พระพุทธโฆษาจารย์ ป. ประยุตโต ได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับความเป็นมาของหลักคำสอนของพุทธศาสนา ได้อย่างน่าฟังยิ่ง ผมฟังและจับประเด็นแบบสด ๆ เพื่อประเทืองปัญญาของตนเอง นำมาบันทึกแลกเปลี่ยนไว้ ให้นักอ่านครับ
VIDEO
เยรูซาเลมเมืองศักดิ์ต้นกำเนิดแห่งความขัดแย้ง
อัฟกานิสถาน เคยเป็นแดนพระพุทธศาสนา จะเห็นจากที่มีพระพุทธรูป
อัฟกานิสถาน ตั้งอยู่ในดินแดนของชมพูทวีป ชมพูทวีปประกอบด้วยแคว้น ๑๖ แคว้น เริ่มจากตะวันออกนับไปเรื่อย ได้ดังนี้
แคว้นอังคะ คือบังคลาเทศในปัจจุบัน
แคว้นมคธ ซึ่งเป็นแคว้นคู่กับอังคะ
แคว้นกาสี มีเมืองหลวงชื่อ เมืองพาราณสี
แคว้นโกศล มีเมืองหลวงชื่อ สาวัตถี คู่กับแคว้นกาสี
แคว้นวัชชี เป็นมหาอำนาจในยุคพุทธกาล มีเมืองหลวงชื่อ เวสาลี
แคว้นมัลละ มีเมืองหลวงชื่อ กุสินารา เมืองที่ประพุทธเจ้าปรินิพพาน
แคว้นเจตี ไม่ค่อยมีชื่อเสียง
แคว้นวังสะ มีเมืองหลวงชื่อโกสัมพี เมืองสำคัญของกามนิตรวาสิถี
แคว้นกุรุ
แคว้นปันจาละ
แคว้นมัจฉะ
แคว้นเจนละ
แคว้นอัสกะ
แคว้นอวันตี มีชื่อเสียงเรื่องกามนิตรวาสิถีด้วย มีเมืองหลวงชื่อ อุตเชนี
แคว้นคันธาละ มีเมืองหลวงชื่อตักสิลา เป็นเมืองของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ เช่น หมอชีวก ฯลฯ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อยู่ในแคว้นนี้เอง
แคว้นกัมโพชะ อยู่เหนือสุดต่อกับอาเซียร์กลาง
เยรูซาเลม เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของ ๓ ศาสนา ได้แก่ ยิว อิสลาม และคริสต์ แต่แทนที่จะปรองดองกับเป็นเหตุให้รบกันมาเป็นพันปี
ดินแดนแถบประเทสอิสราเอล พวกยิวเคยอยู่มาก่อนราว ๆ ๔,๐๐๐ ปีก่อน ต่อมาเกิดความแห้งแล้งจึงอพยบไปอยู่อิยิปต์
กษัตรย์ฟาโรว์ เกรงจะศูนย์เสียพื้นที่ให้กับยิว จึงจับคนยิวเป็นทาส สร้างปีรามิดในยุคที่อาราจักโรมันรุ่งเรือง
ประมาณ ๑,๒๐๐ ปี ก่อนคริสต์จักราช ได้มีคำทำนายว่า คนยิวจะมีผู้นำที่เข้มแข็งมาเกิด แล้วจะพาคนยิวให้ยิ่งใหญ่ กษัตริย์ฟาโรว์จึงรับสั่งให้ฆ่าเด็กยิวทั้งหมด
แต่มีเด็กคนหนึ่งที่รอดมาได้ ซึ่งภายหลังก็คือโมเสส แม่ได้ลอยแพให้มาตายเอาดาบหน้าในตะกร้าลอยน้ำไป ตะกร้าลอยน้ำไปติดตาข่ายที่ใช้ป้องกันความปลอดภัยให้เจ้าหญิงชาวอิยิปต์
เจ้าหญิงเกิดความเอ็นดู เลยเก็บไปเลี้ยงในวัง เมื่อโตขึ้นก็ได้เป็นใหญ่เป็นโต คอยช่วยเหลือคนยิว และพาชาวยิวหนีออกจากอิยิปต์ ข้ามรีซซี รอดการตามล่าของกองทัพอียิปต์ที่ถูกน้ำขึ้นท่วมตายหมด
เมื่อข้ามไปได้ แต่เจอกับความแห้งแล้งของทะเลทราย คนเริ่มขาดวินัย โมเสสจึงขึ้นไปยอดเขา กลับลงมาบอกว่า ได้ไปพบกับพระเจ้า พระยะโฮวา ได้รับสั่งว่า ให้ทุกคนปฏิบัติตามบัญญัติ ๑๐ ประการ ทำให้คนยิวมีความหวัง มีระเบียบวินัย เชื่อว่าโมเสสก็คือพระศาสดาของศาสนายิว เข้าไปอาศัยอยู่ในแผนดินที่เป็นปาเลสไตล์และอิสราเอลในตอนนี้
ต่อมาก็แตกออกเป็นสองอาณาจักร คือ อาณาจักรยิวและอาณาจักรยูดา (หรือจูดา ก็คือ จอร์แดนในปัจจุบัน)
ต่อมาถูกชนชาติอื่น ๆ เวียนมาปกครองคนยิวหลายครั้ง จนกระทั่งอาณาจักรโรมันเข้ามาปกครอง
ในสมัยของออกัสตัสซีซาร์ จักรพรรดิของโรมัน พระเยซูเกิดขึ้นในยุคนี้ อายุประมาณ ๑๒ กว่า - ๒๗ ปี ประวัติหายไป
พระเยซูอายุ ๓๐ เริ่มสอน ถูกจักรวรรดิโรมันอิจฉา ถูกลูกศิษย์ของตนคนหนึ่งหักหลัง โรมันสืบสวนและตัดสินให้ตรึงไม้กางเขน ท่านสอนอยู่เพียง ๓ ปีเท่านั้นเอง แสดงว่าท่านสิ้นชีพตอนพระชนม์มายุเพียง ๓๓ ปี
ในช่วงประวัติที่หายไปของพระเยซูคริสต์ อายุ ๑๒ -๒๗ ปีนั้น มีการค้นคว้ามากมาย มีอธิบายไว้หลายทาง
ทางหนึ่งบอกว่า ในช่วงนั้นท่านมาเรียนรู้ศาสนาพุทธที่ชมพูทวีป ท่านนับถือศาสนาพุทธ และไปสอนคำสอนของพุทธ แต่คำสอนคริสต์ในขณะนี้เป็นคำสอนที่คิดขึ้นใหม่
ในช่วงที่โรมันเป็่นใหญ่นี้ ชาวคริสต์ถูกกำจัดเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งประมาณปี ค.ศ. ๓๐๐ กษัตริย์คอนสแนตินของโรมัน กลับหันมานับถือคริสต์เสียเอง หลังจากนัน ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติไป จึงเริ่มการกำจัดผู้ต่อต้านคริสต์บ้าง
อีกประมาณ ๓๐๐ ร้อยปีต่อมา มีเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อ เมืองเมกกะ อยู่ใต้นครเยรูซาเลมลงมาประมาณ ๑,๒๐๐ กิโลเมตร มีชายชื่อมูฮัมหมัด ซึ่งต่อมาก็คือศาสดาของศาสนาอิสลาม แต่ถูกขับไล่ไปอยู่เหนือเมืองเมกกะประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ชื่อเมืองมาดินะ ก่อนจะกลับมาทำสงครามได้เมืองเมกกะคืน ท่านเผยแผ่ศาสนาอยู่จนปี ค.ศ. ๖๓๒ ปี
ศาสนาอิสลามจึงเกิดขึ้น หลังจากคริิสตศักราช ๖๓๒ ปี ก่อนเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ที่เมืองเยรูซาเลม เยรูซาเลมจึงเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของอิสลามด้วย
กาหลิบ ผู้สืบทอดต่อจากพระมูฮัมหมัด ก็ทำสงครามขยายดินแดนเรื่อยมาก จนป ค.ศ. ๖๔๐ จึงสามารถตีเอาชนะโรมันได้ครองเมืองเยรูซาเลม
ชาวมุสลิมครองเมืองเยรูซาเลมเรื่อยมาอีกกว่า ๔๐๐ ปี ในขณะที่ทางคริสต์ที่มีโป๊ปเป็นใหญ่ มีอำนาจมาก สามารถสั่งลงโทษกษัตริย์ได้
ค.ศ. ๑,๐๙๙ โป๊ปพระองค์หนึ่ง มีดำริว่า จะไปตีเอาเมืองเยรูซาเลมกลับมา เกิดสงครามเยรูซาเลมกลับมา และปกครองอยู่เกือบร้อยปี ก่อนจะถูกตีกลับเป็นของมุสลิม ตีกลับไปกลับมาแบบนี้ ๘ ครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็ปกครองโดยชาวมุสลิมเป็นหลัก
สงครามโลกครั้งที่ ๑ อังกฤษเข้ามาปกครองเยรูซาเลม เห็นว่า มีชาวยิวอยู่จำนวนหนึ่งสัก ๑๐ เปอร์เซ็นต์ มีความคิดว่า น่าจะมีดินแดนสำหรับชาวยิวเพราะมีประวัติศาสตร์ดังกล่าวมา จึงเปิดโอกาสให้ชาวยิวอพยพเข้ามา เป็นที่มาของอิสราเอล อังกฤษปกครองจนสิ้นสมัยสงครามครั้งที่ ๒ เกิดสหประชาชาติ
เนื่องจากมีปัญหาความขัดแย้งมาก จึงยกให้สหประชาชาติแก้ปัญหา ในปี ๑,๙๔๗ สหประชาชาติจึงมีมติให้แบ่งพื้นที่กันเป็นปาเลสไตล์ และอิสราเอล
ปี ๑,๙๔๘ อิสราเอลประกาศตั้งรัฐใหม่ขึ้น ทำให้มุสลิมไม่ยอมรับจึงรวมกันยกทัพเข้าตี แต่ปรากฎว่า อิสราเอลชนะ และได้ดินแดนเพิ่มขึ้น ... เกิดสงครามยืดเยื้อต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งอิยิปต์ทำสงครามต้องการยึดอิสราเอล แต่ก็แพ้ไปเพียง ๖ วัน เรียกว่า "สงคราม ๖ วัน"
ประเด็นอื่น ๆ
คนไทยยกย่องฝรั่งเพราะไม่เคยถูกปกครองโดยฝรั่ง
ประเทศที่เคยถูกฝรั่งปกครองมาก่อนจะไม่ยกย่องฝรั่ง เช่น ศรีลังกา ฯลฯ ไม่เหมือนคนไทย
สิ่งที่ทำให้เกิดนิกายโปแตสแต็นคือ โป๊ปจะสร้างวิหารเซสท์ปีเตอสเบิร์ก จึงขายตั๋วบุญ มาตินลูเทอร์ไม่เห็นด้วย จึงประท้วง และได้รับการสนับสนุนจากเจ้าชายจากเยอรมัน จึงเกิดสงครามรบกันมามากมาย ยาวนานกว่า ๓๐ ปี เรียกว่า เทอร์ตี้เยียสวอร์
พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษองค์หนึ่งชื่อเอ็ดเวิร์ด จะไปแต่งงานกับแม่ม่าย โป๊ปไม่เห็นด้วย จึงแยกนิกายออกมาอีก ชื่อ นิกายอากริข่าน (Anglican) แล้วกำจัดชาวคาทอลิก
ลูกสาวของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดองค์หนึ่งขึ้นเป็นใหญ่ในคาทอลิก จึงกำจัดพวกโปรแตสแต็นต์ ราษฎรหนีภัยไปที่เนเธอแลนด์ และหนีไปอเมริกา เป็นผู้บุกเบิกศาสนาที่นั่น
ตั้งแต่ยุคเลเนอร์ซองค์มา ศาสนาคริสต์ก็ถูกแยกออกจากการเมืองการปกครองและค่อยเสื่อมลง
ท่านสรุปว่า การแสดงความเห็นนั้น ต้องมีความรู้จริง ถ้าจะวิจารณ์อะไรต้องหาความรู้ก่อน จุดเด่นของฝรั่งคือ "การหาความรู้" ไม่ใช่ "แสดงความคิดเห็น" การคิดต้องคิดบนฐานของความรู้ คิดอย่างมีเหตุมีผล