อดเปรี้ยวไว้กินหวาน


มะม่วงเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีรสชาติดี รับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ให้พลังงานสูง เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพแทสเซียม เส้นใยอาหารและวิตามิน หลายคนเชื่อว่ามะม่วงอาจมีคุณสมบัติต้านเบาหวาน มะเร็ง การอักเสบ การติดเชื้อต่างๆและต้านสารอนุมูลอิสระได้

มะม่วงนับเป็นผลไม้ที่มีรสหวานมากชนิดหนึ่ง จึงมีปริมาณน้ำตาลสูงตามไปด้วย แต่ผลไม้ที่มีรสหวานจะมีเส้นใยอาหารและคุณค่าทางโภชนาการอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ทำให้ความหวานของมะม่วงแตกต่างจากความหวานของน้ำตาลทรายขาวที่ผ่านกระบวนการฟอก นอกจากนี้มะม่วงยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากรับประทานขนมหวาน เพราะได้รับสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

มะม่วงนอกจากจะอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายยังสามารถรับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก มะม่วงดิบอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งมีสารอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคหวัดและเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงผิวพรรณ ส่วนผลสุกจะอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบตาแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและโรคตาบอดกลางคืน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย

ไทยเรามีสำนวนที่ว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน มีความหมายว่า อดใจไว้ก่อนเพื่อรอสิ่งที่ดีกว่า

ที่มาของสำนวนมาจากผลไม้บางชนิดเช่น มะม่วง ส้ม ซึ่งกินได้สองระยะ ระยะแรกเมื่อผลยังดิบอยู่จะมีรสเปรี้ยว เมื่อปล่อยไว้ให้แก่จัดจึงจะมีรสหวาน หากต้องการกิน รสหวานก็ต้องอดใจไม่กินตอนที่ผลยังไม่สุก สำนวนอดเปรี้ยวไว้กินหวานปรากฏในวรรณคดีเช่น

...เจ้าอุตส่าห์อดเปรี้ยวไว้กินหวาน

ฝึกหัดราชการให้จงได้

ถ้าได้ดีมียศปรากฏไป

เหมือนแทนคุณขุนไกรผู้บิดา...

ขุนช้างขุนแผน ตอน นางทองประศรีสอนขุนแผน

...ธรรมดามาเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง

ต้องอ้อยอิ่งอดเปรี้ยวไว้กินหวาน

เราอุตส่าห์พยายามตามโบราณ

คงเป็นการมั่นคงอย่าสงกา...

พระอภัยมณี ตอน สามพราหมณ์สอนศรีสุวรรณ

ไม่ว่าจะดิบหรือสุก มะม่วงก็นำมาทำอาหารได้หลากหลายชนิดล้วนแต่รสชาติอร่อยถูกใจทั้งนั้น

(ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

หมายเลขบันทึก: 661468เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2019 11:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2023 20:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท