที่อาลีบาบา ซึ่งนำโดยแจ็ค หม่า มหาเศรษฐีพันล้านพบกับประยุทธ์เมื่อปีที่แล้ว และได้ลงนามในสัญญาศูนย์กลางเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์แบบอัจฉริยะเข้าด้วยกัน (smart digital hub) ที่เป็นส่วนหนึ่งของ EEC การลงทุนของอาลีบาบาในโครงการ EEC ยังเกี่ยวข้องกับการกระจายข้าวไทย และการส่งออกทุเรียนโดยผ่านชานชาลาดิจิตัล (digital platform)ในบริษัทของจีน

นอกจากนี้ CP ยังเป็นหุ้นส่วนของหม่าในด้านการเงิน ซึ่งส่งผลใน e-wallet และบริการการปล่อยสินเชื่อจำนวนเล็กน้อย (micro loan) การสัญญา (ที่ไม่ใช่ EEC) ใช้เครือข่ายของ CP ตามร้าน 7-Eleven

CP กล่าวในโครงการ EEC ว่า “จะสนับสนุนการเปลี่ยนถ่ายเศรษฐกิจไทย และทำให้ทศวรรษของการพัฒนา และความเจริญเติบโตยังคงอยู่”  มีการกล่าว่า CP ได้ลงทุนในเรื่องรถไฟความเร็วสูง ที่เป็นส่วนหนึ่งของกิจการค้าร่วมระดับโลก ที่เชื่อมโยงไทย, ยุโรป, จีน, และญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน

ธนินท์ปฏิเสธในบทสัมภาษณ์ที่ขอเรื่องราวเหล่านี้ ในเหตุการณ์เดือนมีนาคม Suphachai Chearavanont ซึ่งเป็นกรรมการใหญ่ของ CP กล่าวว่า “ประเทศไทยจะกลายเป็นฮับ (hub) และมีการเชื่อมต่อกับทั่วโลกทั้งหมด ผ่านประเทศจีน, เวียดนาม, พม่า, และมาเลเซีย” Suphachai เป็น CEO ในปี 2017 เวลาเดียวกับพี่ชายที่ชื่อ Soopakit ได้กลายมาเป็นกรรมการใหญ่ ทำให้การผ่องถ่ายธุรกิจของครอบครัวไปสู่รุ่นที่สาม

มีการทำนายว่าครอบครัวเจียรวนนท์ มีเงินประมาณ 20.9 พันล้านดอลลาร์ ตามที่ดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg คาดการณ์ ที่หนุนโดย CP เข้าร่วมหุ้นกับกลุ่มประกันชีวิต Ping An ซึ่งได้อันดับ 3 เมื่อบริษัทเข้ามามีส่วนร่วมในปี 2012 ครอบครัวไทยส่วนหนึ่งมีเชื้อสายจากจีน รวมทั้ง Sys ในฟิลิปปินส์ และ Robert Kuok ในมาเลเซีย

การขึ้นของเจียรวนนท์ก็มีการเจ็บตัวบ้าง กลุ่มนี้มีสองสามปีที่ผ่านมาประสบกับข้อกล่าวหากับบริษัทอื่นๆที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกุ้ง ซึ่งใช้ห่วงโซ่อุปทานที่กดขี่กรรมกร ในปี 2017 ศาลสหรัฐยกเลิกคำสั่งในการหยุด CP และบริษัทอื่นๆที่ขายกุ้ง เว้นไว้แต่ว่าจะไม่มีการขูดรีดพวกทาสอีก CP กล่าวโทษการกดขี่ทาสทุกประเภท ในเดือนมกราคมปีนี้ ประเทศไทยให้สัตยาบรรณกับองค์การกรรมกรนาๆชาติเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการประมง

เทคโนโลยียังถูกแบ่งปัน การกล้าได้กล้าเสี่ยงกับ Guangxi ที่ถูกเรียกว่ากลุ่ม CG มีการลงนามในข้อตกลง เช่น การเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี กับสถาบันวิทยาศาสตร์ของประเทศจีน คณะกรรมการของกลุ่ม CP ที่ชื่อ Tse Ping ซึ่งเป็นหลายชายมหาเศรษฐีของธนินท์ ได้ลงนามในสัญญาเมื่อเดือนมกราคมกับสถาบันการศึกษาของจีนเพื่อการสร้างหุ่นยนต์สำหรับการผลิตอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green smart manufacturing) ในกรุงปักกิ่ง และหมาเก๊า

ความใฝ่ฝันของกลุ่มแสดงให้เห็นว่าจากเจียเริ่มต้นจากการส่งออกผลิตพืชไปจนถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตรไทยว่าเป็นมาอย่างไร ในปี 1946 เขาและน้องชายได้เปลี่ยนนามสกุลเป็นเจียรวนน์ และตั้งชื่อบริษัทเป็น เจริญโภคภัณฑ์ ที่มีความหมายว่า ความเจริญของผู้บริโภค

พวกเขาสร้างธุรกิจโดยเริ่มจากอุตสาหกรรมอาหาร เช่น การให้อาหารสัตว์, จัดแจงนำอาหารให้เป็นหีบห่อ,  และเป็นเจ้าของตลาดที่มีขนาดใหญ่ กลุ่มนี้เป็นผู้ลงทุนในไทยคนแรกในเมือง Shenzhen ในธุรกิจแบบเปิดภายใต้นโยบายของ Deng Xiaopeng และ ดำเนินความสนใจทางธุรกิจเรื่อยมา

“ตอนนี้เป็นกลุ่มที่มีการแตกย่อยมากๆ” Kirby ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย Harvard กล่าว “ในไทยจะลงทุนด้านเกษตรกรรม, เทเลคอม, 7-Eleven, และอื่นๆอีกมากมาย และต่อมาก็เป็นจีน”

 แปลและเรียบเรียงจาก

Blake Schmidt and Natnicha Chuwiruch. Thailand’s Richest Family Is Getting Richer Helping China

https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-04-23/richest-family-in-thailand-is-getting-richer-by-helping-china

หมายเลขบันทึก: 661631เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2019 18:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2019 18:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

Thank you for this article.

I have a ‘nag’ however that you translated without any note to ‘errors in original article’ for example:

[original]…named the company Charoen Pokphand, meaning “prosperity to consumers” in Thai.

[your translation] …ตั้งชื่อบริษัทเป็น เจริญโภคภัณฑ์ ที่มีความหมายว่า ความเจริญของผู้บริโภค

[Correct translation of เจริญโภคภัณฑ์ using ‘the Royal Institute Thai Dict. 2542 BE]เจริญ [จะเริน] ก. เติบโต, งอกงาม, ทำให้งอกงามโภค [โพก, โพคะ-, โพกคะ-] น. สมบัติ เช่น ถึงพร้อมด้วยโภคะ. ก. กิน, ใช้สอย. (ป., ส.)ภัณฑ์ น. สิ่งของ, เครื่องใช้. (ป.; ส. ภาณฺฑ).

would indicate that the meaning in the original article is in error and should be noted for benefits of some Thai readers.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท