การประชุมเตรียมการ PMAC 2020 ที่โตเกียวปีนี้กำหนดระหว่างวันที่ ๓ - ๕ เมษายน ๒๕๖๒ เที่ยวบิน ที่พัก และสถานที่ประชุมเหมือนของปีที่แล้ว ซึ่งเล่าไว้ที่ (๑)
วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒
๑๘ น. ผมนั่งแท็กซี่ออกจากบ้าน ขึ้นทางด่วนไปสนามบินสุวรรณภูมิ ๑๙.๑๕ น. ถึง และเช็กอินได้ทันที ตอนตรวจความปลอดภัยพบ ศ. นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา จึงไปเล้าจน์ด้วยกัน ใกล้ๆ ประตูทางออก D เพราะ ANA NH 850 ออกที่ประตู D7 ไปพบ Eva Lounge มีเครื่องหมาย Star Alliance เรามีสิทธิ์ใช้ได้ เป็นห้องรับรองที่ดี มีอาหารและเครื่องดื่มดีกว่าห้องรับรองของการบินไทย
ผมได้ที่นั่ง 2K ริมหน้าต่าง และออกไปเข้าห้องน้ำสะดวก เครื่องบินออกตรงเวลา เป็นเครื่อง B 787 เหมือนเมื่อปีที่แล้ว ขึ้นไปถึงผมขอน้ำขวดมากินยา แล้วกรอกแบบสอบถามว่า ห้ามปลุก และไม่กินอาหารเช้า เข้านอนเวลา ๐.๓๐ น. เวลาญี่ปุ่น ตื่นเวลา ๔.๓๐ น. เพราะเขาเปิดไฟเตรียมให้กินอาหารเช้า ได้นอน ๔ ชั่วโมง โดยลุกไปเข้าห้องน้ำ ๑ ครั้ง
๒ เมษายน ๒๕๖๒
เครื่องบินแตะพื้นที่สนามบินฮาเนดะ ๕.๑๐ น. (เวลาญี่ปุ่น) ออกจากเครื่อง เดินไปไกล มีทางเลื่อนเป็นระยะๆ ไปที่ immigration ฝั่ง visitor คิวยาวมาก แต่ก็เคลื่อนตัวเร็ว มีฝรั่งสูงอายุมาโตเกียวมาก คงจะมาดูดอกซากูระ ตอนผมเข้าตรวจ พาสปอร์ตราชการออกฤทธิ์ เขาถามว่ามาราชการหรือ ผมตอบว่าใช่ มางานของ JICA ผมไม่ต้องถ่ายรูปและพิมพ์ลายนิ้วมืออย่างคนอื่นๆ
ออกไปที่สายพาน B เพื่อรับกระเป๋า กระเป๋ามาแล้ว กว่าคนอื่นๆ จะออกมาก็ใช้เวลารออยู่นาน คณะของเรา ๑๒ คน ปรากฏว่า อ. หมอกรพัฒน์ (ศิริราช) ออกไปก่อน และไปเลย ไม่รอคณะ เราจึงเหลือ ๑๑ คน นั่งแท็กซี่ ๓ คันไปโรงแรม Grand Hill Ichigaya ที่เดียวกับปีที่แล้ว ยังไม่ ๘ น. เราก็ถึงโรงแรม คนแก่ได้รับบริการพิเศษ ได้เข้าห้องก่อน คนอื่นต้องรอจน ๑๔ น. ผมได้ห้อง E 517 อยู่ในอาคารใหญ่ ที่เรียกว่า East Wing ขนาดห้องพักเท่าของปีที่แล้ว (๑๗ ตารางเมตร) แต่สู้ปีที่แล้วไม่ได้ ไม่มีวิว
อากาศเย็น อุณหภูมิ ๖ องศา เซลเซียส
ขากลับ ๕ - ๖ เมษายน ๒๕๖๒
เรานั่งแท็กซี่ ๓ คัน ไปสนามบินฮาเนดะ ออกจากโรงแรม ๒๐.๐๐ น. ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง สนามบิน ไปเช็คอินที่สายการบิน ANA แล้วไปห้องรับรอง ANA ใกล้ประตูขึ้นเครื่อง ๑๑๑ ที่ NH 1915 ออก เขาแนะนำให้ไปที่อีกห้องรับรองหนึ่งที่คิวอาบน้ำไม่ยาว อยู่ใกล้ประตู ๑๑๔ ระหว่างเดินไปพบร้านขายขนม ทีมจึงเข้าไปซื้อของฝาก ผมซื้อชาเขียวอย่างเดียว
ห้องรับรองของ ANA กว้างขวาง มีปลั๊กไฟทุกที่นั่ง มีก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่นรสชาติดี อาหารเครื่องดื่มและสุราเพียบ โดยเฉพาะเหล้าสาเกมีถึง ๕ ชนิด ผมติดใจหมูสามชั้น
เครื่องบิน B787 ที่นั่งแบบเก่า นอนไม่ราบ ที่นั่งชั้นธุรกิจ 2-2-2 ผมได้ที่นั่ง 1D แต่เนื่องจากผู้โดยสารไม่เต็ม ผมจึงขอย้ายไปนอนริมหน้าต่าง ที่นั่ง 1A โดยที่ 1B ก็ว่าง ขึ้นไปถึงผมขอน้ำ ๑ ขวด และบอกว่าขอนอน ไม่ต้องปลุกกินอาหารเช้า เขาถามว่าเผื่อผมตื่นจะกินอาหารอะไร ผมบอกว่ากินอาหารญี่ปุ่น และได้ขอซื้อ Personal Air Purifier ราคา ๑๓,๘๐๐ เยน กับ Plum Wine ๑ ขวด ๕๐๐ ซีซี รวม ๒๐,๖๐๐ เยน แล้วผมนอน
ตีสามเศษๆ เวลาไทยเขามาปลุก บอกว่าอีก ๑ ชั่วโมงเครื่องจะลง ผมสั่งซื้อของปลอดภาษีไว้ ต้องรับของและจ่ายเงินให้เสร็จ และจะกินอาหารด้วยไหม เขาให้เวลากิน ๑๕ นาที ผมกิน พบว่าอาหารพื้นๆ ไม่อร่อยมาก สู้ในห้องรับรองที่สนามบินไม่ได้
เวลา ๕.๓๐ น. ผมก็นั่งแท็กซี่ถึงบ้าน
วิจารณ์ พานิช
๖ เม.ย. ๖๒
ไม่มีความเห็น